ไม่กลัวแต่เริ่มหมั่นไส้

เป็นไปอย่างที่พรรคพวกเขาห่วงๆกัน

พล.เ


ยี่ห้อ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไม่ทนกับแรงเสียดทานแต่ไหนแต่ไรแล้ว

ยิ่งครั้งนี้มันเป็นแรงกระแทกที่หนักกว่าแรงเสียดทาน

ในหลวงสอนไว้ การที่เราคงความเป็นชาติอยู่ได้เพราะความสามัคคี เพราะฉะนั้น ที่ยังมีความไม่เข้าใจอยู่ ถ้าความตั้งใจดีของผมจะกลายเป็นชนวนแตกแยกมากกว่านี้ ซึ่งไม่ควรมีมากกว่านี้อีกแล้ว

ผมได้ปรึกษาท่านนายกฯ

ภารกิจที่มอบหมายผมขณะนี้ยังมีผู้ที่ไม่เข้าใจ ผมอยากให้ยุติความขัดแย้งแต่เนิ่นๆ ผมจะขอถอนตัวยุติความแตกร้าว ไม่ใช่ทำลายบ้านเมือง ท่านนายกฯก็อนุญาต

ถ้าผมดื้ออยู่ต่อ ท่านนายกฯต้องปกป้องผมแน่นอน

แต่ถามว่าบ้านเมืองจะได้อะไร ผมไม่มีตำแหน่งผมก็ไปได้ ตำแหน่งจึงไม่มีความจำเป็นแต่ประการใด ท่านนายกฯอนุญาต

เพื่อพิสูจน์ว่า ความสามัคคีในชาติเป็นสิ่งสำคัญ

ผมเองกล้าถอนตัวโดยไม่กลัวเสียหน้าประการใด พิสูจน์ให้เห็นว่าสมานฉันท์ในชาติเหนืออื่นใด ถ้าไม่มีตรงนี้ บ้านเมืองซึ่งลำบากอยู่แล้ว บ้านเมืองข้างหน้าอาจลำบากกว่านี้

สมคิด พูดทั้งน้ำตาคลอ


คงไม่มีอะไรดีกว่าการให้กำลังใจ ถ้าตั้งใจดีกับบ้านเมือง ก็ขอให้รอโอกาสต่อไป

เพราะคิวนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ก็เปิดทางไว้ เคารพความคิดของนายสมคิด ถ้าหากว่ามีโอกาสที่จะช่วยกันในโอกาสข้างหน้าก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ที่สำคัญ นายกฯสุรยุทธ์ตัดสินใจ

ยุบคณะทำงานชุดที่นายสมคิดเป็นประธาน ด้วยเหตุผลที่พูดกันตรงๆ ผู้ที่สามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ลาออกไปแล้วก็ต้องยุติ

เชื่อมือ สมคิด คนเดียวเลย

แต่ที่ไม่เชื่อใครเลยนอกจากพวกเดียวกันเอง พันธมิตรม็อบไล่ ทักษิณ ได้จังหวะดี อาศัยกระแสต้านนายสมคิด กลับมารวมตัวสำแดงพลัง กระชากกระแสกันอีกรอบ

แล้วก็เป็นอะไรที่การันตีความมั่นใจในศักยภาพ


เสียงคำรามลั่น สมคิด ต้องลาออก ได้รับการตอบสนองทันทีในวันรุ่งขึ้น

คำไหนคำนั้น สั่งได้จริงๆ

แต่มันก็ได้แค่กับ สมคิด เท่านั้น น่าจะไม่ใช่กับรายของ พล.อ.สุรยุทธ์ เพราะประเมินจากคำถามนักข่าวที่ว่า การลาออกของนายสมคิดจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นกับต่างประเทศหรือไม่

เพราะคนที่จะส่งไปทำความเข้าใจถูกถอดออกไป นายกฯสุรยุทธ์ตอบสวนทันที

ผมไม่ได้ถอด คุณสมคิดลาออกเอง

และเมื่อนักข่าวถามต่อว่า คนส่วนใหญ่สนับสนุนการเข้ามาช่วยงานรัฐบาลของนายสมคิด แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งออกมาคัดค้าน

จะมีปัญหาต่อการสร้างสมานฉันท์ต่อไปในอนาคตหรือไม่

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน


พล.อ.สุรยุทธ์ตอบแค่ว่า

ก็เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่ที่จะพิจารณา

ออกอาการไม่กลัวม็อบ แถมยังชี้เป้าให้สังคมส่วนมากจับตา กระบวนท่าพันธมิตรม็อบไล่ ทักษิณ

ตัดสินพฤติกรรมกันเอาเอง

และมันก็บังเอิญสอดรับในอารมณ์เดียวกัน

กับคำถามที่ว่า ไม่กลัวหรือที่กลุ่มพันธมิตรฯขู่ชุมนุมใหญ่ประท้วงการตั้งนายสมคิด บิ๊กบัง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ตอบด้วยสีหน้ายิ้มๆกลั้วเสียงหัวเราะ

ไม่กลัวหรือครับ ต้องถามกลับไปว่าไม่กลัวหรือ

ในความหมายเป็นนัยแบบนี้ คนนอกอย่างเราๆอาจไม่เข้าใจ แต่เชื่อว่าระดับพหูสูตอย่าง

นายสนธิ ลิ้มทองกุล
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
นายพิภพ ธงไชย
และนายสุริยะใส กตะศิลา น่าจะถอดรหัสได้

บิ๊กบัง คิดยังไงกับคำขู่ของพันธมิตรฯ


ไม่กลัวแต่หมั่นไส้

จากที่เคยแตะมือเป็นแนวร่วมโค่นอดีตนายกฯทักษิณ ตอนนี้ ทหารเริ่มไม่สบอารมณ์กับวิธีอ้างแนวร่วมประชาชนมากดดันข่มขู่

ย้อนเตือนให้รู้ตัว ใครกันแน่ที่ต้องเป็นฝ่ายกลัว

โดยสัญญาณอย่างนี้ คนที่เคยมีประสบการณ์รีบย้อนกลับไปอ่านประวัติศาสตร์ จากเหตุการณ์ 14 ตุลาฯ 16 มาถึง 6 ตุลาฯ 19 ชั่วเวลา 3 ปี

ฤาจะซ้ำรอยอาฟเตอร์ช็อกเดือนตุลาฯ.


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์