หวั่นผู้ชุมนุมปะทะ ´บิ๊กสุ´ เตือน แนะให้ยุบสภา

เมื่อเวลา 09.00 น. วานนี้ (22 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กรณีรัฐบาล ขอให้มีการเปิด ประชุมรัฐสภา เพื่ออภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติว่า เรื่องที่อภิปราย อาจไม่ถึง 6 เรื่องก็ได้ เพราะหากอภิปรายไป 2-3 วันแล้วเพิ่งพูดได้ แค่เรื่องเดียว สมาชิกไม่ติดใจเรื่องอื่น ก็อาจไม่ต้องอภิปรายอีก คาดว่าน้ำหนักการอภิปราย จะอยู่ที่เรื่องความเชื่อมั่น และการบังคับใช้กฎหมาย ของกรมสรรพากรและหน่วยงาน ในกระทรวงการคลังมากกว่า ยืนยันว่าไม่มีการห้ามถามเรื่องนั้นเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องจริยธรรมนายกรัฐมนตรีด้วย แต่ต้องถามให้เป็น ไม่ถามเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน

สุวรรณ ดอดเข้าทำเนียบฯ

วันเดียวกัน เมื่อเวลา 12.15 น. นายสุวรรณ วลัยเสถียร โฆษกตระกูลชินวัตร และดามาพงศ์ ได้เดินทางไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยนายสุวรรณกล่าวว่า ไม่ได้มาพบนายกรัฐมนตรี แต่มาร่วมประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการเตรียมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการขายหุ้นไว้ให้นายกรัฐมนตรีชี้แจงต่อรัฐสภาหรือไม่ นายสุวรรณกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับผม ผมหมดหน้าที่แล้ว เมื่อถามว่าดูเหมือนตอนนี้หน้าตาแจ่มใสและรูปร่างดีขึ้น นายสุวรรณกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ทุกวันนี้มีความสุขมากขึ้น และคงไม่จำเป็นต้องเขียนหนังสือสอนลูกให้รวยภาค 2 เพราะลูกรวยแล้ว คงต้องสอนตัวเองและนักข่าวให้รวยบ้าง โดยต้องทำตัวเป็นจิ้งหรีด กินน้ำกินใบไม้ จะได้รวยและผอมด้วย เมื่อถามว่าที่ตั้งของบริษัทแอมเพิล ริช และบริษัทวินด์มาร์ค ตั้งอยู่ที่เดียวกันหรือไม่ นายสุวรรณกล่าวว่า ไม่รู้

สุดารัตน์ สั่ง ส.ส.ทรท.เตรียมข้อมูล

ต่อมาในช่วงบ่าย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้เรียก ส.ส.พรรคไทยรักไทยหลายคนที่ศึกษากฎหมายเกี่ยวกับกิจการโทรคมนาคมและ ส.ส.อีกจำนวนหนึ่งไปประชุมร่วมกัน เพื่อเตรียมข้อมูลไว้ช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในช่วงที่มีการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปรัฐบาล ซึ่งน่าจะถูกซักถามในเรื่องการขายหุ้นชินคอร์ป ที่คาบเกี่ยวกับการออกกฎหมายกิจการโทรคมนาคมบางฉบับ

