ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ห้ามใช้โซเชียล หลังระเบิดถล่มดับกว่าร้อย


ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ห้ามใช้โซเชียล หลังระเบิดถล่มดับกว่าร้อย

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน กระทรวงกลาโหมศรีลังกา ได้ประกาศเคอร์ฟิวช่วงกลางคืน หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้น 8 ครั้งในวันเดียวกัน โดยมีเป้าหมายเป็นโบสถ์และโรงแรมหลายแห่ง โดยเคอร์ฟิวจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันที่ 21 เมษายน จนถึงเวลา 06.00 น. ของวันถัดไป นอกจากนี้ ยังมีการประกาศระงับการใช้สื่อสังคมออนไลน์หลักๆทั้งหมด รวมไปถึงแอพพลิเคชั่นส่งข้อความ ซึ่งรวมถึงเฟซบุ๊กและวอทส์แอพพ์ ที่ถูกห้ามใช้ชั่วคราวในศรีลังกา เพื่อป้องกันการสื่อสารข้อมูลที่ผิดพลาดและป้องกันการเผยแพร่ข่าวลือต่างๆ

สำนักข่าวเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์ เกิดเหตุระเบิดหลายจุดในศรีลังกา เมื่อวันที่ 21 เมษายน ในขณะที่ผู้คนกำลังเฉลิมฉลองเนื่องในวันอีสเตอร์ ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาวคริสต์ โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีนี้แล้วอย่างน้อย 158 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 400 คน ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งรุนแรงอีกครั้งหนึ่งนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในศรีลังกาเมื่อ 10 ปีก่อน

ข่าวระบุว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นทั้งที่โบสถ์และโรงแรมหลายแห่งในช่วงเช้า รวมทั้งหมด 6 จุด โดยที่โบสถ์เซนต์เซบาสเตรียน เมืองคาทูวาปิติยา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของกรุงโคลัมโบแห่งเดียว มีรายงานผู้เสียชีวิตกว่า 50 ราย ส่วนที่โบสถ์ในเมืองบัตติคาโลอา ทางตะวันออกของประเทศ มีรายงานผู้เสียชีวิต 25 ราย โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกโจมตีครั้งนี้ ยังรวมถึงวิหารเซนต์แอนโธนี โบสถ์คาทอลิก ในเมืองคอกซิกาเด ในกรุงโคลัมโบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีรายงานโรงแรมอย่าง 3 แห่งในกรุงโคลัมโบที่ถูกโจมตี ได้แก่ แชงกรี-ลา โคลัมโบ , คิงส์เบอรี โฮเทล และที่โรงแรมซินนามอน แกรนด์ โคลัมโบ แต่ยังไม่รายงานแน่ชัดเกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นในโรงแรมแห่งนี้


สำหรับจำนวนยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 158 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 400 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติถึง 35 ราย เบื้องต้นยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้น

ด้านนายรานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ได้เรียกประชุมสมัชชาความมั่นคงแห่งชาติเป็นการด่วนที่บ้านพักหลังเกิดเหตุ พร้อมกับทวีตข้อความประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้ชาวศรีลังการมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและเข้มแข็งด้านนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีศรีลังกา กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้กองกำลังตำรวจและทหารชุดพิเศษสวนสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วว่า ใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาในช่วงบ่าย มีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นจุดที่ 7 และเป็นโรงแรมแห่งที่ 4 ที่โดนระเบิด ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับสวนสัตว์แห่งชาติ ที่เมืองเทฮีวาวาลา ตอนใต้ของกรุงโคลัมโบ เบื้องต้น มีรายงานผู้เสียชีวิต ณ จุดนี้อย่างน้อย 2 คนนอกจากนี้ ยังมีรายงานเกิดระเบิดแห่งที่ 8 ขึ้นด้วย โดยเอเอฟพีรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจศรีลังกา ระบุว่า เหตุระเบิดจุดที่ 8 เป็นระเบิดฆ่าตัวตาย และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย โดยเหตุระเบิดเกิดขึ้นขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในบ้านหลังหนึ่งชานกรุงโคลัมโบเพื่อค้นหาผู้ต้องสงสัย แรงระเบิดทำให้บริเวณชั้น 2 ของบ้านพังถล่มลงมา

สำหรับผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาตินั้น เบื้องต้น แหล่งข่าวจากโรงพยาบาลแจ้งว่า มีชาวอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ และชาวอเมริกัน รวมอยู่ในจำนวนผู้เสียชีวิตด้วย
 ขณะที่สำนักข่าวลูซาของโปรตุเกส รายงานว่า มีชาวโปรตุเกสเสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีในศรีลังกาด้วย ขณะที่ชาวต่างชาติ ที่ได้รับบาดเจ็บ มีชาวอังกฤษ และชาวญี่ปุ่นอยู่ด้วย

ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ห้ามใช้โซเชียล หลังระเบิดถล่มดับกว่าร้อย

เอเอฟพีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ 10 วัน ผู้บัญชาการตำรวจ พูจูธ จายาซุนดารา ได้ส่งคำเตือนข่าวกรองไปยังผู้บัญชาการระดับสูงของศรีลังกาทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 11 เมษายน แจ้งเตือนว่ามีการวางแผนที่จะก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายขึ้นตามโบสถ์สำคัญต่างๆ

โดยในเอกสารแจ้งเตือนที่ถูกส่งไปยังตำรวจทั่วประเทศ ที่ทางเอเอฟพีได้รับ ระบุว่า ข่าวกรองต่างชาติแห่งหนึ่งแจ้งเตือนว่า กลุ่มเอ็นทีเจ หรือ กลุ่ม เนชั่นแนล โธวีธ จามาอัธ วางแผนที่จะก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย โดยมีเป้าหมายคือโบสถ์สำคัญๆ

ทั้งนี้ กลุ่มเอ็นทีเจ เป็นกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในศรีลังกา ที่โดดเด่นขึ้นมาเมื่อช่วงปีก่อน หลังจากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำลายพระพุทธรูป

ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ห้ามใช้โซเชียล หลังระเบิดถล่มดับกว่าร้อย


ศรีลังกาประกาศเคอร์ฟิว ห้ามใช้โซเชียล หลังระเบิดถล่มดับกว่าร้อย

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์