เผยคำให้การคดี แม่ปุ๊ก สงสัยวางยาลูก ส่อไม่ใช่แม่ น้องอิ่มบุญ


เผยคำให้การคดี แม่ปุ๊ก สงสัยวางยาลูก ส่อไม่ใช่แม่ น้องอิ่มบุญ


จากกรณีจับกุม น.ส.นิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) หรือ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี หลังจากพบพฤติกรรมต้องสงสัยว่า น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องในการทำให้ ด.ช.อิ่มบุญ อายุ 2 ขวบ บุตรแท้ๆ และ ด.ญ.อมยิ้ม อายุ 4 ขวบ บุตรบุญธรรม ล้มป่วยด้วยอาการผิดปกติ เพื่อสร้างเรื่องให้ดูน่าสงสารในการหลอกเอาเงินจากคนอื่น ทำให้ ด.ญ.อมยิ้ม เสียชีวิต ส่วนด.ช.อิ่มบุญ ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันที่ 23 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าว ขณะนี้ยังอยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่เนื่องจากทางตำรวจท้องที่เกิดเหตุยังมีข้อจำกัดในหลายประการ ทั้งในขอบเขตอำนาจการสอบสวน บุคลากร รวมทั้งอุปกรณ์ทางด้านเทคนิคต่าง ๆ จึงมีการเสนอเรื่องโอนคดี ให้มาอยู่ในความรับผิดชอบของกองปราบ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ

ขณะเดียวกัน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ลงพื้นที่เพื่อสืบสวนหาพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีทั้งหมด โดยเจ้าหน้าที่ตั้งประเด็นสงสัยทางคดี ที่จะต้องคลี่คลายไว้กว่า 20 ประเด็น โดยเฉพาะข้อสงสัยในเรื่องที่ด.ช.อิ่มบุญ ที่ได้รับการรักษาจนปลอดภัยแล้วนั้นเป็นบุตรแท้ๆของน.ส.นิษฐาหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งต่อว่า แม้ว่าในใบสูติบัตรจะยืนยันชัดเจนว่า น.ส.นิษฐา เป็นมารดาของเด็กถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม แต่เนื่องจากว่าในทางกฎหมายเรื่องแจ้งเกิดบุตรนั้น ยังมีช่องโหว่บางอย่างที่ทำให้บุคคลที่ไม่ใช่บิดามารดาที่แท้จริง สามารถจดทะเบียนเป็นมารดาของเด็กได้ ซึ่งการจะพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ได้ ก็ต้องตรวจหาดีเอ็นเอ โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของ น.ส.นิษฐา และด.ช.อิ่มบุญ ส่งไปตรวจพิสูจน์แล้ว สัปดาห์หน้าคาดว่าน่าจะได้ผลตรวจ


รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับกรณีที่ทำให้เกิดข้อสงสัย ส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของผู้เป็นแม่ เนื่องจากพบว่าช่วงที่ ด.ช.อิ่มบุญมีอาการป่วยหนักอยู่นั้น ปกติของคนเป็นแม่ทั่วไป ก็จะต้องเพิ่มความเอาใจใส่ดูแลลูกที่กำลังป่วย แต่ช่วงนั้นกลับพบพฤติกรรมของน.ส.นิษฐาว่า ให้ความสนใจแต่เรื่องการถ่ายคลิปวิดีโอ และโพสต์ข้อความลงในสื่อออนไลน์ เพื่อสร้างกระแสและมุ่งหวังแต่ยอดเงินบริจาค


ขณะเดียวกันยังมีการข้อสังเกตุด้วยว่า เมื่อมีการส่งตัวด.ช.อิ่มบุญไปอยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว เด็กก็มีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ แต่เมื่อกลับไปอยู่ในความดูแลของน.ส.นิษฐาได้ไม่นาน ก็มีอาการทรุดลงอย่างหนัก โดยพบอีกว่า เด็กจะมีอาการหวาดกลัว และไม่อยากเข้าใกล้น.ส.นิษฐาอีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะเห็นได้อย่างชัดเจน ทุกครั้งที่น.ส.นิษฐาโทรศัพท์มาหาด.ช.อิ่มบุญที่โรงพยาบาล แต่เด็กมักจะกดตัดสายทิ้งไม่ยอมพูดคุยด้วย แสดงให้เห็นพฤติกรรมที่ผิดธรรมชาติของเด็กในวัย 2 ขวบที่มักจะติดแม่ไม่ยอมให้ห่างตัว

ส่วนกรณีข้อสงสัยในเรื่องตัวบิดาของด.ช.อิ่มบุญนั้น เจ้าหน้าที่ได้สอบสวนไปแล้ว แต่น.ส.นิษฐาก็ไม่สามารถยืนยันได้มากนักว่าพ่อของเด็กเป็นใคร โดยอ้างว่าก่อนจะตั้งครรภ์ด.ช.อิ่มบุญ ก็ได้ไปเที่ยวที่สถานบันเทิง แล้วก็ไปเจอกับผู้ชายคนหนึ่ง จากนั้นก็มีสัมพันธ์กันลึกซึ้ง และคบหากันอยู่ในช่วงเวลาสั้น ๆ แค่ 3 วันเท่านั้น