ทักษิณ อมยิ้มไม่ให้สัมภาษณ์

เมื่อเวลา 10.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางเข้าไปที่ทำเนียบรัฐบาล โดยทันทีที่พบกลุ่มผู้สื่อข่าวก็ชี้นิ้วกลับไปที่รถยนต์พร้อมกล่าวว่า กำลังฟังเพลงคนบ้านนอกของโลโซ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์เรื่องต่างๆ ปรากฏว่า พ.ต.ท. ทักษิณรีบเดินขึ้นห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้าทันที ทั้งนี้มีรายงานข่าวว่าระหว่างที่ พ.ต.ท.ทักษิณนั่งรถเข้าทำเนียบรัฐบาลนั้น ได้ฟังเพลง แม้ว่า ของวงโลโซ โดยในช่วงที่รถเลี้ยวเข้าประตูทำเนียบฯเพลงก็ถึงท่อนสร้อยพอดี มีเนื้อร้องว่า ก็เพราะว่าฉันชอบเธอ ตั้งแต่แรกเจอแต่ไม่ กล้าบอก กลัวว่าเธอนั้นจะมาหลอก คนบ้านนอกอย่างฉัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณอีกสองครั้งในช่วงเที่ยงและบ่าย จึงได้พยายามซักถามเรื่องการประชุมรัฐสภาในวันที่ 6 มี.ค. และแผนการเดินทางไป จ.เชียงใหม่ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณเอาแต่อมยิ้มโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ

ทรท.จวก อภิสิทธิ์ หยุมหยิม

น.ต.ศิธา ธิวารี โฆษกพรรคไทยรักไทย แถลงถึงกรณีฝ่ายค้านทวงสัญญา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องการขอเสียงอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า เรื่องนี้ฝ่ายค้านน่าจะรู้ดี ขนาดเด็ก ป.3 ดูนายกรัฐมนตรีในรายการ ถึงลูกถึงคน ที่สัมภาษณ์ประเด็นดังกล่าว ก็เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวชัดเจนว่าหากผลการเลือกตั้งออกมาแล้วพรรคไทยรักไทยได้เกิน 400 เสียง ประชาชนไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากฝ่ายค้านมีไม่ถึง 100 เสียง พรรคไทยรักไทยพร้อมจะให้เสียง แต่ฝ่ายค้านกลับไปตีความอีกอย่าง สร้างกระแสให้เกิดประเด็นทางการเมือง ขอท้าให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เอาเทปรายการดังกล่าวไปถอดคำพูดนายกรัฐมนตรีแบบคำต่อคำ แล้วจะรู้ว่าความหมายที่พูดเป็นเช่นไร ฝ่ายค้านเหมือนเด็กปัญญาอ่อน ฟังไม่ได้ศัพท์จับไปกระเดียด ตีความเข้าข้างตัวเอง ไม่ดูหลักประชาธิปไตย นายอภิสิทธิ์หยุมหยิม จ้องแต่ตีขลุมคำพูดคนอื่น ทำเหมือนเด็กเล่นขายของ

ปชป.ตอก ทักษิณ คนประหลาด

ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่เคยพูดว่าจะให้ ส.ส.พรรคไทยรักไทยร่วมลงชื่อ เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี แต่ที่บอกว่าจะให้เสียง ส.ส. หมายถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเท่านั้นว่า หลักการสำคัญที่นายกรัฐมนตรีพูดคือจะอนุญาตให้สมาชิกในสังกัดมาลงชื่อ กับฝ่ายค้านในการตรวจสอบ แต่เมื่อมาตีความว่าจะให้ตรวจสอบได้เฉพาะรัฐมนตรี ทั้งยังให้คนอื่นมาบอกว่าการทำเช่นนี้เป็นการทำลายวัฒนธรรมทางการเมือง ก็อยากย้อนถามว่าหากเป็นกรณีที่จะให้เสียง ส.ส.ตรวจสอบรัฐมนตรี จะเป็นการทำลายวัฒนธรรมทางการเมืองหรือไม่ คำถามที่อยู่ในใจประชาชนมากที่สุดคือเรื่องจริยธรรม และความเหมาะสม ดังนั้น ฝ่ายค้านจึงนำอำนาจ ที่มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญบวกกับหลักการที่นายกรัฐมนตรีพูดไว้กับประชาชนมาทวงถาม ส่วนที่นายกฯระบุว่าการมาขอเสียง ส.ส.ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯถือเป็นการเมืองประหลาดนั้น บางทีเป็นเพราะว่าคนประหลาดมาเล่นการเมือง

