คมชัดลึก : จับ"พลทหาร"สังกัด ปตอ.หิ้วปืนสงคราม หนีเวร-รัวฆ่าโชเฟอร์แท็กซี่ดับคาซอยรามคำแหง 60 ชิงรถหนี คุมเค้นสอบรับสารภาพอ้างเตรียมใช้ขับปล้นปั๊มหาเงินแต่งสาว
เมื่อเวลา 22.30 น.ร.ต.อ.ประยูร ทองนุ่น ร้อยเวร (สบ.1) สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตภายในซอยรามคำแหง 60 แยก 9 หรือซอยสุเหร่าหัวหมากน้อย
แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จึงรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก,พ.ต.อ.ปกรณ์ กิตติวัฒน์ ผกก.สส.บก.น.1.แพทย์นิติเวช,เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นซอยตันบริเวณพงหญ้าท้ายซอย เจ้าหน้าที่พบศพชายอายุประมาณ 35-40 ปี สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด
สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงสแลกสีดำ ที่แขนขวาถูกฟันด้วยของมีคมเป็นแผลฉกรรจ์และมีบาดแผลถูกยิงที่อก 2 นัดและช่องท้องอีก 3 นัด ตรวจสอบในร่างกายไม่พบเอกสารหลักฐาน พบเพียงเงินสด 400 บาท และโทรศัพท์มือถือหนึ่งเครื่อง เจ้าหน้าที่จึงติดต่อไปยังหมายเลขสุดท้ายที่ผู้ตายติดต่อ ทราบว่าผู้ตายชื่อนายชนะ ใสสะอาด เบื้องต้นจึงเก็บหลักฐานทั้งหมดในที่เกิดเหตุไปทำการตรวจสอบ
จากการสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีรถแท็กซี่สีฟ้าไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลยทะเบียนขับเข้ามาในซอยที่เกิดเหตุแต่เมื่อพบเป็นซอยตันจึงกลับรถ
หลังจากนั้นผู้ตายกับชายอีกคนได้ลงจากรถมาพูดคุยกันก่อนจะมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จากนั้นผู้ตายพยายามวิ่งหลบหนี แต่ถูกชายคนดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงใส่ 3 นัดซ้อนจนล้มลง ก่อนชายคนดังกล่าวจะตามเข้ามายิงซ้ำอีก 2 นัดแล้วขับรถแท็กซี่หลบหนีออกไป
ต่อมา เวลา 02.30 น.วันที่ 19 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สายไหม รับแจ้งพบรถต้องสงสัยก่อเหตุยิงนายชนะ ใสสะอาด อายุ 32 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 61 ม.4 ต.สระบัว อ.ปทุมรัตต์ จ.ร้อยเอ็ด จอดอยู่บริเวณหน้าปั๊มแก๊สชื่อโชคดีปั๊มแก๊ส ถ.สุขาภิบาล แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน ทว 4218 กทม.ของบริษัทไทยเอซ ลิซซิ่ง จำกัด ภายในรถพบพลทหารกิตติเชษฐ์ แดงเนียม ไม่ทราบอายุ ทหารอากาศสังกัด ปตอ. สวมเสื้อ ชุดทหารอากาศสีกรมท่าแบบเต็มยศ จึงเข้าตรวจสอบ จากการตรวจสอบภายในรถพบปืนชนิดเอชเค 1 กระบอก พร้อมแม็กกาซีนบรรจุกระสุนเต็มจำนวน 2 แม็กวางอยู่บนเบาะรถข้างคนขับจึงควบคุมตัวทำการสอบสวน
สอบสวนพลทหารกิตติเชษฐ์ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงนายชนะ ใสสะอาดจริง โดยตนเป็นทหารอากาศสังกัด ปตอ.ก่อนเกิดเหตุเข้าเวรอยู่
เมื่อเห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวขับผ่านมา จึงได้หนีเวรพร้อมอาวุธปืนดังกล่าว ก่อนจะโบกรถแท็กซี่เพื่อจะกลับบ้านพักย่านรามคำแหง 60 แต่เมื่อถึงจุดตนซึ่งมีอาการเครียดมาก่อนแล้วเนื่องจากต้องการนำเงินไปแต่งแฟนสาวที่อยู่ต่างจังหวัด จึงได้ใช้ปืนกระบอกดังกล่าวก่อเหตุปล้นรถแท็กซี่เพื่อใช้เป็นพาหนะในการใช้ปล้นปั๊มน้ำมันต่อ แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุ คนขับพยายามจะต่อสู้และวิ่งหนี ตนจึงได้ยิงก่อนจะขับหลบหนี แต่ระหว่างที่จะเข้าปล้นปั๊มแก๊สดังกล่าวก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมก่อน
พล.ต.ท. วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น.เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงและตั้งใจจะนำรถแท็กซี่คันดังกล่าวไปใช้ในการก่อเหตุปล้นปั๊มต่อ
แต่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับเสียเนื่องจากหลังก่อเหตุปล้นรถแท็กซี่แล้วขณะหลบหนีนั้นผู้ต้องหาได้ขับรถไปชนกับรถคันหนึ่งในท้องที่ สน.โชคชัยและหลบหนี แต่คู่กรณีจำรถและทะเบียนได้จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า รถคันดังกล่าวลักษณะคล้ายรถที่ก่อเหตุยิงนายชนะ จึงได้ออกสกัดจับจนพบขณะกำลังจะเลี้ยวเข้าก่อเหตุปล้นปั๊ม
ผบช.น.กล่าวต่อว่า จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นปืนของราชการหรือไม่ หรือว่าเป็นปืนส่วนตัว และถ้าเป็นปืนราชการผู้ต้องหานำออกมาได้อย่างไร ส่วนผู้ต้องหานั้นต้องนำตัวไปตรวจว่ามีสารเสพติดหรือไม่ เบื้องต้นฆ่าชิงทรัพย์โดยเจตนา