เนวินแฉถวายฎีกาหวังแยกประชาชน



เสธ.หนั่น"ให้ระวังการเมืองพลิกผัน!


ตำรวจระดมกำลังเต็มเหนี่ยวอารักขา “มาร์ค” เปิดงานรัฐสภาอาเซียนที่พัทยา สั่งตั้งแถวคุ้มกันตลอด 2 ข้างทางจนถึงโรงแรม แต่ไม่มีแม้แต่เงาของกลุ่มคนเสื้อแดง “ปู่ชัย” เผยเน้นหารือเรื่องค้ามนุษย์ ละเมิดสิทธิ์ และยาเสพติด ด้านมาเลย์แนะให้ยอมรับ ปชต.ที่แตกต่าง ขณะที่ “เนวิน” สบประมาทรายชื่อ 5 ล้านคนสงสัยมั่วเอา แฉเป้าหมายถวายฎีกาเพื่อต้องการแยกประชาชน ลั่นพร้อมถ้าศาลฟันธงคดีกล้ายางผิดก็พร้อมนอนคุกไม่คิดหนีเด็กใหม่ “ภูมิใจไทย” แย้มกำลังร่างกฎหมายนิรโทษกรรม หวังปล่อยผีเสื้อเหลืองเสื้อแดงนำบ้านเมืองกลับสู่ความสงบอีกครั้ง “จตุพร” เพ้อบอกฝันเห็น “เนวิน” ติดคุก 7 ปี ยัน 17 ส.ค. ถวายฎีกาแน่ ด้าน “ประชาธิปัตย์” เครียดหลังพบเบาะแส ส.ส.มีเอี่ยวโกงโครงการชุมพอเพียง “เสธ.หนั่น” ให้จับตาการเมืองเกิดอุบัติเหตุ

คุ้มกัน“มาร์ค”ดั่งไข่ในหิน

   
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมรัฐสภาอาเซียน ครั้งที่ 30 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดถนนเมื่อขบวนเข้าสู่เขตเมืองพัทยาตลอดเส้นทาง มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อปพร. ยืนรักษาความปลอดภัยตลอดสองฝั่งเส้นทางจนถึงโรงแรมที่ประชุม อย่างไรก็ตามไม่ปรากฏกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงมาดักประท้วงตามที่เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานไว้ก่อนหน้านี้
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่บริเวณโรงแรม ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนับพันนายกระจายตามจุดต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นเขาที่เคยเกิดเหตุปะทะกันเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดและเครื่องเทอร์โมสแกนตรวจวัดอุณหภูมิผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย และนำเจลล้างมือตั้งไว้ตามจุดสำคัญ ด้าน พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากได้วางมาตรการรักษาความปลอด ภัยไว้อย่างเข้มงวด และได้ประสานกับแกนนำผู้ชุมนุมไม่ให้มาชุมนุมในบริเวณดังกล่าวแล้ว

ต้องพร้อมรับมือภัยคุกคาม

   
นายอภิสิทธิ์กล่าวตอนหนึ่งหลังเปิดการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เป็นการตอกย้ำเป้าหมายร่วมกันในการสร้างประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยอยู่บนพื้นฐานของกฎระเบียบในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย การเป็นสมาชิกรัฐสภาอาเซียนไม่ได้หมายความเพียงแค่การนำประชาชนมาสู่อาเซียน แต่ต้องหมายถึงการนำ  อาเซียนไปสู่ประชาชนด้วย
   
นายกฯกล่าวต่อว่า ไทยต้องการเห็นอาเซียนเป็นประชาคมแห่งการปฏิบัติได้อย่างเด็ดขาดและทันท่วงทีในการรับมือกับภัยคุกคามที่มีต่อความมั่นคงทั้งภายในและภายนอก และความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน เป็นประชาคมแห่งความเชื่อมโยงระหว่างกัน ตนมั่นใจว่าการร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือ AIPA จะทำให้รัฐสภาของอาเซียนสามารถออกกฎหมายที่สอดคล้องประสานกันเป็นอย่างดี นำไปสู่การเป็นประชาคมอาเซียน

