เมื่อเวลา 8.30 น. วันที่ 28 ธ.ค.ร.ต.อ.เอกภณ พุทธิกุล ร้อยเวร สภ.เมืองตราด
รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้ายิงเข้าไปในรถยนต์ โตโยต้าสีบรอนซ์ ใส่หลังคาไฟเบอร์ เลขทะเบียน บจ 6666 ตราด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถยนต์ และพุ่งเข้าไปในบริเวณบ้านของนางอรุณ อัชฌาศัย อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 65/2 หมู่ 2 ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด ซึ่งเป็นถนนสุขุมวิทขาเข้าหลัก กม.ที่ 2-3 หน้าโรงแรมสุขุมวิทอินน์
หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพบรถยนต์คันดังกล่าวพลิกตะแคงด้านหน้ากระจกได้รับความเสียหายทั้งหมด
กระจกด้านข้างคนขับแตก และมีรอยกระสุนปืนจำนวน 4 นัด ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระสุนปืน 2 นัด ตกอยู่บนถนน และอีก 1 นัดเป็นหัวกระสุนปืนฝังประตูเหล็กหน้าอู่รถ ภายในรถพบศพนายสมเดช กำเนิดสินธุ์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 215 หมู่ 7 บ้านท่าประดู่ ต.วังกระแจะ ซึ่งเป็นหัวหน้าคิวรถตู้สายตราด-จันทบุรี และเป็นอาสาสมัครคุ้มครองและสิทธิทางกฎหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามที่บริเวณศรีษะ ทำให้เสียชีวิตโดยสภาพศพศรีษะช่วงบนหายไปทั้งแถบสมองไหล ลงมากองกับพื้น สภาพนอนหงายพิงกับประตูรถด้านซ้าย ซึ่งรถยนต์ได้พุ่งชนเสาปูนหน้าบ้านและโอ่ง จากการชันสูตรของแพทย์เวรโรงพยาบาลตราด พบว่าผู้ตายถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่บริเวณศรีษะด้านบนจนสมองและ กระโหลกหลุดหายไปทั้งหมด
จากการสอบสวนทราบว่า นายสมเดชขับรถคันดังกล่าวออกจากบ้านพักเพื่อไปที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร ตั้งแต่เวลา 07.45 น.
เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้ชะลอความเร็วเนื่องจากเป็นทางลงเนินและเป็นทางโค้ง ปรากฏว่ามีรถกระบะโตโยต้า ตอนเดียว สีบรอนซ์ ไม่ทราบทะเบียน มีคนร้าย 2 คน ขับตามมาประกบและใช้อาวุธปืนอาก้ายิงผู้ตาย แล้วขับหลบหนีไปทางถนนสายท่าประดู่ - ฉางเกลือ
ส่วนสาเหตุในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ตายเป็นหัวหน้าคิวรถตู้สายจันท์-ตราด และกำลังขอคิวรถโดยสารสายจันท์-ตราด
โดยขอเป็นรถบัสโดยสาร ประเภท ป.2 ซึ่งที่ผ่านมาคิวรถสายดังกล่าวได้ถูกยุบลงเนื่องจากเจ้าของสัมปทานเดิมคือ บริษัท ขนส่ง จำกัด ทำผิดเงื่อนไข นายสมเดชและพวกจึงได้จัดตั้งคิวรถตู้ขึ้นมา เพื่อวิ่งรับส่งผู้โดยสารในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุญาตอยู่ นอกจากนี้อาจจะมีความขัดแย้งในเรื่องคิวรถตู้กับผู้ประกอบการรายอื่น
ขณะที่นางสายสมร กำเนิดสินธุ์ ภรรยาของผู้ตายให้รายละเอียดว่าทุกวันผู้ตายจะใช้รถยนต์คันดังกล่าวเดินทางมาที่สถานีขนส่ง จ.ตราดเป็นประจำ รวมทั้งวันนี้ด้วย
โดยก่อนหน้านี้ผู้ตายได้บอกก่อนหน้าจะเสียชีวิตว่ามีผู้ติดตามจะมายิง ขอให้ระวังตัว แต่ไม่ได้พูดอะไรมากกว่านี้ ซึ่งทุกวันผู้ตายจะนำปืนพกสั้น 11 มม. โคทธ์ ติดตัวมาและขึ้นลำกล้องตลอดเวลา ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นน่าจะมีความขัดแย้งกับการขอสัมปทานเดินรถที่ผู้ตายกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ส่วนสาเหตุอื่นยังไม่ทราบ