ฝากขัง แม่ปุ๊ก แฉ พฤติกรรมสุดโหดเหี้ยม วางยาในอาหารป้อนลูก


ฝากขัง แม่ปุ๊ก แฉ พฤติกรรมสุดโหดเหี้ยม วางยาในอาหารป้อนลูก


เปิดคำร้องฝากขัง "แม่ปุ๊ก" แฉ พฤติกรรมสุดโหดเหี้ยม วางยาในอาหารป้อนลูกกับมือ !

วันที่ 25 พ.ค. ผู้สื่อข่าวมีรายงาน เกี่ยวกับคำร้องขอฝากขัง นางสาวนิษฐา วงวาล หรือแม่ปุ๊ก ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่า วางยาลูก 2 คน จนเสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส โดยมีเนื้อหาโดยสรุปว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้รับตัว นางสาวนิษฐา วงวาล อายุ 29 ปี เพื่อดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่า รับไว้ซึ่งเด็กโดยมีความมุ่งหมายเพื่อเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย , ฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น และฉ้อโกงประชาชน

พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563 นางสาวเอม (มารดาแท้ๆของน้องยิ้ม) ซึ่งเป็นผู้กล่าวหา ได้มาร้องทุกข์ ที่กองบังคับการปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับนางสาวนิษฐา โดยแจ้งว่า

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ได้ถูกผู้ต้องหา หลอกลวงว่าจะขอรับอุปการะเลี้ยงดูบุตรของนางสาวเอม ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ โดยหลอกลวงให้หลงเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้มีฐานะดีมีอาชีพการงานที่มั่นคงโดยอ้างว่าเป็นเภสัชกร เมื่อนางสาวเอมคลอดบุตรแล้ว ชื่อว่าน้องยิ้ม ผู้ต้องหา ได้มารับตัวน้องน้องยิ้ม ที่โรงพยาบาลนครสวรรค์ประชารักษ์ เพื่อไปดูแล

ต่อมาผู้ต้องหาได้แจ้งว่าน้องยิ้ม มีอาการป่วยมีความจำเป็นต้องทำประกันสุขภาพจึงหลอกลวงให้นางสาวเอมอัชนา ทำการเปิดบัญชีธนาคารทหารไทย จำนวน 1 บัญชี และผู้ต้องหา ได้เปิดบัญชีธนาคารทหารไทย อีกจำนวน 2 บัญชี เป็นชื่อบัญชีของนางสาวเอมอัชนา ปรากฏว่า ผู้ต้องหา ได้นำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปใช้ในการแสวงหาประโยชน์โดยอ้างว่าเป็นมารดาของน้องยิ้ม ที่ป่วยด้วยโรค “เรนินโนม่าห์” และใช้เป็นเครื่องมือในการโฆษณารับบริจาคเงินผ่านเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งบริจาคเงินโดยตรงและในรูปแบบของการซื้อสิ่งของเช่นเครื่องมือแพทย์ เครื่องมือวัดไข้ จนมีผู้หลงเชื่อโอนเงินบริจาคเข้าบัญชีธนาคารตามที่กล่าวมาข้างต้นจำนวนมาก

จากนั้น นางสาวนิษฐา ได้แจ้งกับนางสาวเอม ว่าน้องยิ้มป่วยหนักเข้าทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และในวันที่ 12 สิงหาคม 2562 น้องยิ้มได้เสียชีวิต ในระหว่างที่รักษาตัวจนถึงเสียชีวิต ผู้ต้องหาห้ามไม่ให้นางสาวเอม เข้ามาเยี่ยมดูอาการไข้และไม่ให้ไปร่วมงานศพ โดยอ้างว่าสามารถดูแลได้และไม่อยากเห็นหน้านางสาวเอม เนื่องจากมีหน้าตาคล้ายกับน้องยิ้ม หากเห็นแล้วจะมีความคิดถึง นางสาวเอมอัชนา ได้หลงเชื่อจึงไม่ได้ไปเยี่ยมไข้และไม่ได้ไปร่วมงานศพแต่อย่างใด



จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้รับอุปการะเลี้ยงดูน้องยิ้มจริง และอ้างว่ามีบุตรชายอีก 1 คนชื่อ น้องอิ่มบุญ อายุ 2 ขวบเศษ ไม่ปรากฏชื่อของบิดา และมีพฤติกรรมฉ้อโกงหลอกลวงขายสินค้าเครื่องมือแพทย์ พบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีธนาคารดังกล่าวจำนวนถึง 20 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาเพียง 2 ปี โดยเงินดังกล่าวผู้ต้องหาเป็นผู้นำไปใช้ประโยชน์ทั้งหมด

จากการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์แพทย์ เป็นผู้ทำการรักษาอาการเจ็บป่วยของน้องยิ้มและน้องอิ่มบุญ พบว่า ทั้งน้องยิ้มและน้องอิ่มบุญ ได้รับสารพิษประเภท “สารกัดกร่อน” ซึ่งเป็นกรดหรือด่างเข้าสู่ร่างกายซึ่งคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่ดื่มสารพิษประเภทน้ำยาล้างห้องน้ำ ไฮเตอร์ เพื่อฆ่าตัวตาย จากการเฝ้าดูอาการของแพทย์และพยาบาลผู้ทำการรักษาพบว่า เมื่อนางสาวนิษฐา มาเยี่ยมไข้ได้นำอาหารมาให้น้องยิ้มและน้องอิ่มบุญกิน จะมีอาการทรุดหนัก ปากบวมมีเลือดออกที่ปาก จมูกและมีอาการข้างเคียงเกิดขึ้นมากมาย 

โดยทุกครั้งเมื่อเด็กมีอาการเจ็บปวดทุกข์ทรมาน นางสาวนิษฐา จะถ่ายรูป ถ่ายทอดสดเพื่อนำไปโฆษณาแสวงหาประโยชน์เรียกรับเงินบริจาคแก่ผู้มีจิตเมตตาสงสารทุกครั้ง แพทย์ผู้ทำการรักษา ฝ่ายกฎหมาย และนักสังคมสงเคราะห์ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว จึงเชื่อว่านางสาวนิษฐาเป็นผู้ให้สารพิษประเภท สารกัดกร่อน เข้าสู่ร่างกายด้วยการกินเพื่อให้น้องยิ้มและน้องอิ่มบุญมีอาการเจ็บป่วยทุกขเวทนาน่าสงสาร แสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ผู้ต้องหาเอง

ฝากขัง แม่ปุ๊ก แฉ พฤติกรรมสุดโหดเหี้ยม วางยาในอาหารป้อนลูก

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี INN NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 2 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10:40 น. ]
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์