เน้นแก้ค้ามนุษย์ละเมิดสิทธิ
   
จากนั้นนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานสมัชชารัฐสภาอาเซียน   (AIPA) กล่าวว่า อาเซียนกำลังเผชิญความท้าทายทั้งเศรษฐกิจและปัญหาสังคม อาทิ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน จึงจำเป็นต้องปรับยุทธศาสตร์และบทบาทขององค์กรไปตามสภาพปัญหา การหารือครั้งนี้จะเน้นบทบาทของไอป้า ในการสนับสนุนการทำงานของอาเซียน รวมตัวกันเร่งรัดการลงนามข้อตกลงต่าง ๆ ให้บรรลุผลและพยายามลดช่องว่างระหว่างสมาชิก
   
สมเด็จอัครมหาพญาจักรี เฮง สัมริน  ประธานรัฐสภาแห่งชาติกัมพูชา กล่าวว่า ภูมิภาคของเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่ก็ยังหวังว่าไอป้าจะผ่านข้อตกลงร่วมกันได้ และหวังว่าจะเป็นกระดูกสันหลังให้อาเซียนกลับมาผนึกกำลังดังเดิม และให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาที่อาเซียนได้เห็นชอบแล้ว รวมถึงกำหนดการบังคับใช้กฎบัตรต่าง ๆ ให้ชัดเจนเพื่อให้สมาชิกได้รับทราบและเข้าใจ

มาเลย์ให้ยอมรับ ปชต.ที่แตกต่าง
   
ด้านนายอากุง ลัคโซโน ประธานรัฐสภาอินโดนีเซีย กล่าวว่า เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุวินาศกรรมโรงแรมในอินโดนีเซียถึง 2 ครั้ง ถือเป็นการโจมตีเสรีภาพประชาธิปไตย อินโดนีเซียเห็นว่าสิทธิมนุษยชนเป็นแก่นสำคัญของประชาคมอาเซียน จึงต้องส่งเสริมสังคมในอาเซียนให้มีความยุติธรรมและอดทน การจัดตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนต้องค่อยเป็นค่อยไป และอยากให้อาเซียนช่วยกันส่งเสริมให้รัฐบาลพม่าจัดตั้งองค์กรสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นให้ได้ หากทำได้พม่าก็จะได้รับการรับรองในประชาคมโลก
   
นายมูเลีย ปานดิการ์ อามิน ประธานรัฐสภามาเลเซีย กล่าวว่า การตีความประชาธิปไตยที่แตกต่างกันมาเลเซียมองว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือของรัฐบาลและสนองต่อความต้องการของชาติ เสรีภาพทางการเมืองจะนำไปสู่เสรีภาพทางเศรษฐกิจ การพัฒนาการเมืองต้องยึดถือหลักนิติธรรม ขอให้มุ่งความเป็นบูรณาการในระดับภูมิภาคให้มากกว่านี้

พม่าหวังมี ปชต.จากเลือกตั้ง
   
นายพรอสเปโร ซี.โนกราเลส หัวหน้าคณะผู้แทนประเทศฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ปัญหาที่อาเซียนต้องประสบโดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ทำให้ทุกประเทศต้องร่วมมือให้ข้อมูลปัจจุบันเพื่อต่อสู้ และเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบสาธารณสุข ส่วนการทดลองขีปนาวุธนิวเคลียร์เราก็หวาดวิตกรวมถึงภัยก่อการร้าย อย่างไรก็ตามเราจำเป็นต้องร่วมมือให้เกิดสันติภาพและความมั่นคงในอาเซียน โดยการจัดการตั้งประชาคมอาเซียนในปี ค.ศ. 2015 สมาชิกรัฐสภาจึงเป็นเหมือนตัวเชื่อมระหว่างประชาชนที่เดินถนนกับรัฐบาล ดังนั้นควรช่วยกันหาวิธียกระดับความเจริญเติบโตและให้ประชาคมเชื่อมั่นต่ออาเซียน
   
นางตง ธิ ฟอง รองประธานสภาสาธารณ รัฐสังคมนิยมเวียดนาม กล่าวว่า อาเซียนต้องร่วมมือแก้เศรษฐกิจ ไม่ควรให้มีการตั้งกำแพง    ภาษี รวมถึงมีการปรึกษาหารือในการแก้ปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ ขณะที่นายตุน ชิน ผู้สังเกตการณ์พม่า กล่าวว่า เรามีความหวังที่จะทำให้ประเทศมีระบอบประชาธิปไตย มีผู้นำมาจากการเลือกตั้ง โดยร่วมมือกับประชาชน ซึ่งเราต้องการสนับสนุนจากไอป้าด้วย

