ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง บุกตรวจบ้านหรู เลี้ยงเสือดาวโตเต็มวัย ชาวบ้านผวา!
เนื่องจากชุดเหยี่ยวดงได้รับแจ้งว่า บริเวณบ้านดังกล่าวมีการเลี้ยงสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดเสือดาว ให้อยู่ในบ้านเดียวกับคน เหมือนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงธรรมดา อาจได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายและอาจหลุดไปทำอันตรายต่อผู้คนทั่วไป เนื่องจากอยู่ในชุมชน ขอให้ดำเนินการตรวจสอบด้วย คณะเจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังการเดินทางมายังสถานที่เกิดเหตุ พบนางสาวนิตยาอิสระศิลป์ ได้รับทราบและยินยอมให้เข้าตรวจสอบ
ผลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนางสาวนิตยา เพิ่งย้ายมาจากเชียงใหม่มาเช่าอยู่กับสามีชาวฝรั่งได้เพียง สี่ห้าวัน โดยนำเสือดาวเพศผู้ชื่อ ไต้ฝุ่น ซึ่งเลี้ยงมาตั้งแต่เกิด มาเลี้ยงอยู่รวมกับคนในบ้านหลังเดียวกัน บ้านหลังดังกล่าวมีพื้นที่รวมประมาณ 200 ตารางวา เป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น พื้นที่ว่างรอบตัวบ้านทั้งหมดมีล้อมรั้วคอนกรีตและมีการขึงลวดตาข่ายขนาด 1 นิ้วปกคลุมสูงจากพื้น 3 เมตร เต็มพื้นที่
เสือดาวตัวดังกล่าว เป็นตัวโตเต็มวัย อายุประมาณ 4 ปี นางสาวนิตยาได้นำเอกสารการได้มาของเสือดาวมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเป็นใบ สด. 1 ลงวันที่ 2 กันยายน 2546 ระบุเสือดาว 3 ตัว แต่ตายไปหมดแล้ว โดยมีลูก 2 ตัว ชื่อไต้ฝุ่น และอีกตัวหนึ่งเป็นเพศเมีย ชื่อ ฟ้าใส ขณะนี้ยังอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่มามารถเคลื่อนย้ายมาจังหวัดชลบุรีด้วยได้ เนื่องจากป่วย ยังอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์
โดยเสือดาว 2 ตัวนี้ เคยถูกดำเนินคดีในท้องที่อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2561 มาครั้งหนึ่งแล้วพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาและคืนของกลางให้กับตน เจ้าหน้าที่ร่วมกันตรวจสอบแล้ว เชื่อได้ว่าหลักฐานการได้มาถูกต้องตามกฎหมาย เพียงแต่นางสาวนิตยายังไม่ได้ไปยื่นคำขอครอบครองต่อสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา)
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ออกคำสั่งอายัดห้ามเคลื่อนย้าย ทำให้เสียหาย สูญหายหรือเสื่อมสภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยให้เลี้ยงไว้เฉพาะในบริเวณบ้านที่ทำการตรวจสอบ จนกว่าจะได้รับอนุญาตครอบครองจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และให้ปรับปรุงแก้ไขรั้วในบ้านให้มีความแข็งแรง เหมาะสมต่อการเลี้ยงสัตว์ป่าประเภทเสือดาวด้วย