"ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด"
ตร.เตรียมสอบปากคำน้องสาวน.ศ.ราชภัฏเหยื่อปวส.โหด ขยายผลจับเพิ่ม หลังด.ญ.ให้ปากคำเบื้องต้นว่า พ่อแม่ของหนุ่มปวส.อยู่ในบ้านขณะเกิดเหตุด้วย แต่ต้องรอให้ด.ญ.สุขภาพแข็งแรงดีก่อน จ.ส.อ.พ่อเหยื่อโหดยืนยันเอาเรื่องถึงที่สุดทุกคนที่เกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้ขอจัดงานศพลูกสาวให้เสร็จก่อน พนักงานสอบสวนงดนำตัวหนุ่มปวส.ไปทำแผนจุดทิ้งศพอีก เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย ให้ชี้จากภาพถ่ายสถานที่พบศพแทน
จากเหตุการณ์นายอาทิตย์ พรหมจันทร์ นักเรียนชั้นปวส.ปี 1 โรงเรียนดุสิตพณิชยการ ก่อคดีสะเทือนขวัญ ใช้ปืนจ่อยิงทะลุอกน.ส.สุภาวดี หรือน้องอุ้ม แวงวรรณ อายุ 19 ปี น.ศ.ปี 1 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ตายสยองคาห้องน้ำในบ้านพักภายในซอยพหลโยธิน 30 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เพราะแค้นผู้ตายที่เคยเป็นคนรักบอกเลิกรา และยังใช้ด้ามปืนทุบหัวด.ญ.นิสารัตน์ หรือน้องอ้อม แวงวรรณ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้นป.6 โรงเรียนรุจิเสรีวิทยา น้องสาวของน.ส.สุภาวดีแล้วใช้สายไฟรัดคอจนแน่นิ่ง ก่อนชักชวนน.ส.จันจิรา พรหมจันทร์ อายุ 18 ปี น้องสาว กับนายแมว จักษุทิพย์ อายุ 27 ปี เพื่อน ช่วยกันนำร่างคนทั้งสองใส่รถซาเล้งไปทิ้งในพงหญ้าอำพรางคดี ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ติดตามจับได้ทั้ง 3 คน โดยดำเนินคดีนายอาทิตย์ในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนน.ส.จันจิรากับนายแมว ตั้งข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นทำลายศพ ศาลพิพากษาเปรียบเทียบปรับ 1,000 บาท ให้รอลงอาญาไว้ 1 ปี ก่อนปล่อยตัวไป ขณะที่จ.ส.อ.สมหมาย แวงวรรณ บิดาน.ส.สุภาวดี เชื่อว่าการก่อเหตุครั้งนี้น่าจะมีผู้รู้เห็นในการซ่อนเร้นทำลายศพมากกว่านี้ โดยเฉพาะบิดามารดานายอาทิตย์ ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว
ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ม.ค. พ.ต.ท.ธนกรณ์ ก้อนแก้ว รองผกก.สส. สน.พหลโยธิน กล่าวว่า ในวันนี้เจ้าหน้าที่งดการนำตัวนายอาทิตย์ไปทำแผนยังจุดที่ทิ้งศพ เพราะเกรงจะไม่ปลอดภัย โดยได้ให้ทางผู้ต้องหาชี้จากภาพถ่ายสถานที่พบศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่บันทึกเอาไว้แทน ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหากับการดำเนินคดี เพราะมีทั้งพยานและหลักฐานมัดแน่นหนา