เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 16 ต.ค. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.น. เปิดเผยภายหลังสอบปากคำด.ญ.พิชยา จงงามวิลัย หรือน้องมินท์ อายุ 13 ปี
เหยื่อฆาตกรฆ่าหั่นที่รอดชีวิต โดยระบุว่า น้องมินท์มีความจำดีมาก สามารถจำทรัพย์สินของนางสุนันท์ ศรีสุวรรณ มารดา ได้ทั้งหมดว่านำอะไรติดตัวมาบ้าง คาดว่าจะมีข่าวดีในเร็ววันนี้ นอกจากนี้น้องมินท์ยังให้การด้วยว่าผู้ต้องหาได้นำศพมารดากลับมาที่บ้านก่อนเพื่อรูดทรัพย์สินจากนั้นจึงค่อยนำศพกลับไปทิ้งที่ลาดหลุมแก้ว ขณะนี้สามารถติดต่อบิดาของด.ช.โชได้แล้ว และเตรียมจะเดินทางมาเพื่อรับศพลูก ซึ่งตำรวจเตรียมจะสอบปากคำ พร้อมทั้งสาวประวัติ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมาของนางสุนันท์ ในการเดินทางเข้าออกประเทศว่าประกอบอาชีพอะไร นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ยังเป็นที่เคลือบแคลงคือเวลาในการเสียชีวิตของน้องโช ที่ผู้ต้องหาให้การไม่ตรงกับเจ้าหน้าที่นิติเวชวิทยา
เวลา 11.00 น. วันที่ 16 ต.ค. ที่หอผู้ป่วยใน ชั้น 7 โรงพยาบาลพระราม 9 น.พ.ไพรัช เจาฑะเกษตริน ผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายการแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูก
พร้อมด้วย นพ.วิทยา วันเพ็ญ จิตแพทย์ ที่ดูแลอาการของ ด.ญ.พิชยา หรือน้องมิ้นท์ จงงามวิลัย อายุ 13 ปี เหยื่อฆาตกรที่รอดชีวิต แถลงข่าว ภายหลังการตรวจอาการของน้องมิ้นท์เมื่อช่วงเช้า พบว่า โดยรวมนับว่าน้องมิ้นท์มีอาการดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีอะไรน่าวิตกเกี่ยวกับบาดแผลการผ่าตัด มีเพียงแผลที่บริเวณศอกซ้ายที่กระดูกแตก ซึ่งต้องทำกายภาพบำบัดอีกระยะหนึ่ง
นพ.วิทยา จิตแพทย์ กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้นับว่าน้องมิ้นท์มีสุขภาพจิตที่ดีขึ้นมากหากเทียบกับวันแรกที่เข้ามารักษาตัว
โดยขั้นตอนการเยียวยาสภาพจิตใจ ทางรพ.ใช้วิธีสร้างสัมพันธภาพ พยายามให้น้องมิ้นท์ได้รับความผ่อนคลายมากที่สุด ขณะนี้พบว่าสภาพจิตใจของน้องมินท์พร้อมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามทางรพ.ก็พยามที่จะไม่ให้น้องมิ้นท์ติดตามเรื่องของตัวเองผ่านสื่อมากนัก เนื่องจากเกรงว่าในบางกรณีของผู้ป่วยที่เคยผ่านเหตุการณ์ร้ายแรงมา อาจส่งผลกระทบกับสภาพจิตใจให้กับผู้ป่วย ทำให้เกิดอาการโรคซึมเศร้า วิตกกังวลอย่างรุนแรง และอาจถึงขั้นทำร้ายตัวเอง ซึ่งตรงนี้ทางแพทย์ผู้ให้การรักษาต้องระวังเพราะจะส่งผลถึงความปลอดภัยของเด็กผู้เสียหายด้วย