ทนายตั้ม เล่าเบื้องลึก ลุงพล ถูกออกหมายจับ-พูดถึง สรยุทธ ด้วย!

หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ทนายตั้ม เล่าเบื้องลึก ลุงพล ถูกออกหมายจับ-พูดถึง สรยุทธ ด้วย!

หลังจากศาลจังหวัดมุกดาหารให้ประกันตัว นายไชย์พล วิภา หรือ "ลุงพล" ผู้ต้องหาในคดีน้องชมพู่ โดยตีหลักทรัพย์วงเงิน 1.8 แสนบาท พร้อมข้อกำหนดเงื่อนไขห้ามผู้ต้องหาหลบหนี ข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งต่อมาทาง นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความของลุงพล ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า "#เบื้องลึกประกันตัวลุงพล พร้อมตอบทุกคำถามเวลา 13.00 น. เจอกันที่ช่องยูทูบ ทนายตั้มษิทรา แล้วพบกันนะครับ" นั้น

ล่าสุด ทนายตั้ม พูดถึงประเด็นที่ "สรยุทธ สุทัศนะจินดา" ที่คุณสรยุทธโพสต์ประเด็นลุงพล และมีแฮชแท็ก #เซเลปคดีฆาตกรรม ก็เลยสงสัยว่าพิมพ์แบบนี้ได้อย่างไร ส่วนตัวไม่สบาย อย่าลืมว่าการไปบอกว่าเป็นเซเลปฆาตกรรม เหมือนไปยืนยันข้อเท็จจริงว่าเป็นลุงพล จะดูหมิ่นประมาทคนอื่น ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพิมพ์แบบนี้

และคุณสรยุทธ ก็มีการพูดการเป็นนักข่าวที่ดี อย่าให้สื่อทำให้ฆาตกรรมเป็นเซเลป คุณสรยุทธไปในทางคดีจริงๆ เลยเข้าใจว่าคุณสรยุทธอยากให้สื่อเดินตามแนวทางของสื่อที่ดี ไม่ได้มาตำหนิ แต่อยากเป็นกำลังใจ ก็อยากให้คุณสรยุทธวางแนวทางสื่อที่เป็นแบบแต่ก่อน ก่อนที่คุณสรยุทธจะไม่อยู่ ที่ไม่ใช่เอาแต่สร้างความเกลียดชัง ขายข่าว ได้เรตติ้ง แต่ประชาชนไม่ได้อะไรเลย

แต่ทั้งนี้ สรยุทธเขาไม่ได้หิวแสงและไม่ได้ชี้นำแต่อย่างใด คุณสรยุทธต้องเตือนนักข่าวด้วยนะครับว่า อย่าให้นักข่าวเอาอารมณ์ใส่กับข่าว และการที่คุณสรยุทธบอก เซเลปฆาตกรรมนี้ อย่าทำอีกเลยนะครับ

ต่อมา เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ออกหมายจับจนถึงการขอประกันตัวว่า "จริงๆ รู้ถึงกระแสข่าวนานแล้วว่าจะมีการออกหมายจับ และเคยยื่นคำร้องต่อศาลมาแล้วว่า หากมีการออกหมายจับจะต้องมีการไต่สวนก่อน แต่ทุกอย่างก็เงียบไป จนเมื่อช่วงวันที่ 1 มิ.ย. ครบรอบ 1 ปีพอดี ซึ่งก่อนหน้านี้ผมได้คุยกับลุงพล ให้ลุงพลมาหาที่บ้าน และคุยกันว่าจะให้มอบตัวที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะทาง ผบ.ตร. เป็นคนดูแลเรื่องนี้ และไม่ใช่เรื่องที่แปลกที่จะมอบตัวที่นั้น ซึ่งผมได้ติดต่อไปที่ทางโฆษก ตร. ก่อนจะเข้าไปมอบตัวแล้ว และท่านก็บอกว่าเข้ามาเลย จะไม่มีการดักจับกลางทางแน่นอน

แต่ก่อนจะเข้ามอบตัวมีท่านผู้การโทรฯมาบอกว่า ไม่สามารถมอบตัวที่ สตช.ได้ เนื่องจากเป็นนโยบายของ ผบ.ตร. ให้ไปมอบตัวที่ สน.ปทุมวัน แต่มีคนแจ้งว่าทาง สน.มีการเตรียมกำลังตำรวจไว้เรียบร้อบแล้ว ผมจึงตัดสินใจพาลุงผลไปมอบตัวที่ สตช. โดยแจ้งกับทางนักข่าว และไปตามนัด ให้ลุงพลตามเข้ามา สุดท้ายผิดคิว ลุงพลเข้าไปยังห้องโถงกลางและอยู่กับทาง ผบ.ตร. ซึ่งผมยืนยันไม่ได้แอบ เพราะก็เข้าตามที่แจ้งไว้ แต่ก็ถูกตำรวจท่านหนึ่งใช้อำนาจจับกุมทั้งที่เข้ามอบตัวแล้ว และเดินทางมาที่มุกดาหาร

พอถึงที่ สภ.มุกดาหาร ท่าน ผบช.ภาค 4 ก็เดินทางมาด้วยตัวเอง ผมได้แจ้งท่านไปว่า ลูกน้องของท่านออกหมายจับอันเป็นเท็จ ท่านฟังแต่คงไม่ทำอะไร แต่ผมจะร้องศาลเจ้าหน้าที่ละเมิดอำนาจศาล และปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และเมื่อถึงตอนยื่นประกันตัว ทางตำรวจคัดค้านการประกันตัว รวมถึงแม่น้องชมพู่ด้วยที่คัดค้าน โดยยื่นพยานมาทั้งหมด 5 ปาก ซึ่งแม่น้องชมพู่ให้การว่ากลัวถูกลุงพลทำร้าย ซึ่งผมบอกเลยว่าลุงพลไม่เคยไปยุ่ง เกี่ยวข้องกับพยานเลย ลุงพลจะไปทำร้ายทำไม นอกจากนี้ พยานอีกปากก็ให้การว่า เคยถูกลุงพลว่าจะข่มขู่ทำร้าย ซึ่งแค่ลุงพลทำท่ายกไหล่ เลยคิดว่าลุงพลข่มขู่ ปากสุดท้ายเป็นตำรวจยศ พ.ต.ท. ซึ่งให้การว่าลุงพลหลบหนีหมายจับ ผมเลยถามว่าหมายจับนั้นท่านเป็นคนให้นักข่าวใช่ไหม นายตำรวจท่านนั้นบอกว่าไม่ได้ให้ เพราะมันเป็นความ นั่นหมายความว่าทางลุงพลก็ต้องไม่ทราบหมายจับ จะหาว่าลุงผลหลบหนีไม่ได้"

นอกจากนี้ ทนายตั้มยังบอกอีกว่า "สุดท้ายผมจึงวางข้อกำหนดกับทางศาลว่า ถ้าลุงพลหลบหนี ข่มขู่พยาน ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน สามารถถอนเงินประกัน และจับเข้าคุกได้ทันที จนในที่สุดเวลา 16.00 น. ก็ได้มีการประกันตัว จริงๆ ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นแบบอย่าง ซึ่งได้ติดต่อกับทางคุณสิระให้นำเรื่องนี้เข้าสู่กรรมาธิการในเรื่องที่ตำรวจทำไม่ถูกต้อง ดำเนินคดีต่อ ในกรณีที่ตำรวจแจ้งจับ และไม่รับมอบตัว พร้อมทั้งพยายามจะเดินเรื่องแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องด้วย"