กรณีเกิดเหตุเพลิงไม้บ้านของนายณัฐพล รื่นถวิล
ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ ช่อง3ประจำจ.พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดริมแม่น้ำป่าสัก ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงกลางดึกวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา เพลิงเผาวอดไปหมดเกือบทั้งหลัง เบื้องต้นยังพบว่าน่าจะเป็นการวางเพลิงเผาบ้าน เพราะมีร่องรอยคราบน้ำมันและประตูหน้าบ้านเปิดอ้า ทั้งที่ก่อนเกิดเหตุนายณัฐพล ได้ปิดล็อคบ้านเอาไว้แน่นหนา ส่วนสาเหตุอาจจะมาจากการนำเสนอข่าวเปิดโปงกลุ่มอิทธิพลขบวนการยาเสพติด นอกจากนี้ช่วงเช้าวันเดียวกันยังเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์บ้านพักของนายธนากร ชัยถิติ ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ ช่อง 7 ประจำ จ.อยุธยาฯ เหตุเกิดที่บ้านกลางชุมชนวัดเชิงท่า ต.ท่าวาสุกี อ.พระนครศรีอยุธยา
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 เดินทางไปตรวจสอบบ้านนักข่าวที่ถูกวางเพลิง จากนั้นเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ตำรวจวิทยาการเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวโดยด่วน หากผลสรุปอย่างเป็นทางการออกมาว่าเป็นการลอบวางเพลิง จะต้องเร่งหาสาเหตุและหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นการคุกคามสื่อมวลชนอย่างร้ายแรง โดยเหตุร้ายที่เกิดกับบ้านผู้สื่อข่าว 2 รายในวันเดียวกันนั้น เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 กลุ่มไม่น่าเกี่ยวข้องกัน เนื่องจากกรณีงัดบ้านนักข่าวช่อง 7 น่าจะเป็นพวกโจรที่ก่อเหตุเพื่อเอาทรัพย์สิน
ผบช.ภ.1 กล่าวต่อว่า
ฝากเตือนผู้สื่อข่าวในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ทุกคน ให้ระมัดระวังตัวในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะช่วงใกล้เลือกตั้ง เนื่องจากสื่อมวลชนมีทั้งผู้ประสงค์ดีและประสงค์ร้าย อีกทั้งการทำงานบางครั้งอาจไปกระทบกลุ่มอิทธิพลในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ที่เสียผลประโยชน์จากการเสนอข่าวเปิดโปงของสื่อมวลชน บางกลุ่มอาจโกรธแค้นจึงพยายามหาทางข่มขู่ลอบทำร้ายได้ ล่าสุดสั่งการให้พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.พระนครศรีอยุธยา เข้าไปดูแลคดีอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือ 50,000 บาท โทรทัศน์ 1 เครื่อง และพระพุทธรูป 1 องค์ ขอยืนยันว่าจะเร่งรัดจับกุมตัวผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว