รวบพระหนุ่มเลือดร้อน แค้นฟันเพื่อนพระสาหัส เหตุต่างเมารับออกพรรษา

ตำรวจหนองคาย รวบพระเลือดร้อนควงอีโต้ฟันเพื่อนพระขณะทำวัตรเย็น รับสารภาพวันเกิดเหตุดื่มเหล้าฉลองออกพรรษา ต่างฝ่ายต่างเมาก่อนมีปากเสียง ชกต่อย แต่สู้ไม่ไหวคว้าอีโต้ฟันก่อนหนีกบดานป่าช้า อ้างแค่อยากสั่งสอน

หนองคาย- วันที่ 11 ต.ค. 52  เมื่อเวลา 14.30 น.  พล.ต.ต.พิสัณห์ อาวีกร วรเทพนิตินันท์ ผบก.ภ.จว.หนองคาย สั่งการให้ พ.ต.ท.สมชาย สงวนศักดิ์ภักดี รองผกก.(ป.)สภ.เมืองหนองคาย,ร.ต.ท.พีระพัฒน์ หาระคุณ ร้อยเวรสอบสวน คุมตัว นายณรงค์ แข็งข้อ หรือ พระณรงค์ อายุ 36 ปี อดีตพระลูกวัดโพธิ์ศรี เขตเทศบาลเมืองหนองคาย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังจากที่นายณรงค์ ได้ก่อเหตุใช้มีดฟันพระสมัคร ชูนาค อายุ 30 ปี พระวัดเดียวกัน บริเวณศีรษะและลำคอ อาการสาหัส ขณะทำวัตรเย็น เมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้  นายณรงค์ให้การรับสารภาพว่า ในวันเกิดเหตุ ตอนเช้าหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรี ใช้ให้ตนกับพระสมัคร ไปเก็บกระทงที่เสร็จจากการประกวดกระทงยักษ์ในงานออกพรรษา ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง

โดยต่างพากันออกเงินซื้อเหล้ามาดื่ม 2 แบน และเบียร์อีก 1 ลัง นั่งดื่มเหล้าเบียร์กันไปด้วยทำงานไปด้วย โดยมีพระหยอย ซึ่งอยู่วัดเดียวกัน และ นายเซีย ญาติโยมละแวกวัด มาร่วมดื่มด้วย แต่ปรากฏว่าพระสมัครไม่ยอมช่วยงาน มัวแต่ดื่มเหล้า ตนจึงไม่พอใจ และเกิดการทะเลาะกันขึ้น พระสมัคร พระหยอยและนายเซีย ต่างพากันรุมชกต่อยตนจนปากแตก ตนสู้ไม่ได้จึงหนีเข้ากุฏิที่วัด จนถึงช่วงบ่ายขณะกำลังพักผ่อนอยู่ในวัดพระสมัครก็มาพูดจาหาเรื่องตนและชกต่อยกันอีก ก่อนจะแยกย้ายกันไป พอถึงเวลาทำวัตรเย็นประมาณ 18.20 น. พระรูปอื่น ๆ ได้พากันเข้าโบสถ์สวดมนต์ทำวัตร แต่ตนไม่ได้เข้าทำวัตรด้วยเพราะคิดแค้นโมโหพระสมัครอยู่ไม่หาย จึงหาวิธีเอาคืน

นายณรงค์ กล่าวอีกว่า  หลังจากเดินวนเวียนอยู่หน้าโบสถ์อยู่นาน พบมีดอีโต้อยู่หน้ากุฎิของพระอีกรูปหนึ่ง ตนจึงหยิบเอามีดอีโต้ แล้วเดินเข้าไปในโบสถ์

ตรงไปหาพระสมัครแล้วฟันบริเวณศีรษะ และลำคอ 2 ครั้ง โดยไม่คิดจะให้ถึงตาย แค่อยากสั่งสอนให้รู้สำนึกเท่านั้น ขณะที่พระรูปอื่น ๆ พากันแตกตื่นตกใจวิ่งหนีไปคนละทาง หลังจากนั้นตนนำมีดไปเก็บที่เดิมแล้ววิ่งหนีออกจากวัดไปทั้งที่ยังห่มผ้าเหลืองอยู่ โดยไปซ่อนตัวที่วัดป่าเนินพระเนาว์ และได้ลาสิกขาที่วัดดอนสวรรค์ ซึ่งตนเคยจำพรรษาอยู่ก่อนหน้านี้ หลังจากลาสิกขาแล้วจะไปหางานทำที่กรุงเทพฯ แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน

อย่างไรก็ตาม อดีตพระเลือดร้อนรูปนี้ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้เคยติดคุกในข้อหาทำร้ายร่างกายมาแล้ว 2 ครั้ง และลักทรัพย์ 1 ครั้ง พอพ้นโทษเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมาก็มาบวชเป็นพระ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แล้วควบคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนอาการของพระสมัครนั้นยังคงสาหัส รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลหนองคาย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์