ภายหลังน.ส.นิษฐาเองก็ไม่ทราบด้วยว่า ตนเองตั้งครรภ์ เพราะเห็นว่าประจำเดือนยังมาปกติ กว่าจะมารู้ตัวว่าตั้งท้อง อายุครรภ์ก็เกือบ 9 เดือน ใกล้จะคลอดแล้ว ประกอบกับช่วงนั้นท้องก็ไม่ได้โตมากจนผิดปกติ จึงทำให้ไม่เคยมีการฝากท้องกับโรงพยาบาลใด ๆ

ทั้งนี้ จากการสอบถามพยานที่ใกล้ชิดน.ส.นิษฐา ต่างยืนยันว่าไม่เคยเห็นน.ส.นิษฐาตั้งครรภ์มาก่อน ส่วนใหญ่มาทราบเรื่องก็ตอนที่น.ส.นิษฐาพาด.ช.อิ่มบุญกลับมาอยู่ที่บ้านแล้ว เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่มองว่าคำกล่าวอ้างของน.ส.นิษฐานั้นยังไม่สมเหตุสมผล และหากผลตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้วไม่ตรงกัน ก็จะทำให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือในดคีทำร้ายเด็กมีเพิ่มมากขึ้นไปด้วย

ส่วนกรณีที่ น.ส.นิษฐา มักกล่าวอ้างกับบุคคลอื่นว่า มีอาชีพเป็นเภสัชกร จากการตรวจสอบประวัติแล้วพบว่า น.ส.นิษฐา ไม่ได้เป็นเภสัชกร ตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด เพียงแต่เคยเรียนเภสัชกรอยู่ 3 ปี แต่ไม่จบการศึกษา

ขณะที่การตรวจสอบบัญชีธนาคารต่าง ๆ ที่เปิดขึ้นเพื่อรับบริจาคนั้น เบื้องต้นพบว่า มีด้วยกัน 4 บัญชี โดยมี 3 บัญชี ถูกเปิดในชื่อของแม่แท้ๆของ ด.ญ.อมยิ้ม บุตรบุญธรรมที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ ส่วนอีก 1 บัญชีเปิดในชื่อของ น.ส.นิษฐา ทั้งนี้จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารทั้งหมดพบว่า ผู้บริจาคเข้ามากว่า 10 ล้านบาท จากยอดผู้บริจาคกว่า 3,000 คน ซึ่งพบด้วยว่ามีการโอนเงินเข้ามาประมาณ 8,000 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนในบัญชีทั้งหมด มากถึงเกือบ 20 ล้านบาท

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบอีกว่า มี 3 บัญชีธนาคารที่เป็นชื่อของแม่แท้ๆของ ด.ญ.อมยิ้ม ซึ่งทางแม่ของเด็กก็ได้ชี้แจงในเรื่องนี้ว่า ก่อนหน้าที่ด.ญ.อมยิ้มจะเสียชีวิต น.ส.นิษฐาได้ติดต่อมาหา เพื่อขอให้ช่วยเปิดบัญชีธนาคารให้ อ้างว่าจะนำไปใช้เป็นหลักฐานทำประกันให้กับด.ญ.อมยิ้ม แม่ของเด็กจึงหลงเชื่อไปเปิดบัญชีให้ มาทราบภายหลังว่า น.ส.นิษฐานำไปใช้สร้างความน่าเชื่อถือ เพื่อหลอกรับบริจาคเงิน และหลอกขายสินค้าออนไลน์ ซึ่งการเปิดบัญชีดังกล่าวส่งผลให้แม่ของด.ญ.อมยิ้ม ถูกผู้เสียหายบางรายที่ถูกฉ้อโกงเงิน แจ้งความเอาผิดด้วย จนต้องมีการชี้แจงข้อเท็จจริงให้ผู้เสียหายได้ทราบความจริงด้วย

สำหรับมูลเหตุการฉ้อโกงเงินบริจาคนั้น เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะมาจากปัญหาหนี้สิน และการแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากของ น.ส.นิษฐา ซึ่งจากแนวทางสืบสวนพบว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.นิษฐากำลังมีปัญหาขัดสนด้านเงินพอสมควร จนต้องสร้างเรื่องขึ้นมา เนื่องจากการตรวจสอบประวัติค่ารักษาพยาบาลของด.ญ.อมยิ้มก่อนเสียชีวิต พบว่ามียอดค่ารักษาเพียง 1 ล้านบาท

แต่ยอดเงินบริจาคในช่วงนั้น ก็เริ่มมีเข้ามาหลายล้านบาท ซึ่งก็มากพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายแล้ว แต่ น.ส.นิษฐา ก็ยังคงเลือกที่จะเปิดรับบริจาคต่อเช่นเดิม ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบค่ารักษาทั้งหมด ว่าสอดคล้องกับเงินที่หมุนเวียนในบัญชีหรือไม่



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
คุณ : 666
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 49.230.10.162

49.230.10.162,,49.230.10.162 ความคิดเห็นที่ 1 [อ้างอิง]
อิเลว


[ วันเสาร์ ที่ 23 พฤษภาคม 2563 เวลา 18:17 น. ]
คุณ : me
สถานะ : บุคคลทั่วไป
IP : 203.151.136.238

203.151.136.238,,238.136.151.203.sta.inet.co.th ความคิดเห็นที่ 3 [อ้างอิง]
wellcome


[ วันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10:40 น. ]
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์