กองปราบฯจับอดีตคนขายไม้กวาด เลียนแบบ ฆาตกรต่อเนื่อง
ตระเวนชิงทรัพย์ในย่านพื้นที่ โชคชัย 4 เกษตรนวมินทร์ นวลจันทร์ ใช้วิธีย่องเข้าไปฟาดหัว รปภ.ที่เผลอหลับยาม สารภาพทำมาแล้ว 13 ราย ตายไปแล้ว 2 ศพ อ้างเหตุที่ทำเพราะง่าย ผู้เสียหายไม่มีโอกาสต่อสู้ เผย รอง ผบช.ก. นายพลจอมทฤษฎี "พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์" สั่งเร่งรัด หลังมีเหตุทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยให้ใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์ และภูมิศาสตร์อาชญากรรม เป็นตัวไขคดี
ป.รวบคนร้ายทุบหัวฆ่าชิงทรัพย์ รปภ.หลับยาม
โดยเมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 29 ส.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รรท.ผบก.ป. แถลงข่าวจับกุมนายโจ๊ก เอี่ยมสุวรรณ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 121/1 หมู่ 9 ต.บ้านเก่า อ.เมืองกาญจนบุรี โดยกล่าวหาว่าฆ่าผู้อื่น และชิงทรัพย์ พร้อมของกลางไม้ 1 ท่อน โทรศัพท์มือถือ 14 เครื่อง และบัตรเครดิต 4 ใบ จับกุมได้ที่ ซอยนวมินทร์ 54 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
พ.ต.อ.สุพิศาลกล่าวว่า เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา มีเหตุคนร้ายใช้ไม้ทุบศีรษะเจ้าหน้าที่ รปภ. และเด็กเฝ้าของตามร้านค้าที่เผลอนอนหลับขณะปฏิบัติงาน
แล้วขโมยทรัพย์สินของผู้เสียหายไป เหตุเกิดในเขตพื้นที่ย่านลาดพร้าว โชคชัย 4 ย่านเกษตร-นวมินทร์ และซอยนวลจันทร์ โดย พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ รอง ผบช.ก. สั่งกองปราบฯเร่งรัดคดีนี้ เพราะมีลักษณะคล้ายคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง เมื่อปลายปี 50 คนร้ายจ้องก่อเหตุโดยเฉพาะกับ รปภ.ที่หลับยาม พร้อมให้แนวทางสืบสวนโดยใช้หลักพฤติกรรมศาสตร์และภูมิศาสตร์อาชญากรรม กระทั่งทราบถึงพฤติกรรมของคนร้ายมักก่อเหตุในช่วงตี 2 ไปจนเกือบเช้ามืด โดยใช้ไม้เป็นอาวุธตีศีรษะและท้ายทอยเหยื่อ ก่อนฉวยเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน ส่วนที่เกิดเหตุแต่ละรายอยู่ใกล้เคียงกัน คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในละแวกนั้น
รวบฆาตกร ฆ่าต่อเนื่อง เหยื่อ13รปภ.
รรท.ผบก.ป.กล่าวต่อว่า ต่อมา พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. นำข้อมูลที่วิเคราะห์ตามหลักดังกล่าว ร่วมกับฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม
ออกสืบสวนหาข้อมูลตามแหล่งขายโทรศัพท์มือถือ ในย่านปัฐวิกรณ์และตลาดตะวันนา จนได้เบาะแสพบผู้ต้องสงสัยรายนี้มักจะเอาโทรศัพท์มือถือมาขายเป็นประจำ เมื่อนำมาประกอบกับหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในคดีที่คนร้ายเข้าไปทำร้ายนายเรวัต พืชบัวงาม อายุ 50 ปี รปภ.ของบริษัทภูมิ จำกัด ขณะนอนหลับอยู่ในเต็นท์ขายรถจักรวาล หลังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ท้องที่ สน.โชคชัย ปรากฏมีรูปพรรณใกล้เคียงกัน ทราบชื่อว่านายโจ๊ก จึงเชิญตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวน นายโจ๊กรับสารภาพว่า ก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 47 รวมแล้ว 13 คดี มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 11 คน
ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ รปภ.ที่นอนหลับขณะปฏิบัติหน้าที่ เพราะง่ายกับการก่อเหตุ ผู้เสียหายไม่มีโอกาสต่อสู้ โดยจะตระเวนขี่รถจักรยานออกหาเหยื่อในช่วงตั้งแต่ตี 2 จนถึงเช้า เมื่อพบเหยื่อผู้เสียหายจะย่องเข้าไปใช้ไม้ตีหัวและชิงทรัพย์ เหตุที่ทำเพราะมีลูก 3 คน ไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว ก่อนหน้านี้มีอาชีพขายไม้กวาด แต่รายได้ไม่ดี ส่วนที่เลือกเหยื่อเป็น รปภ.ไม่ได้รังเกียจเป็นการส่วนตัวหรือเป็นโรคจิต แต่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
สำหรับเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องที่เคยเกิดขึ้น โดยคนร้ายจ้องก่อเหตุกับ รปภ.ที่หลับยาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 พ.ย.50
พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.4 นำกำลังจับกุมนายวิทยา หรือหอย ใจขาน อายุ 30 ปี อดีต รปภ.โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ภายหลังก่อเหตุในลักษณะเป็นฆาตกรโรคจิต ตระเวนใช้ไม้และเหล็กตี รปภ.ที่หลับยามและเมาสุรา ในเขตรามอินทรา อาจณรงค์ นวลจันทร์ นวมินทร์ และศรีนครินทร์ มาอย่างต่อเนื่องถึง 15 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บอีก 8 คน ก่อนลงมือชิงทรัพย์อ้างว่าไม่พอใจเป็นการส่วนตัวที่ รปภ.ชอบเอาเปรียบนายจ้างหลับยาม ทำไปเพราะต้องการสั่งสอนพวกที่หลับยามทำให้เสียสถาบันยาม