“เทือก”รับหมดทางจัดการแดง

   
ส่วนความเคลื่อนไหวการถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนเป็นคนไทยแท้มีความจงรักภักดีไม่ประสงค์ที่จะให้ใครไปล่วงละเมิดเบื้องพระยุคลบาท ความพยายามถวายฎีกาเพื่อช่วย พ.ต.ท.ทักษิณพ้นโทษนั้น เป็นเรื่องไม่บังควรจึงไม่เข้าใจว่าต้องการอะไรกันแน่ การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัย     โทษคนที่หนีคุกหนีศาลไม่เข้าเกณฑ์ อย่างไรก็ตามรัฐบาลคงไปขัดขวางไม่ได้ ตราบใดที่ยังไม่ผิดกฎหมายก็ต้องดูห่าง ๆ และเฝ้าระวัง
   
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ประธานวิปพรรคร่วมรัฐบาล แถลงว่า พรรคร่วมรัฐบาลขอเรียกร้องให้แกนนำกลุ่มเสื้อแดงยุติการดำเนินการถวายฎีกา เพราะจะเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาทและขัดกับกฎหมาย และพรรคร่วมรัฐบาลจะทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ควรนำเรื่องของการเมืองไปเกี่ยวข้องกับสถาบัน

“เนวิน”จับไต๋5ล้านชื่อของปลอม
   
วันเดียวกันพรรคภูมิใจไทย นายเนวิน ชิดชอบ แกนนำพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการล่ารายชื่อถวายฎีกาของกลุ่มคนเสื้อแดงที่ระบุว่าได้ 5 ล้านกว่ารายชื่อว่า ตนได้บอก ส.ส.ว่าตามหลักสถิติประชากรไทย 65 ล้านคน มีผู้บรรลุนิติภาวะ 49 ล้านคน ถ้ามีคนไปลงชื่อถวายฎีกา 5 ล้านคน คิดเป็น 10% ตนอยากให้แต่ละคนลองโทรศัพท์ไปถามคนรู้จัก 15 คนว่าใครไปเซ็นชื่อถวายฎีกาบ้าง ก็จะเป็นคำตอบว่าที่บอกว่า 5 ล้านคนจริงหรือไม่
   
เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่เชื่อว่ากลุ่มเสื้อแดงจะล่ารายชื่อได้ 5 ล้านคน นายเนวินกล่าวว่า สมัยพรรคพลังประชาชนร่วมกับคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) เสนอกฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน รวบรวมรายชื่อได้ 67,000 คน ยังใช้เวลาตั้ง 2 เดือน ซึ่งตนทดลองโทรศัพท์ไปหาเพื่อนฝูงที่รู้จัก 100 คน ปรากฏว่าไม่มีใครไปลงชื่อ
nแฉเป็นแผนแบ่งแยกประชาชน
   
ส่วนที่คนเสื้อแดงจะมีการนำรายชื่อไปถวายฎีกาในวันที่ 17 ส.ค.นั้น นายเนวินกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่บังควร ฎีกานี้ไม่ใช่การร้องทุกข์แต่เป็นการขออภัยโทษ ผู้ขอจะต้องเป็นญาติหรือคนใกล้ชิด คนอย่างนายวีระ มุกสิกพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง น่าจะทราบขั้นตอนดีเพราะเคยได้รับพระราชทานอภัยโทษสมัยที่ติดคุกใน จ.บุรีรัมย์ ในความเป็นจริงผู้ยื่นถวายฎีกาไม่ประสงค์ผลตั้งแต่ต้น เพราะทราบว่าคุณสมบัติของผู้ยื่นไม่ชอบด้วยกระบวนการของกฎหมาย เชื่อว่าหวังผลเพื่อต้องการแบ่งแยกประชาชนให้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสถาบัน 

“จตุพร”อาฆาต ขรก.มหาดไทย   
   
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำคนเสื้อแดง ให้สัมภาษณ์ถึงการถวายฎีกาว่า จากวันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 17 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่จะนำใบฎีกา  ยื่นต่อสำนักพระราชวังนั้น จะรวบรวมรายชื่อประชาชนอีกครั้ง คาดว่าจะมีประชาชนสนใจร่วมลงชื่อถึง 10 ล้านคน หากรวมกับยอดที่ถวายฎีกาแล้ว อย่างไรก็ตามทราบมาว่ามีการใช้งบฯรัฐจัดทำหนังสือโจมตีแกนนำเสื้อแดง โดยพิมพ์ที่โรงพิมพ์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตนขอเตือนบรรดาข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้ท่านเชิญหาความสำราญกันให้สบาย ถ้าเรากลับไปเมื่อไหร่ โดนแน่
   
