บานปลาย! สั่งสอบ ผกก.บางซื่อ ปมเงิน39ล้านเจ๊อ้อย-ทนายตั้ม

จากข้อมูลที่มีการรายงาน สรุปได้ว่าเหตุการณ์เริ่มจาก นางสาวสารินี ภรรยาของนายนุ คนสนิทของทนายตั้ม (นายษิทรา เบี้ยบังเกิด) ได้เข้าแจ้งความที่ สน.บางซื่อ โดยกล่าวหาว่าถูกดูดเงินจากบัญชีบิทคอยน์ที่เชื่อมกับบัญชี Gmail ซึ่งมีมูลค่าเสียหายถึง 2,276,400 บาทจากการโอนเงินให้กับบุคคลที่ไม่รู้จักโดยใช้การสแกนคิวอาร์โค้ด

แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเหตุการณ์หลังจากนั้น เมื่อทนายตั้ม ได้แจ้งกับเจ๊อ้อย ว่าถูกดูดเงินจากกระเป๋าดิจิตอลกว่า 39 ล้านบาท เป็นที่มาเจ๊อ้อยโอนเงินเพื่อรับผิดชอบเข้าบัญชีของนางสาวสารินีตามคำร้องขอของทนายตั้ม ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ตำรวจจากกองปราบปรามเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และพบว่ามีข้อสงสัยหลายประการ ทั้งในส่วนของการแจ้งความ และการดำเนินการของ พ.ต.อ.ภูวดล

จากการที่ตำรวจกองปราบปรามพบความผิดปกติในขั้นตอนการแจ้งความของ พ.ต.อ.ภูวดล ทำให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบทบาทของ พ.ต.อ.ภูวดล ในการจัดการกรณีนี้ โดยกำหนดเวลาไม่เกิน 15 วันเพื่อพิจารณา และตัดสินใจว่า พ.ต.อ.ภูวดล มีส่วนเกี่ยวข้องหรือกระทำผิดตามที่ถูกสงสัยหรือไม่ หากผลการสอบสวนไม่พบความผิด ก็จะถือว่าไม่มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แต่หากพบว่ามีการกระทำผิดหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ ก็จะมีการพิจารณาดำเนินการลงโทษตามระเบียบและขั้นตอนต่อไป