อภิสิทธิ์ไม่ขัดแก้ รธน. ชี้ปัญหาคือ วิธีดำเนินการ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าววันนี้ (3 ต.ค.) ในรายการข่าวเช้า ทางสถานีโทรทัศน์ทีพีบีเอส

ถึงการประชุม 4 ฝ่าย ระหว่างนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภาและผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ที่มีกำหนดวันนี้ ว่า ประธานสภาฯ แจ้งว่า ได้ให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษารูปแบบสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ในอดีต ทั้ง ส.ส.ร. 1 ส.ส.ร. 2 และความน่าจะเป็น ตรงนี้ คือ สิ่งที่ประธานสภาฯ แจ้งไว้เป็นกรอบกว้างๆ


ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำถามรัฐบาลเสนอเรื่อง ส.ส.ร. แต่ฝ่ายค้านมีข้อสงสัยตรงนี้ จะกลับไปคุยก่อนว่า ควรจะมี ส.ส.ร. ควรจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือ จะไปคุยกันในรายละเอียดการมี ส.ส.ร. เลย

สำหรับตนจริงๆ แล้ว เรื่อง ส.ส.ร. ไม่เคยขัดข้อง เพียงแต่พูดว่า สิ่งที่ต้องการทำในวันนี้ คือ อะไร โดยต้องตั้งโจทย์ก่อน ตนมองว่า เราพยายามจะหาทางออกในการคลี่คลายความขัดแย้งทางการเมือง ในความเห็นของตนการจะคลี่คลายความขัดแย้งต้องเริ่มจากจุดร่วมไม่ใช่เริ่มจากจุดต่าง


นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า คราวนี้ การจะมี ส.ส.ร. หรือ ไม่อาจจะเป็นจุดต่างได้ เพราะมีแนวคิดอีกแนวคิดหนึ่งที่พูดถึงกรรมการอิสระที่เสนอโดยอธิการบดี

นอกจากนั้น ยังมีแนวคิดที่เสนอโดยกลุ่มของ นพ.เหวง โตจิราการ ที่ไม่ได้พูดถึง ส.ส.ร. โดยเสนอมาเป็นร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมโดยให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  (ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ดำเนินการไปเลย นอกจากนั้น ยังไม่นับที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พูดถึงการเมืองใหม่ ที่ก็ยังไม่ชัดเจนว่า ต้องการกระบวนการไหน คือ ไม่คิดว่า ถ้าไปด่วนตัดสินใจมี ส.ส.ร. ตั้งโจทย์ไว้แบบนี้ แล้วถ้าเกิดกลุ่มอื่นๆ บอกไม่ใช่คำตอบ คำถาม คือ ได้ ส.ส.ร. แต่ได้การแก้ไขปัญหาหรือไม่ ก็ไม่ได้คำตอบของปัญหา


ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ดังนั้น สิ่งที่พยายามจะพูด คือ จุดร่วมคืออะไร

ซึ่งจุดร่วมวันนี้ คือ อย่างไรเสียมองแล้วก็จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะ 1 รัฐบาลเองก็บอกรัฐธรรมนูญปี 2550 มีปัญหา ปชป. เองก็บอกว่า รัฐธรรมนูญปี 2550 ควรจะมีการปรับปรุงแก้ไข กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องการการเมืองใหม่ การเมืองใหม่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนอกจากจะมาโดยวิธีการอื่นๆ ที่ไม่มีใครยอมรับแล้ว ส่วนกรรมการอิสระในที่สุดก็นำไปสู่การแก้รัฐธรรมนูญ ดังนั้น จุดร่วมอยู่ตรงนี้ ส่วนวิธีการที่จะขยายไปสู่ผลอันเป็นขั้นตอนที่ยอมรับ คือ อะไร


นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ปัญหาของ ส.ส.ร. หรือ กรรมการอิสระมีอยู่ประเด็นเดียว คือ ที่มาที่ไปจะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายได้อย่างไร

ซึ่งมองว่า 4 คน วันนี้ ยังไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบได้ว่า ที่มาที่ไปของ ส.ส.ร. ควรจะอยู่ตรงไหน อย่างไรก็ตาม ได้เสนอประธานสภาฯ ไว้แล้วว่า 4 คนวันนี้ ถ้าตกลงเหมือนกับที่เห็นว่า จุดร่วมคือ การแก้รัฐธรรมนูญต้องเพิ่มเข้าไปว่า เป็นการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อปฏิรูปการเมือง ไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยคดีใคร


เมื่อถูกถามว่า แสดงว่า ไม่ได้คาดหวังอะไรมากว่าจะเห็นอะไรออกมาเป็นรูปธรรมจากการคุยกันวันนี้ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

คิดว่า วันนี้ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องที่บอกว่า ตกลงสรุปแล้วมีกรรมการแล้ว เพราะไม่แน่ใจว่า วิธีนี้ แก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ สิ่งที่สำคัญกว่า วันนี้ คือ อยากได้ยินจากรัฐบาลก่อนว่า การแก้รัฐธรรมนูญใดๆ  เป็นการแก้เพื่อปฏิรูปการเมืองไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยคดี


นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเห็นตรงกัน แต่ต้องมาตกลงกันในหลักการก่อนว่า แก้ไขเพื่อทำให้การเมืองดีขึ้น ถูกต้อง เพราะถ้าออกมาแบบนี้ รัฐบาลมีความชัดเจน

โดยนายกฯ จะคลายความกังวลได้ส่วนหนึ่ง ส่วนเมื่อถามว่า รายละเอียดจะทำอย่างไรขอเรียนประธานสภาฯ ว่า สมมุติว่า วันนี้ ตกลงกันได้ในหลักการอยากเสนอว่า ต่อไปควรจะมีการประชุมอีกครั้ง โดยเชิญตัวแทนอธิการบดี หรือ กลุ่มต่างๆ นะ.เหวง และกลุ่มพันธมิตรฯ มาคุยว่า 4 ฝ่ายที่คุยอยากจะทำแบบนี้ ที่รับได้ คือ อะไร จะมีกรรมการอิสระ หรือ ส.ส.ร. รูปแบบเป็นอย่างไร


ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า พูดง่ายๆ เมื่อได้หลักการจะแก้รัฐธรรมนูญ แก้รัฐธรรมนูญแบบประชาชนมีส่วนร่วม

แต่จะตัดสินเองว่า การมีส่วนร่วมของประชาชน หรือ การแก้รัฐธรรมนูญทำโดยวิธีใดก็เชิญคนที่เสนอความติดต่างๆ มา ไม่เช่นนั้นตัดสินใจอะไรไปฝ่ายต่างๆ ในสังคมที่มีความขัดแย้งกันอยู่ไม่ยอมรับ สุดท้ายถามว่า ประชุมออกมาที่เป็นรูปธรรมออกมา แต่ไม่ได้แก้ปัญหา ก็ไม่เป็นประโยชน์กับใคร


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์