แขวะเจ็บเล่นกลการเมือง

นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าให้หาช่องหาวิธีพูดกัน ถามว่าทำไมถึงไปส่งเสริมให้คนไม่ใช้ กฎหมายอย่างตรงไปตรงมา แต่ไปส่งเสริมให้ใช้ช่องนั้นช่องนี้ ไม่ใช่วิสัยที่ดีของการเป็นนักกฎหมาย หรือนักการเมือง ดังนั้น เรื่องนี้ถ้านายกฯไม่อนุญาตก็ขอให้ออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง ถ้ามั่นใจว่าชี้แจงได้ เวทีการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะสง่างามที่สุด ตอนนี้ภาพที่ออกมาคือรัฐบาลเบี่ยงเบนไปวันๆ โดยเฉพาะช่วงจังหวะที่พรรคไทยรักไทยจะจัดปราศรัยใหญ่ที่สนามหลวงในวันที่ 3 มี.ค. ถือเป็นแผนการเมืองที่วางไว้แล้ว สอดรับกับการเปิดอภิปรายทั่วไปในวันที่ 6 มี.ค. โดยส่วนตัวไม่รู้สึกไม่แปลกใจกับวิธีแบบนี้ เชื่อว่าจะมีรูปแบบอื่นๆมากขึ้นไปอีก แต่ผสมผสานกัน ประชานิยมบ้าง สร้างกระแสบ้าง แต่ขอเตือนว่าสูตรสำเร็จที่เคยใช้มา 4-5 ปี วันนี้ใช้ไม่ได้แล้ว เพราะคนมองทะลุว่าเป็นเพียงการเล่นกล แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับบ้านเมืองที่เป็นความเสียหายระยะยาว สำหรับการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์วันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา ผู้ใหญ่ของพรรคได้วิเคราะห์ว่า นายกรัฐมนตรีอาจเลือกแก้ปัญหาทางการเมืองด้วยการยุบสภา

ชวน กรีดกลับสันดาน อดิศร

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายอดิศร เพียงเกษ รมช. เกษตรและสหกรณ์ ระบุว่านายชวนและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้า พรรคประชาธิปัตย์ มีสันดานเหมือนกันว่า เป็นการพูดที่ไม่เหมาะสม ก่อนที่จะพูดถึงสันดานคนอื่นควรย้อนกลับไปสำรวจสันดานตัวเองก่อน เพราะหาก ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎรมีสันดานเหมือนนายอดิศร ก็จะมีแต่นักการเมืองขายตัว ย้ายพรรคจนกระทั่งจำไม่ได้ว่าเคยอยู่พรรคไหนมาบ้าง อะไรก็ได้ขอให้ได้ประโยชน์ นี่ไม่ใช่สันดานที่ดี ที่พูดครั้งนี้หมายถึงนายอดิศร ไม่ได้หมายถึงนักการเมืองคนอื่น เพราะยังมีนักการเมืองที่ดีอยู่ทั้งในฝ่ายค้านและรัฐบาล นอกจากนี้ ไม่ได้หมายความถึงบรรพบุรุษของนายอดิศร เพราะเชื่อว่าพ่อแม่ของนายอดิศรเป็นคนดี

เปิดเวทีชำแหละนอกสภา

นายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีท่าทีไม่ให้ ส.ส.ไทยรักไทย มาร่วมลงชื่อในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์ คงต้องนำข้อมูลที่เตรียมไว้ไปอภิปรายนอกสภา เพื่อให้ สาธารณะเห็นว่าไม่ใช่แค่กรณีบริษัทชินคอร์ปขายหุ้นให้เทมาเสกได้เงิน 73,000 ล้านบาท โดยไม่เสียภาษีเท่านั้น แต่จะชี้ให้เห็นว่า 5 ปีที่ผ่านมา ผู้มีอำนาจได้เปลี่ยนรูปแบบการคอรัปชันจากกินเปอร์เซ็นต์ในโครงการต่างๆ เป็นใช้อำนาจหาผลประโยชน์ในรูปแบบอื่น ทั้งแก้ไขกฎหมายหรือออกกฎหมายหาผลประโยชน์ให้ตัวเองและพวกพ้อง ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จผ่านรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการ รัฐวิสาหกิจ เท่าที่รวบรวมได้ขณะนี้มีมูลค่าสะสมไม่ต่ำกว่า 353,300 ล้านบาท เช่น การจัดซื้อจัดจ้างของสนามบิน สุวรรณภูมิ การจัดฝูงบินโดยสาร 15 เครื่องของการบินไทย โครงการของท่าเรือแหลมฉบัง โครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์