“ล่าสุดผมเห็นข่าว พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ อดีต ผบ.ทหารสูงสุด ให้สัมภาษณ์การถวายฎีกาอาจนำไปสู่การปฏิวัติ ใครอยากปฏิวัติอีกก็เชิญแต่เป็นหน้าที่ของคนเสื้อแดงจะต่อสู้ คนเสื้อแดงเป็นแค่เหยื่อแต่ความจริงคืออดีต   คมช.แตกกันเอง ถ้าแน่จริงนายกฯก็ปลด พล.ต.อ. พัชรวาท วงศ์สุวรรณ ออกจาก ผบ.ตร. แต่ที่สงสัยคือไอ้คนที่ไม่ค่อยหวีผม หน้าตาไม่ยิ้มแย้ม ที่เขียนชื่อใส่นามบัตรฝากตำรวจนั้น ถามว่าไอ้บ้าเกิด พ.ศ.ไหน วิธีการนี้เชยตายโหง” นายจตุพรกล่าว

วัดใจ“เนวิน”อยู่ฟังคำตัดสิน

   
ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่กำหนดถวายฎีกาวันที่ 17 ส.ค.เพราะตั้งใจกดดันศาลที่จะตัดสินคดีกล้ายางของนายเนวินวันเดียวกันหรือไม่ นายจตุพรกล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจให้ตรงกัน ที่กำหนดวันที่ 17 ส.ค.เพราะการตรวจสอบเอกสารจะแล้วเสร็จวันที่ 15 ส.ค.ตรงกับวันเสาร์ แล้ว     วันที่ 16 ส.ค.ก็เป็นวันอาทิตย์ ประกอบกับเราว่างวันที่ 17 ส.ค.วันเดียว และจะไม่มีการเลื่อนอีกแล้ว คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมถวายฎีกาไม่น้อยกว่า 3-4 แสนคน
   
“ผมฝันดีว่าคดีกล้ายางนายเนวินจะโดน 7 ปี ส่วนบริษัทซีพี 3 ปีครึ่ง ดังนั้นวันดังกล่าวคนก็คงจะพุ่งความสนใจไปที่ศาลฎีกาฯว่า ที่สุดแล้วอำมาตย์จะเปลี่ยนแปลงผลการตัดสินได้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่รู้ว่านายเนวินสุขสบายดีและกล้าอยู่รอฟังคำตัดสินหรือไม่” นายจตุพรกล่าว 

เจ้าตัวลั่นไม่หนีพร้อมอยู่บางเขน
   
นายเนวินให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงข่าวว่าจะหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาทุจริตกล้ายางในวันที่ 17 ส.ค.ว่า ตนชื่อเนวินพร้อมที่จะน้อมรับคำพิพากษาของศาลทุกประการไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตนไม่เคยหนี ขนาด คมช.ตนยังไม่หนี ดังนั้นคำพิพากษาของศาลจะออกมาอย่างไรตนก็พร้อมน้อมรับ เรา เป็นคนไทยอยู่ประเทศไทยสัญชาติเชื้อชาติไทยก็ต้องเคารพกฎหมายไทย ไม่เหมือนคนที่ปากบอก ว่ารักประเทศไทยแต่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมไทย
   
เมื่อถามว่า หากศาลพิพากษาว่ามีความผิดจริงเตรียมตัวอย่างไร นายเนวินกล่าว พร้อมทั้งหัวเราะว่า ก็ไปอยู่บางเขน หากนักข่าวจะไปเยี่ยมก็ให้นัดกันว่าใครจะไปวันไหน ยืนยันว่าในวันที่ 17 ส.ค.จะไปฟังคำพิพากษาแน่นอน ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดหนี และไม่มีต่อรองให้พ้นคดี

เสนอนิรโทษกรรมยุติปัญหา

   
นายจุมพฎ บุญใหญ่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ร่วมกิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ตนและ ส.ส.จำนวนหนึ่งกำลังยกร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมให้แก่กลุ่มพันธมิตรฯ และกลุ่ม นปช. เพราะเชื่อว่าบุคคลออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างบริสุทธิ์ใจ หากมีการนิรโทษกรรมบ้านเมืองจะกลับมาสู่ความสงบเพราะทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม หากต้องมารับโทษเป็นเรื่องที่น่าสงสาร ทหารยึดอำนาจยังเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมได้ ทำไมชาวบ้านจะไม่มีสิทธิ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะเสร็จในสัปดาห์หน้า และจะเสนอร่างภายในวันที่ 13 ส.ค.
   
