จ่อพักงาน ร.ท. หื่น ข่มขืน ด.ญ.14 ลูกจ่า สั่งไล่ทั้ง 2 บ้านพ้นค่ายทหาร ปมวิวาทยิงปืน
ความคืบล่าสุด วันที่ 9 ก.ย. มี่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น ขณะนี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไปแล้ว เรื่องนี้ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ คดีพรากผู้เยาว์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนของตำรวจ สภ.นาทวี ซึ่งทางหน่วยต้นสังกัดให้การสนับสนุน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
อีกส่วนคือ การทะเลาะวิวาทและใช้อาวุธข่มขู่นั้น เป็นคดีที่เกิดขึ้นภายในหน่วย ซึ่งหน่วยต้นสังกัดได้ทำการสอบสวน ซึ่งบทลงโทษเบื้องต้นได้ให้ คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ออกจากบ้านพักราชการภายในหน่วยไปก่อนระหว่างรอผลการสอบสวน ส่วนการดำเนินการด้านวินัยก็ต้องรอให้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมไปก่อน
ด้านพล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ตนได้ติดตามความคืบหน้าทางคดีอยู่ ขณะนี้ต้องรอผลสอบสวน เมื่อผลออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องให้ความเป็นธรรม และเรื่องนี้หากเป็นจริงถือว่าสร้างความเสื่อมเสียเป็นอย่างมาก ดังนั้นไม่มีเลี้ยงหรือปกป้องทุกอย่างว่าตามกฎหมาย และยืนยันไม่เข้าข้างใคร ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ตนในฐานะแม่ทัพภาคที่ 4 หากพบผิดจริงก็ดำเนินการเต็มอำนาจที่มี
"เบื้องต้นได้มีการตั้งเรื่องพักราชการร้อยโทคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างรอคำสั่งจาก รมว.กลาโหม อีกทั้งมอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาโดยตรง ติดตามคดีอย่างใกล้ชิด และมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวน" พล.ท.พรศักดิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าทางครอบครัวผู้เสียหายติดใจในเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกไล่ออกจากบ้านพักราชการนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ต้องแยกระหว่างคดีพรากผู้เยาว์ และการทะเลาะวิวาท แต่การให้ออกจากบ้านพักนั้น เกิดจากกรณีการทะเลาะวิวาท ระหว่างพ่อของผู้หญิงและร้อยโท ซึ่งมีการยิงปืนหน้าค่าย เข้าข่ายสร้างความเดือดร้อน
จึงไล่ออกทั้งคู่ตามระเบียบของทางค่าย เพราะเป็นการก่อกวนทะเลาะวิวาทและสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น ไม่เช่นนั้นก็จะไม่สามารถควบคุมได้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ต้องมีการสอบวินัยอีกหลายขั้น ยืนยันทุกอย่างต้องว่าตามกระบวนยุติธรรม ไม่สามารถก้าวล่วงได้ ผลออกมายังไงก็จะมีการลงโทษตามนั้น