บรรหาร สั่งลูกพรรคซักฟอกเต็มที่

นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวว่า นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ได้เรียกประชุมสมาชิกพรรคในวันที่ 28 ก.พ. เพื่อหารือถึงการประชุมรัฐสภาเพื่ออภิปรายทั่วไปรัฐบาล ประเด็นสำคัญคือปัญหาสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน ปัญหาการเรียกร้องให้นายกฯลาออกจากตำแหน่ง รวมถึงประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยพรรคชาติไทย จะให้สมาชิกอภิปรายทุกประเด็น ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างดีที่สุด ฝ่ายรัฐบาลอย่าได้ย่ามใจ เพราะถึงจะไม่คว่ำด้วยคลื่นสึนามิแห่งความไม่พอใจนอกสภา ก็ยังต้องเจอกับการอภิปรายอีก 3 ระลอกคือ การอภิปรายร่วม 2 สภา การอภิปรายในการแถลงผลงานครบ 1 ปี และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะทำให้เกิดผลสะท้อนทางด้านลบ และ ขยายออกไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมนอกสภาอย่างกว้างขวาง

ทรท.ยังไม่สรุปจัดเวทีใหญ่ 3 มี.ค.

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีการที่รัฐบาลจะตั้งเวทีชี้แจงปัญหาสถานการณ์การเมืองในวันที่ 3 มี.ค. พร้อมกันทั่วประเทศว่า พรรคไทยรักไทยยังไม่มีมติเรื่องนี้ เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี อยากใช้เวทีของรัฐสภาชี้แจงข้อมูลต่างๆมากกว่า

พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (รอง ผอ.รมน.) ระบุว่าการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะมีคนมาร่วมพอๆกับการชุมนุมครั้งเหตุการณ์พฤษภาทมิฬว่า ไม่ประเมินเช่นนั้น คนที่จะมาร่วมมากอาจจะเป็นคนที่อยู่สมาคมว่าวไทย หรือคนที่ไปทำกิจกรรมที่สนามหลวงเป็นปกติอยู่แล้ว ส่วนที่มีข่าวว่าพรรคไทยรักไทยจะตั้งเวทีใหญ่ที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 3 มี.ค.นั้น ถือว่านายกฯมีความจริงใจ จึงให้มีการดำเนินการตามวิถีทางประชาธิปไตย

มท.ประเมินชุมนุมสนามหลวงมีแสนคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงมหาดไทยได้ประเมินผู้ที่จะไปร่วมชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ว่า จะมีผู้เข้าร่วมประมาณ 100,000 คน หรือเต็มพื้นที่สนามหลวง โดยเป็นกลุ่มพันธมิตรกู้ชาติรวมกับกลุ่มทีพีไอประมาณ 30,000-40,000 คน กลุ่มกองทัพธรรมของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประมาณ 10,000-20,000 คน ที่เหลือจะเป็นประชาชนใน กทม.และจังหวัดใกล้เคียงที่ไม่พอใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงบรรดาไทยมุง

