เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 2 ต.ค. อินโดนีเซียประกาศขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย เครื่องมือขุดเจาะ รวมถึงเวชภัณฑ์ยา ในการกู้ภัยแผ่นดินไหว 7.6 ริกเตอร์ในเมืองปาดัง จ.สุมาตราตะวันตก ปฏิบัติการดังกล่าวต้องแข่งกับเวลา เนื่องจากขณะนี้ศพใต้ซากเริ่มส่งกลิ่นโชยออกมาแล้ว เจ้าหน้าที่สหประชาชาติแถลงจำนวนยอดผู้เสียชีวิต 1,100 ราย
นางสิตี ฟาดิลาห์ สุปารี รมว.สาธารณสุขอินโดนีเซีย กล่าวว่า ยังมีชาวบ้านติดอยู่ใต้ซากอีกมาก จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในการขนย้าย ส่วนนายซูร์ยาดี โซดาร์โม ศัลยแพทย์จากจาการ์ตา กล่าวว่า ทีมกู้ภัยไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมเลย ไม่มีแม้กระทั่งสุนัขไว้ดมกลิ่น การควบคุมบัญชาการไม่ดีพอ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเสี่ยงอันตรายด้วย
วันเดียวกัน หน่วยกู้ภัยช่วยชีวิตสองสาวที่ติดค้างใต้ซากกว่า 40 ชั่วโมงออกมาได้ ทำให้มีกำลังใจช่วยเหยื่อรายอื่นที่อาจรอดชีวิตอยู่ รายแรกชื่อ น.ส.รัตนา คูร์เนียส่าหรี วีร์โก อายุ 19 ปี ติดอยู่ใต้ซากอาคารวิทยาลัยสอนภาษาในเมืองปาดัง สภาพยังมีสติดีแต่ขาหัก ท่ามกลางเสียงเชียร์ของผู้ที่มุงดู อีกรายชื่อ น.ส.โนปา ลิเบียนาวโฮ วัย 20 ปี ส่งเสียงร้องออกมาจากใต้ซากอาคารที่กองเป็นภูเขายักษ์
ประธานาธิบดีสุศิโล บัมบัง ยุดโธโยโน ผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศว่า รัฐบาลให้เงินช่วยเหลือ 10 ล้านดอลลาร์ หรือราว 335 ล้านบาท และจะแจกจ่ายไปโดยเร็ว ด้านนานาชาติ ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ มอบเงินฉุกเฉิน 3 แสนดอลลาร์ และอีก 3 ล้านดอลลาร์สำหรับช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหว ส่วนไทย จัดส่งยาที่จำเป็นเร่งด่วนมูลค่า 3 ล้านบาท และแพทย์จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เจ้าหน้าที่จากศูนย์บรรเทาทุกข์สภากาชาดไทยไปช่วย
สำหรับเหตุภัยพิบัติจากพายุที่ฟิลิปปินส์ มีรายงานว่า ประธานาธิบดี กลอเรีย อาร์โรโย ประกาศภาวะภัยพิบัติทั่วประเทศ เพื่อเตรียมรับพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ชื่อ "ป้าหม่า" ความเร็ว 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากพายุกิสนา คร่าชีวิตชาวฟิลิปปินส์ไปแล้ว 293 ราย
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
