ผบ.ตร.ประชุมคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ พบเบอร์ต้องสงสัยโทรเข้าช่วงเกิดเหตุ

กระบี่ 13 ก.ค.-ทีมข่าวสำนักข่าวไทยยังคงเกาะติดคดีฆ่ายกครัว 8 ศพ ที่ จ.กระบี่ ตำรวจเร่งเกาะรอยไล่ล่าคนร้ายอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อช่วงใกล้ค่ำที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ลงพื้นที่ร่วมประชุมติดตามคดีนี้ ร่วมกับชุดคลี่คลายคดีที่ตั้งขึ้นเป็นการเฉพาะกิจ โดยวันนี้มีข้อมูลว่า ตำรวจตรวจสอบพบเบอร์โทรศัพท์ต้องสงสัยที่โทรเข้ามาในช่วงที่สมาชิกในครอบครัวผู้ใหญ่ถูกยิงเสียชีวิต รวมถึงความคืบหน้าเรื่องเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย

พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ จ.กระบี่ ประชุมติดตามการคลี่คลายคดีสังหารนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 ต.บ้านกลาง ร่วมกับตำรวจชุดเฉพาะกิจ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยอมรับว่า มีการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อกับผู้ใหญ่วรยุทธ และพบว่ามีเบอร์ที่โทรเข้ามาระหว่างช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ที่คาดว่าสมาชิกในครอบครัวผู้ใหญ่วรยุทธ ถูกยิงเสียชีวิต แต่หมายเลขดังกล่าวเป็นของใคร จะมีความเชื่อมโยงกับผู้บ่งการก่อเหตุครั้งนี้หรือไม่ ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด

ส่วนการติดตามแกะรอยเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย ซึ่งใช้รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์สีดำ รถยาริสสีขาว รวมถึงยาริสสีบรอนซ์ของภรรยาผู้ใหญ่วรยุทธ หลบหนีไปด้วยนั้น ขณะนี้มีข้อมูลว่าตำรวจพบภาพรถต้องสงสัยเป็นฟอร์จูนเนอร์สีดำ บริเวณปั๊มแก่งหนึ่งในพื้นที่ อ.อ่าวลึก และ อ.เขาพนม โดยกำลังตรวจสอบเปรียบเทียบภาพดังกล่าว เพื่อความชัดเจน

ส่วนพยานที่รอดชีวิตในที่เกิดเหตุทั้ง 3 ราย ผบ.ตร.ยืนยันว่าตำรวจจะดูแลความปลอดภัยให้อย่างดีที่สุด และมีการให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อแนวทางการสืบสวน

ขณะที่ข้อมูลการตรวจสอบรถยนต์ฮอนด้าซีอาร์วี สีขาว ของเพื่อนสาวคนสนิทผู้ใหญ่วรยุทธ ที่พบจอดอยู่ภายในบ้านหลังเกิดเหตุ ทราบว่าซื้อมาเมื่อปี 2558 มีชื่อผู้ครอบครองคือ นางนุกูล ขันทอง อยู่บ้านในหมู่ที่ 8 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่ และบ้านเลขที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งของบริษัทกระบี่ ภูทรัพย์อนันต์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 หรือ 4 เดือนก่อน ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการอุตสาหกรรมโรงโม่หิน

เช่นเดียวกับเรื่องการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน และเส้นทางการเงินของผู้ใหญ่วรยุทธ ผบ.ตร.ระบุว่า ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการ และให้ความมั่นใจว่าตำรวจจะติดตามกลุ่มคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุมารับโทษทางกฎหมายได้ในไม่ช้า.-สำนักข่าวไทย