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคมีมติคัดค้านการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับ พ.ต.ท. ทักษิณ พร้อมกำชับให้ ส.ส.ทำความเข้าใจกับประชาชน นอกจากนี้ยังสนับสนุนการตั้งโต๊ะ  คัดค้านและยกเลิกการลงชื่อถวายฎีกา ของกระทรวงมหาดไทย

“เสธ.หนั่น”เตือนจับตาการเมือง

   
ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา แหล่งข่าวเปิดเผยว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ได้    วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองว่า มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายมาก พล.ต.สนั่นยังขอให้ ส.ส. ติดตามอย่าได้คลาดสายตา และให้ลงพื้นที่อย่างหนักเพราะอาจเกิดความพลิกผันได้ตลอดเวลา
   
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า พล.ต.สนั่นให้จับตาดู 2 ประเด็นคือ 1.สถานการณ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล ที่อาจจะมีความขัดแย้งกันเอง โดยเฉพาะกรณีความขัดแย้งเรื่องตำรวจระหว่างนายกฯกับ ผบ.ตร.เพราะหัวหน้าพรรคกับเลขาธิการพรรค มีความเห็นคนละอย่าง และยังลามไปถึงกองทัพ จากผลคดีลอบสังหารนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ 2.เรื่องที่ฝ่ายค้านรวบรวมรายชื่อเพื่อถวายฎีกา อาจพัฒนาไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงได้

ตจว.ยังเคลื่อนไหวคัดค้าน
   

ทางด้านความเคลื่อนไหวต่างจังหวัด ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สิงห์บุรีว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดได้จัดสถานที่ให้ประชาชนและข้าราชการมาร่วมลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกาที่ศาลากลาง พร้อมให้ทุกอำเภอตั้งโต๊ะลงชื่อด้วยเช่นกัน โดยจะเปิดให้ประชาชนลงชื่อจนถึงวันที่ 30 ส.ค. ขณะที่ จ.พระนครศรีอยุธยา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 16 อำเภอกว่า 500 คน ได้จัดกิจกรรมคัดค้านการถวายฎีกาเช่นกัน
   
สำหรับที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตั้งโต๊ะให้ประชาชนที่ลงชื่อถวายฎีกามาถอนรายชื่อ และตั้งโต๊ะลงชื่อคัดค้านการถวายฎีกา ปรากฏว่ามีคนมาลงชื่อคัดค้านบ้างเล็กน้อย อย่างไรก็ตามผู้ว่าราชการจังหวัดได้กำชับให้ตรวจสอบรายชื่ออย่างเข้มงวด หากพบว่ามีการแอบอ้างชื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายทันที

ปชป.เครียด ส.ส.เอี่ยวทุจริต
   
ส่วนการตรวจสอบความคืบหน้าการทุจริต โครงการชุมชนพอเพียงนั้น นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการชุมชนพอเพียง เปิดเผยว่า ในวันที่ 5 ส.ค. จะประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาการทุจริตในโครงการชุมชนพอเพียง โดยจะเชิญ ส.ก. ในเขตที่มีปัญหา และผู้บริหารสำนักงานเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อยกระดับชุมชน (สพช.) มาให้ข้อมูล ซึ่งจากการลงพื้นที่พบว่าตู้กดน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ และเสาไฟโซลาร์เซลล์ต่างใช้การไม่ได้ ซึ่งนายชวน หลีกภัย บอกว่าเรื่องนี้ถ้าใครผิดต้องดำเนินการให้เด็ดขาดทันที เพื่อตัดตอนไม่ให้ความผิดลามมาถึงพรรค
   
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมถึงความไม่โปร่งใสเกี่ยวกับโครงการชุมชนพอเพียง จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าอาจมีลูกน้องของนักการเมืองท้องถิ่น ส.ข. ส.ก. รวมถึง ส.ส.กรุงเทพมหานครของพรรคคนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ข้อมูลยังไม่แน่ชัดจึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน ซึ่งที่ประชุมถึงกับระบุว่าหากมีคนของพรรคเข้าไปเกี่ยวข้องก็ต้องฟันไม่เลี้ยง และจะต้องเสนอให้นายอภิสิทธิ์จัดการอย่างเด็ดขาด.
 

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์