แค่เขินๆ เท่านั้นแหละ..!

แค่เขินๆ เท่านั้นแหละ


ก็ถือว่าเบาตัวไปที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กำลังอยู่ระหว่างนำคณะเยือนประเทศญี่ปุ่น ไม่ได้นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรีนัดล่าสุด

ไม่อย่างนั้นคงหนีไม่พ้นคำถามกระอักกระอ่วน

กับมติที่ประชุม ครม.เห็นชอบให้ขยายการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนกรณีพิเศษ 2 ขั้น (นอกเหนือโควตาปกติจากงบส่วนกลาง) เพิ่มอีก 15 เปอร์เซ็นต์จากเดิม รวมเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ให้แก่ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ตามที่สำนักเลขาธิการ คมช.เสนอ

ทั้งหมด 423 ราย


"ครม.ให้ขึ้น 2 ขั้นเพิ่ม 30% ปูนบำเหน็จ เอาใจทีมทหารยึดอำนาจ"


"2 ขั้น-บำเหน็จยึดอำนาจ รัฐบาลลูกไล่ชี้เป็นธรรม"

โดยอารมณ์พาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับออกมาในโทนไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่

ที่แน่ๆมันกลายเป็นประเด็นที่นักข่าวจ่อไมค์ถามความเห็นจากบุคคลหลายฝ่าย

และพลาดไม่ได้เลยกับรายของ "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธาน คมช.

หนึ่งในบัญชี 423 รายที่ได้รับการพิจารณาปูนบำเหน็จ

กับคำถามแรก การเพิ่มบำเหน็จให้กับ คมช. 30 เปอร์เซ็นต์ครั้งนี้ จะถูกนำไปตีความเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ "บิ๊กบัง" แจกแจงแบบมั่นใจ

ปกติกองทัพจ่ายบำเหน็จ 15 เปอร์เซ็นต์ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในภาคสนามอยู่แล้ว หากใครทำงานดีเด่นก็จะให้อีก 15 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็น 2 ขั้น


"กำลังพลก็ทำงานกันอยู่แล้ว และเมื่อทำงานที่สำคัญก็ให้อีก 15 เปอร์เซ็นต์


เท่านั้นเอง ซึ่ง 100 คน อาจจะได้บำเหน็จ 2 ขั้น 15 คน ก็เป็น 30 คน ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน"

และกับอีกคำถาม เกรงหรือไม่กลุ่มผู้ชุมนุมจะนำไปอธิบายจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน "บิ๊กบัง" รีบตัดเกมเลย

"เพิ่งรู้ว่า ครม.อนุมัติบำเหน็จให้"

เหมือนจะโยนกลับไปให้รัฐบาลแจงเอง

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีเวลาตั้งหลัก เตรียมข้อมูลหนึ่งคืน รุ่งขึ้นอีกวัน "บิ๊กบัง" ก็เปิดฉากร่ายยาว เคลียร์ได้เป็นฉากๆ

"คมช.มีข้าราชการจากกระทรวงต่างๆเข้ามาทำงานอยู่ จำนวนมาก จึงให้ข้าราชการที่มาอยู่ที่ คมช.คิดอัตราเปอร์เซ็นต์ ที่ คมช.โดยตัดยอดเงินบำเหน็จจากกระทรวงต่างๆ

ดังนั้น เมื่อไม่มีการคิดเงินที่กระทรวง จึงมาคิดบำเหน็จที่ คมช.แทน ซึ่งใครมาทำงานที่ คมช.จะสามารถเบิกเงินบำเหน็จได้สองชั้น ซึ่งไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เพราะข้าราชการได้เงินบำเหน็จสิบห้าเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ตรงนี้เขาก็ได้สิบห้าเปอร์เซ็นต์

เพียงแต่มาคิดที่ คมช.ไม่ได้เพิ่มหรือมีอะไรที่ผิดปกติ เพียงแต่ย้ายที่มาของบำเหน็จเท่านั้นเอง ซึ่งทางสำนักเลขาธิการ คมช.เป็นผู้เสนอไป เพื่อให้ขวัญกำลังใจกับเจ้าหน้าที่


ทั้งนี้ คมช.ทั้งแปดคนไม่ได้รับเงินอะไรเลย เงินเดือนยังไม่ได้รับเลย


ไม่ได้รับกันสักคน เราใช้แต่เงินเดือนของเรา"

สรุป คนทำงานให้ คมช.ไม่ได้มีแค่คนของกองทัพเท่านั้น ยังรวมถึงข้าราชการจากกระทรวงต่างๆที่ขอตัวมาช่วยงาน

การปูนบำเหน็จจึงไม่ใช่เอาใจแค่ทหารปฏิวัติ

แต่เป็นสิทธิที่ข้าราชการควรได้รับอยู่แล้ว

ฟังดูมันก็ไม่ได้มีอะไร ไม่ใช่เงินจำนวนมากมายมหาศาลเสียที่ไหน

ในสถานการณ์ปกติออกจะดูเป็นเรื่องธรรมดาซะด้วยซ้ำ

แต่อย่างว่า ในท่ามกลางกระแสทหารเป็นใหญ่ในบ้านเมือง การประกาศย้ำนักย้ำหนาอาสาเข้ามากอบกู้วิกฤติของประเทศชาติ

ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่ถือประโยชน์ตัวเองและพวกพ้องอย่างน่าเกลียด

ปากก็บอกเสียสละอยู่หยกๆ แต่ไม่ทันไร ดันเสนอปูนบำเหน็จกันเอง

แม้จะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

แต่พูดไปก็เขินไปนั่นแหละ.



ขอขอบคุณ : ข้อมูลข่าวที่มีคุณภาพจาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์