บิ๊กจิ๋ว เย้ย จำลองโดดเดี่ยว

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีความห่วงว่าคนไทยจะถูกแบ่งแยกเป็นสองฝ่ายและอาจเกิดการปะทะกัน หลัง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ประธานกองทัพธรรมมูลนิธิ ประกาศเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตยว่า บ้านเราก็มีแค่นี้ คงไม่มีอะไรหรอก พล.ต.จำลองก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง มีสิทธิทำได้อยู่ในกรอบ อย่าไปมองว่าจะไปทำอะไรไม่ถูกต้อง การแสดงความเห็นถือเป็นเรื่องปกติ คนจะมาร่วมชุมนุมแสนคนหรือสี่แสนคนก็แล้วแต่ มาแล้วคงกลับบ้าน คงมีแต่ พล.ต.จำลองที่อยู่ต่อ ก็หาที่หาทางนิมนต์ไปอยู่ให้เข้าที่เข้าทาง สมัยตนเคยมีการชุมนุมถึง 22 วัน มีคนด่าตั้งแต่ 50 คน จนเหลือ 1 คน ไม่เห็นเป็นอะไรเลย ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ควรลาออกตามที่หลายฝ่ายกดดันหรือไม่ พล.อ.ชวลิตตอบว่า นายกรัฐมนตรีทำหน้าที่ได้เหมาะสม และมีหนทางเยอะแยะ ความจริงไม่ต้องลาออกเลย

อดิศร แขวะไม่ใช่ของจริง

นายอดิศร เพียงเกษ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การที่ พล.ต.จำลองออกมากดดันให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกสถานเดียวนั้น ในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกพรรคพลังธรรมในช่วงที่ พล.ต.จำลอง เป็นหัวหน้าพรรค ไม่นึกเลยว่า พล.ต.จำลองจะฆ่าลูกน้องแบบนี้ ยิ่งคำพูดที่เปรียบเทียบว่าการชักนำ พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาในวงการเมืองเหมือนปล่อยยักษ์ออกจากคุกนั้น เป็นคำพูดที่เกินไป อยากบอกว่าคนชื่อจำลองไม่ใช่ของจริง ทั้งนี้ ได้แต่งโคลงไว้เตือนสังคมไทยว่า จำลองแปลว่าไม่ใช่จริง ลองเล่นล่อเป็นลิง สีอาจซ่อนในศีลอุบายสถิต เมืองเดือดร้อนอดีตมั่นเจ็บให้ลองจำ

นายธีระชัย แสนแก้ว ส.ส.อุดรธานี พรรคไทยรักไทย กล่าวว่า การแสดงออกของ พล.ต.จำลองในช่วงนี้เหมือนคนแก่ขี้น้อยใจ ขาดการเอาอกเอาใจ เพราะช่วงที่ผ่านมานายกฯและคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว. เกษตรและสหกรณ์ รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ติดภารกิจมาก ไม่ค่อยมีเวลาให้ ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ และ พล.ต. จำลองเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ไม่อยากให้ยุบสภานั้น เป็นการนำอคติธรรมมาใช้

บิ๊กสุ ห่วงกลุ่มชุมนุมเคลื่อนขบวน

ที่ร้านอาหารตี๋โภชนา ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ถึงการชุมนุมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ว่า เป็นห่วงว่าจะเกิดการบานปลาย บท เรียนมีแล้ว ไม่น่าจะทำให้เกิดซ้ำสองขึ้นมาอีก สิ่งที่หนักใจ ของคนเป็นฝ่ายรัฐบาลคือต้องทำทุกอย่างตามกรอบกติกา ถ้าอีกฝ่ายไม่เล่นตามกรอบกติกา พยายามทำทุกอย่างให้ เกิดการจลาจล ก็ยากสำหรับเจ้าหน้าที่ เพราะถ้าทำอะไรไปก็หาว่ารังแกประชาชน ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมอยู่กับที่ก็ไม่มีปัญหา อย่าให้เคลื่อนที่ออกมา ถ้าใครเคลื่อนที่ออกมาถือว่าเจตนา ไม่ดี เกรงจะทำให้เกิดการปะทะ

