วันนี้(12ต.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ที่ 6 บ้านบ่อโพธิ์ ต.บ่อโพธิ์ อ.นครไทย
หลังได้รับแจ้งว่ามีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งได้แจกนมผงหมดอายุให้แก่มารดานำมาให้ทารกแรกเกิดดื่มแล้วเกิดท้องเสียอย่างหนัก เมื่อตรวจสอบดูกลับพบว่าหมดอายุมากว่า 2 ปีแล้ว พบนางวันรัก ปัญญาเครือ อายุ 47 ปี ผู้เป็นย่าพร้อมเพื่อนบ้านกำลังช่วยกันเลี้ยงดูหลานสาวฝาแฝด 3 คน ทราบชื่อคือ ด.ญ.อมรยุพา หรือ “น้องน้ำนิล” ปัญญาเครือ ด.ญ.อริราพา หรือ “น้องน้ำเพชร” ปัญญาเครือ และ ด.ญ.เกณิกา หรือ “น้องน้ำพลอย” ปัญญาเครือ ซึ่งฝาแฝดทั้ง 3 คนอายุได้ 2 เดือนเศษ อาศัยอยู่ในบ้านชั้นเดียวยกพื้นสูงสภาพเก่า พร้อมทั้งได้นำนมผงยี่ห้อหนึ่งมาให้ผู้สื่อข่าวพิสูจน์พบว่ามีทั้งหมด 18 กระป๋อง และถูกนำมาชงให้หนูน้อยฝาแฝดทั้ง 3 คนดื่มไปแล้ว 4 กระป๋อง เมื่อตรวจสอบวันเดือนปีผลิตและวันหมดอายุของนมผงดังกล่าวที่บริเวณใต้กระป๋อง พบว่านมบางกระป๋องหมดอายุตั้งแต่ปี 2007 และปี 2008 โดยเหลือนมผงที่ยังไม่หมดอายุ 6 กระป๋อง
นางวันรัก เปิดเผยว่า หลานทั้ง 3 คนนั้นเป็นลูกของ นายณัฐนันท์ ปัญญาเครือ อายุ 23 ปี
ซึ่งเป็นลูกชายของตนกับ นางเกศรา ลิ้นทอง อายุ 24 ปี โดยคลอดเมื่อวันที่ 23 ก.ค.52 ที่ รพ.แห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก แต่เมื่อหนูน้อยทั้ง 3 คนคลอดออกมาได้ประมาณ 4 วัน มารดาเด็กได้เสียชีวิตลง แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากหัวใจวายกะทันหันหลังคลอด ครอบครัวของตนจึงเรียกร้องให้ทางโรงพยาบาลดังกล่าวรับผิดชอบที่ทำให้ลูกสะใภ้ตนต้องเสียชีวิตเป็นเงิน 1 แสนบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายดูแลหลาน แต่ทางโรงพยาบาลต่อรองจ่ายชดเชยให้เพียง 2 หมื่นบาท พร้อมทั้งมอบนมผงทั้ง 18 กระป๋อง ในวันที่ 10 ก.ย.52 แต่หลังจากที่ให้หลานดื่มนมปรากฎว่าเกิดอาการท้องเสียอย่างหนักจนร้องไห้งอแง ตอนแรกตนคิดอุปกรณ์ที่นำมาใส่นมให้หลานดื่มไม่สะอาด พอตรวจดูวันเดือนปีผลิตและวันหมดอายุ พบว่านมผงดังกล่าวหมดอายุมา 1-2 ปีแล้ว จึงติดต่อขอความช่วยเหลือจากประชาชนผ่าน “เดลินิวส์” ให้เป็นสื่อกลางนำเสนอข่าว เนื่องจากครอบครัวของตนมีฐานะอยากจนไม่มีเงินซื้อนมให้หลานสาวทั้ง 3 คนประทังชีวิต