"เป็นเรื่องเป็นข่าว" เจาะลึกถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พลัดตกลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสีย โรงงานแปรรูปอาหารของบริษัทซีพีเอฟระหว่างดูงานด้านสิ่งแวดล้อม แม้เพื่อน นศ.และพนักงานเห็นเหตุการณ์รีบลงไปช่วยเหลือ แต่ไม่สำเร็จทำให้เสียชีวิตรวม 5 คน
ตัวแทนของทีมกู้ภัยร่วมกตัญญู ที่เข้าไปช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายได้เล่านาทีที่แรกที่เข้าไปถึงเหตุการณ์ว่า จากการที่มองลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสียซีเมนต์สูง 4 เมตร ภาพที่เห็นคือผู้เสียชีวิตนอนอยู่ใต้บ่อเนื่องจากได้สูบน้ำในบ่อออกมาจนหมด โดยช่วงเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้พยายามจะลงไปช่วยเหลือ แต่พนักงานของโรงงานได้ห้ามเจ้าหน้าที่ลงไปเพราะอากาศข้างในมีแก๊สพิษสูงมากอาจทำให้หมดสติได้
ทั้งนี้ การช่วยเหลือได้ขอเครื่องช่วยหายใจและเครื่องดูดอากาศเสียออกจากบ่อดังกล่าว เพื่อที่จะนำผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาจากบ่อ ในระหว่างที่รออุปกรณ์ได้มีการนำลวดสลิงที่มีตะขอเกี่ยว เพื่อที่จะเอามาเกี่ยวกับขอบกางเกงเพื่อที่จะช่วยเหลือผู้เสียชีวิต และได้มีการเตรียมแพทย์ภาคสนามรอเพื่อรอช่วยชีวิต หลังจากนั้นได้ช่วยขึ้นมาทีละคนและพบว่าทุกคนเสียชีวิตทั้งหมด
สำหรับจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้คือ มีนักศึกษาฝึกงานลื่นตกลงไปในบ่อบำบัดน้ำเสียหนึ่งคน แล้วมีพนักงานโรงงานเห็นเหตุการณ์ได้จึงลงไปช่วยนศ.ฝึกงานเป็นคนแรก จากนั้นมีผู้ชายอีก 3 คน รวมเป็น 5 คนที่ลงไปในบ่อนั้นก่อนที่ทั้งหมดจะเสียชีวิต
นายสุเมธา วิเชียรเพชร ผอ.สำนักจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเกิดในบ่อรวมน้ำเสียซึ่งมีแก๊สพิษที่มีค่าสูง รวมถึงก๊าซไข่เน่าทำให้มีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก หากพลัดตกลงไป และเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาแล้ว โดยขั้นตอนการช่วยเหลือหากมีคนตกลงไปในบ่อน้ำเสีย คือ สิ่งแรกคนที่จะเข้าไปช่วยต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อม ต้องมีถังอากาศหายใจ ห้ามกระโดดลงไปตัวเปล่า ถ้าเป็นต่างประเทศเวลาพบเห็นคนตกลงไปในบ่อน้ำเสียเขาจะห้ามช่วยเด็ดขาด หากผู้ที่จะช่วยเหลือคนนั้นไม่มีชุดป้องกัน เพราะเสี่ยงที่จะเสียชีวิตทั้งผู้ช่วยชีวิตและผู้ประสบเหตุ
อย่างไรก็ตาม โรงงานต้องมีมาตรฐานในเรื่องของความปลอดภัยเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินและต้องมีการอบรมพนักงาน มีอุปกรณ์ช่วยชีวิต พร้อมทั้งต้องมีการให้พนักงานเทรนนิ่งกับบริษัทที่รับการทำงานในที่อับอากาศ