แนะทางออก ทักษิณ ยุบสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกมาเคลื่อนไหวของ พล.ต. จำลอง ศรีเมือง ในช่วงนี้ถือว่าเหมาะสมหรือไม่ พล.อ. สุจินดาตอบว่า ไม่ทราบ แล้วแต่ พล.ต.จำลอง เมื่อถาม ว่าคิดว่านายกรัฐมนตรีจะมีทางออกในการแก้ปัญหาอย่างไร พล.อ. สุจินดากล่าวว่า คงไม่มีอะไรที่น่าจะรุนแรง นายกรัฐมนตรี ก็มีทางออก ที่สุดคิดว่าการยุบสภาเป็นวิธีการที่น่าจะแก้ปัญหา ที่ดีที่สุด เพราะจะได้ให้โอกาสประชาชนเลือก ถ้าประชาชน ยังนิยมอยู่ก็เลือกเข้ามาเอง คงไม่มีปัญหาอะไร

ทำความสะอาดสิ่งศักดิ์สิทธิ์แก้เคล็ด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เช้าวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ประจำทำเนียบรัฐบาล ได้ทำความสะอาด บริเวณที่ตั้งและองค์ท้าวมหาพรหม สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งอยู่ที่ยอดตึกไทยคู่ฟ้า สถานที่ทำงาน ของนายกรัฐมนตรี ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการ แก้เคล็ดทางการเมือง ในช่วงที่นายกรัฐมนตรี กำลังถูกปัญหารุมเร้า และถูกกลุ่มต่างๆ กดดันไล่ให้ลาออกจากตำแหน่ง

อาชีวะ ทำเข็มกลัดเชียร์นายกฯ

ช่วงสายวันเดียวกัน ที่อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว. ศึกษาธิการ เป็นประธานพิธีเปิดงาน พลังอาชีวะสร้าง ชาติ : อา 2006 มีผู้บริหารวิทยาลัยอาชีวศึกษา อาจารย์ นักศึกษา ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมประมาณ 2,000 คน โดยได้มีนักศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาจำนวนหนึ่ง เดินแจกเข็มกลัดที่เขียนข้อความว่า รักทักษิณ ให้ กำลังใจทักษิณนะ! และ LOVE TAKSIN CHEER TAKSIN OK! ให้แก่ผู้เข้าชมงาน ซึ่งนายจาตุรนต์และผู้บริหารระดับสูง ของสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาต่างติดเข็มกลัด ที่หน้าอกเสื้อระหว่างเดินเยี่ยมชมงาน จากการสอบถามทราบว่าทางวิทยาลัยอาชีวศึกษาเป็นผู้ ให้การสนับสนุนในการจัดทำเข็มกลัดดังกล่าว

นายจาตุรนต์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นักเรียนโรงเรียน เตรียมอุดมศึกษาบางคนจะออกมาร่วมขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ท้องสนามหลวง ในวันที่ 26 ก.พ. ว่า การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล แต่อยากแนะว่าถ้าจะเข้าร่วมชุมนุมขอให้ ระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตรายหรือพลัดหลง

