เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 19 ต.ค.ร.ต.ต.พงษ์ศานต์ วิลัย ร้อยเวร สภ.บางพลี สมุทรปราการ
รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกฆ่าชิงทรัพย์ในร้านค้าของชำ ริม ถ.สุขาภิบาล 4 ชุมชนประตูน้ำ หมู่ 6 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จึงรุดไปที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 63/1 ม.6 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เจ้าหน้าที่พบศพนางผ่องศรี อ่อนเที่ยง อายุ 65 ปี เจ้าของบ้านนอนตะแคงคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่บนที่นอนข้าวของภายในร้านถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลที่ใบหน้าถูกทุบด้วยของแข็งจนยุบที่คอ หน้าอก และตามลำตัวถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมหลายแห่ง และที่มือข้างขวาของผู้ตายยังกำด้ามมีดที่หักอยู่ ส่วนใบมีดหล่นอยู่ข้างศพ เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 ชั่วโมง
สอบสวนนายสมศักดิ์ อ่อนเที่ยง อายุ 45 ปี บุตรชายของผู้ตายให้การว่าตามปกติผู้ตายจะอาศัยอยู่ที่ร้านเพียงลำพังคนเดียว
และจะเปิดร้านในตอนเช้าทุกวัน ส่วนทรัพย์สินตามปกติที่เห็นอยู่จะมีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทที่สวมอยู่เป็นประจำและสร้อยข้อมือหนัก 50 สตางค์ ก่อนเกิดเหตุได้มีรถส่งน้ำแข็ง ซึ่งจะมาส่งให้ที่ร้านเป็นประจำนำน้ำแข็งมาส่งให้พร้อมทั้งเรียกผู้ตายเพื่อจะเก็บเงินแต่ผู้ตายไม่ขานตอบ และเห็นประตูด้านหน้าเปิดแง้มไว้จึงได้เปิดเข้าไป จึงพบว่าผู้ตายถูกทำร้ายนอนจมกองเลือดอยู่ จึงได้ไปแจ้งให้เพื่อนบ้านที่อยู่ข้างเคียงทราบ
ตรวจสอบภายในร้านเจ้าหน้าที่พบว่าผู้ตายได้นำสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาทและสร้อยข้อมือหนัก 50 สตางค์สร้อยคอมุก 1 เส้นซุกซ่อนไว้ในช่องฟรีซของตู้เย็น
ส่วนเงินสดประมาณ 2 หมื่นบาท ผู้ตายได้ซุกไว้ตามถุงยาของโรงพยาบาล คาดว่าคนร้ายน่าจะได้ทรัพย์สินไปจำนวนไม่มาก เพื่อนบ้านซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นญาติของผู้ตาย ให้การว่า ปกติผู้ตายนอกจากจะเปิดร้านขายของชำแล้วในตอนเย็นจะทำแกงไปขายที่ตลาดนัดใกล้บ้านด้วย และเท่าที่ทราบผู้ตายจะปล่อยเงินกู้ด้วยซึ่งจะต้องสืบสวนว่าผู้ตายให้ใครกู้เงินไปบ้างเป็นจำนวนเท่าไหร่และจะเป็นชนวนให้เกิดเหตุตามฆ่าล้างหนี้หรือไม่ หรือว่าจะเป็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ธรรมดา ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นไว้ 2 ประเด็นคือเรื่องชิงทรัพย์ และเรื่องต้องการชีวิตเนื่องจากบาดแผลที่พบตามตัวมีจำนวนมากซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าต้องการฆ่าให้ตายเพื่อหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งซึ่งจะได้ทำการสืบสวนต่อไป