แก้วสรร-นาม มีปัญหาคุณสมบัติเหตุหลุดโผปปช.

ชี้เหตุ แก้วสรร หลุดโผ ป.ป.ช.ตามคำสั่งของ คปค. เพราะขาดคุณสมบัติไม่เคยเป็นอธิบดีหรือเทียบเท่า อาจส่งผลกระทบต่อมติ หรือคำสั่งของ ป.ป.ช.ขัดต่อกฎหมายในภายหลัง

กล่าวถึงกรณีไม่ปรากฏชื่อนายแก้วสรร อติโพธิ และ นายนาม ยิ้มแย้ม ที่ผ่านการคัดสรรจากที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้งจำนวน 10 คน ก่อนที่เสนอรายชื่อส่งไปให้วุฒิสภาลงมติ หากจะนำมาเป็น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งทั้งสองคนยืนยันว่าจะไม่ขัดข้อง หากจะได้รับการแต่งตั้ง ป.ป.ช.

เมื่อจะตั้ง กกต.ขึ้นใหม่ ผมก็คิดว่า คงไม่สามารถไปหาที่ไหนมาได้ และในเมื่อวุฒิสภาได้คัดเลือกจำนวน 5 คนไว้ และประชาชนก็ชอบใจอยู่แล้ว ถ้าตั้งทั้ง 5 คนนั้นให้เป็น กกต.ก็น่าจะสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือ ฝ่าย 5 คน และงานของ กกต.จึงได้มีการประกาศของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตั้งคนทั้ง 5 คนดังกล่าวให้เป็น กกต.

ซึ่งได้แก่ นายนาม, นายวิชา มหาคุณ, นายแก้วสรร, นายอุดม เฟื่องฟุ้ง และ นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ นั้น


นายมีชัย กล่าวว่า

ได้นำกลับมาพิจารณาว่าจะแต่งตั้งใครได้บ้าง ซึ่งต้องสอบถามเจ้าตัวเป็นรายๆ ไป สำหรับ นายวิชา ท่านยอมรับ แต่ นายวสันต์ ท่านปฏิเสธไม่ยอมรับ (ซึ่งก็คงไม่สามารถบังคับท่านได้) สำหรับนายนามนั้นอายุ 70 ส่วนนายอุดมก็ใกล้จะ 70 แล้ว ซึ่งตามกฎหมาย ป.ป.ช.กำหนดให้พ้นจากตำแหน่งเมื่ออายุ 70 ทั้งสองท่านจึงไม่อาจแต่งตั้งได้

แม้จะอายุยังน้อย แต่ท่านก็ไม่เคยเป็นอธิบดีหรือเทียบเท่า หรือเป็นศาสตราจารย์ อันเป็นคุณสมบัติสำคัญของการที่จะเป็น ป.ป.ช.ในการเลือก ป.ป.ช.ของวุฒิสภาครั้งสุดท้าย นายแก้วสรร เอง ก็เป็นผู้เข้าชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า มีคนที่คณะกรรมการสรรหาฯ สรรหามานั้นขาดคุณสมบัติทำนองนี้อยู่ จึงเป็นอันจนปัญญาที่ไม่สามารถจะตั้งท่านได้ ดูเหมือนท่านจะต่อว่าต่อขานทางหน้าหนังสือพิมพ์ ว่า แล้วทำไมไม่ใช้อำนาจคณะปฏิรูปฯ ยกเว้นคุณสมบัติให้แก่ท่าน


แต่ผมคิดด้วยสามัญสำนึกว่า

ถ้าทำเช่นนั้น ก็จะเกิดความเสียหายแก่ตัวท่านเองมากกว่าที่จะเป็นประโยชน์ เพราะเท่ากับแก้ไขกฎหมายหลักของบ้านเมืองเพื่อประโยชน์ของคนๆ เดียว อาจารย์แก้วสรรท่านเป็นคนดี จึงไม่สมควรที่จะฆ่าท่านด้วยวิธีนี้ อดีตประธานวุฒิสภา ระบุ และว่า ถึงแม้นายแก้วสรรจะยืนยันว่าทำได้ ก็ยังไม่แน่ว่าเมื่อเวลาที่รัฐบาลชั่วคราวพ้นไปแล้ว จะไม่มีใครหยิบยกปัญหาเรื่องขาดคุณสมบัติขึ้นมาอีก อันจะทำให้เกิดปัญหาว่า มติหรือคำสั่งของ ป.ป.ช.ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ในเมื่อมีคนขาดคุณสมบัติอยู่ในนั้น

แล้วทำไมไม่ให้นายแก้วสรรท่านเป็น กกต.ซึ่งมีคุณสมบัติเพียงแค่จบปริญญาตรีก็เป็นได้ นายมีชัย กล่าวว่า คำตอบก็คือว่า ในเมื่อ กกต.ทั้ง 5 ท่านที่วุฒิสภาเลือกมานั้น ท่านยินยอมที่จะมาเป็น กกต.กันทั้ง 5 คน แล้วจะเอาเหตุผลอะไรไปตัดคนใดคนหนึ่งออกเพื่อที่จะเอานายแก้วสรรเข้าไป

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: ผู้จัดการออนไลน์ ( manager.co.th )