เสนาะ แขวะถึงรวยก็ยังโกงอีก

อีกด้านหนึ่ง ที่บ้านเมืองทองธานี กลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงประมาณ 30 คน ในนามของพรรคสัจธรรม เดินทางเข้ามอบดอกไม้ให้นายเสนาะ เทียนทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย หัวหน้ากลุ่มวังน้ำเย็น ในฐานะที่ทำประโยชน์แก่บ้านเมือง 7 ประการ อาทิ เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นสู้เพื่อประชาธิปไตย คัดค้านอำนาจเผด็จการ มีจริยธรรมทางการเมือง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้นายเสนาะ ได้กล่าวกับกลุ่มนักศึกษาว่า ที่ต่อสู้มาจนได้ ยืนที่จุดนี้ไม่เพราะเก่ง แต่ได้พิสูจน์ว่าเมื่อมีโอกาสบริหารประเทศแล้วใช้อำนาจนั้นอย่างไร การมีอำนาจขึ้นมาต้องดูที่มาที่ไปของคนด้วย บางคนเอาพื้นฐานเก่าๆที่ร่ำรวยจากความไม่ชอบธรรมมาทำแบบนี้ เมื่อก่อนไม่มีอำนาจยังรวยมาได้ด้วยวิธีแบบนี้ แล้วพอมีอำนาจทำไมจะไม่ฉวยโอกาส ตรงนี้สำคัญมากเพราะโกงแล้วรวย คนเราถ้าอาสามาทำอะไร ต้องทำตัวเองให้ดีที่สุดก่อน คนเป็นโจรเคยปล้นมารวย เกิดมีอำนาจขึ้นมาทำไมจะไม่โกงต่อให้รวยยิ่งขึ้น สันดานแก้ไม่ได้แล้วนี่คือสัจธรรม ทุกคนต้องช่วยขจัดสิ่งไม่ดีออกจากบ้านเมืองให้เร็วที่สุด รัฐธรรมนูญฉบับนี้ขาดสัจธรรม กล่าวหาว่านักการเมืองขายตัว ความจริงต้องเห็นใจ ส.ส. ถ้ารู้ว่าหัวหน้าพรรคใช้ไม่ได้ ต้องย้ายไปอยู่พรรคอื่น

จวก ทักษิณ ขี้ตั๊วะ-ผิดซ้ำซาก

จากนั้นนายเสนาะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสความไม่พอใจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทำให้มีกลุ่มแนวร่วมจำนวนมากออกมาชุมนุมขับไล่ว่า สังคมควรส่งเสริมเชิดชูคนทำดี แต่ถ้าเป็นคนบูดเน่า ก็เหมือนอาหารที่กินไม่ได้ เททิ้งก็ยังเป็นพิษเป็นภัย ต้องเอาไปทำลาย ความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้นกับคนทั้งชาติ แม้แต่เด็กๆก็ยังรู้สึก ตนเกิดมา 72 ปี ไม่เคยพบเคยเห็น คนเป็นผู้นำถ้าทำผิดพลาดครั้งเดียวโดยไม่ตั้งใจก็ยังให้อภัยได้ แต่วันนี้ผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำผิดในเรื่องใหญ่ที่เสียหายต่อบ้านเมือง ทั้งหมดเป็นแผนที่ไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย คนยิ่งเป็นใหญ่อยู่บนที่สูง สายตาทุกคู่ย่อมติดตาม พอวันหนึ่งถูกจับได้ว่าเป็นพวกขี้ตั๊วะ คราวนี้จะลงก็ลงยาก จะเดินหน้าก็ไม่ได้ ถอยหลังก็ไม่ได้ อยู่เฉยก็ไม่ได้อีก สรุปว่า ตอนนี้เลยขั้นตอนที่จะพูดในรัฐสภาแล้ว เพราะข้างนอกพูดกันมากกว่านั้นเยอะแล้ว ปอกเปลือกจนเห็นหมดแล้ว นอกจากนี้ ถ้ามีการอภิปรายในรัฐสภาก็จะมีพวกมือปืนรับจ้าง คอยประท้วงแบบไร้ประโยชน์ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะไปคุยกันในสภา

เผย 7 หน่อวังน้ำเย็นโดนแบล็กลิสต์

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะร่วมการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ หรือไม่ นายเสนาะกล่าวว่า ทำไมจะไม่ไปล่ะ แต่ไปแล้วจะรู้เหรอว่าผมไปอยู่ตรงไหน เมื่อถามว่า กลุ่มวังน้ำเย็นกลัวการยุบสภาตามที่นายกรัฐมนตรีขู่หรือไม่ นายเสนาะตอบว่า มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้ากลัวจะกล้าพูดในสภาทำไม ใครที่ถามแบบนี้แสดงว่าไม่เคยติดตามคนชื่อเสนาะ เมื่อถามกรณีพรรคไทยรักไทยขัดขวางไม่ให้นายฉลอง เรี่ยวแรง ส.ส.นนทบุรี กลุ่มวังน้ำเย็น เข้าร่วมประชุมประเมินสถานการณ์การเมือง นายเสนาะกล่าวว่า พรรคไทยรักไทยขึ้นแบล็กลิสต์กลุ่มวังน้ำเย็นไว้ 7 คน ประกอบด้วยตน นายสรวงศ์ เทียนทอง น.ส.ตรีนุช เทียนทอง นายฐานิสร์ เทียนทอง นายประมวล รุจนเสรี นายบุญถึง ผลพานิชย์ และนายนิรันดร์ นาเมืองรักษ์ ซึ่ง ส.ส.กลุ่มวังน้ำเย็นที่ไม่มีชื่อ ก็มาโวยวายว่าทำไมไม่มีชื่อขึ้นในแบล็กลิสต์ ด้วย เพราะอยากมีชื่อติดเหมือนกัน

เครือข่ายผู้หญิงร่วมไล่นายกฯ

ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เครือข่ายผู้หญิงกับรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยแนวร่วมเพื่อความก้าวหน้าของผู้หญิง นำโดยนางทิชา ณ นคร ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ แถลงเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่งก่อนการชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ เพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้บ่งชี้ว่า รัฐบาลเสียงข้างมากบริหารประเทศไม่โปร่งใส มีความบกพร่องทางจริยธรรม และภายใต้ระบอบทักษิณยังก่อให้เกิดทุนนิยมผูกขาด ขายสมบัติชาติ องค์กรอิสระถูกแทรกแซง ละเมิดรัฐธรรมนูญ เครือข่ายผู้หญิงฯ เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณหมดความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศอีกต่อไป จึงขอแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยส่งหนังสือไปยังเครือข่ายผู้หญิงฯ 54 องค์กร และแนวร่วมผู้หญิง 39 องค์กรทั่วประเทศ เห็นตรงกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณต้องลาออก

อาจารย์ มข.ยกทัพไปสนามหลวง

ขณะเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) น.พ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในนามของกลุ่มวิชาการเพื่อสังคม มข. แถลงว่า พฤติกรรมการปฏิบัติของนายกรัฐมนตรี มีผลประโยชน์ทับซ้อนจากนโยบายและใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือมาตลอด ล่าสุด มีการหลบเลี่ยงไม่ยอมเสียภาษีจากการขายหุ้นชินคอร์ป นับเป็นการกระทำที่ไร้จริยธรรม คุณธรรม ในการปฏิบัติต่อสังคมและเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่เหมาะสมในการปฏิบัติตนเป็นคนไม่ดี ใช้นโยบายและกฎหมายเอื้อประโยชน์ให้แก่กลุ่มธุรกิจบางกลุ่ม แสวงหาผลประโยชน์ ทับซ้อน รวมทั้งยังใช้อำนาจยึดกุมองค์กรอิสระ จนไม่สามารถดำเนินการให้เกิดความถูกต้องชอบธรรมได้ การใช้สิทธิลงชื่อ 50,000 ชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการแสดงออกทางประชาธิปไตยทางตรง ทั้งนี้ จะมีสมาชิกบางส่วนไปร่วมชุมนุมที่สนามหลวงในวันที่ 26 ก.พ.นี้ด้วย

จำลอง โต้ข่าวลืออดอาหารประท้วง

วันเดียวกัน ได้มีบุคคลลึกลับส่งโทรสารไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ เป็นเอกสารเปิดผนึกที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ทำถึงประชาชน เพื่อแสดงจุดยืนที่จะอดอาหารประท้วง พล.อ.สุจินดา คราประยูร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่งในช่วงเดือน พ.ค. 2535 โดยระบุว่า ขอยอมตายภายใน 7 วัน ทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า พล.ต.จำลองจะใช้วิธีอดอาหารประท้วงอีกครั้ง

ต่อมาเวลา 18.30 น. พล.ต.จำลองให้สัมภาษณ์ว่า การออกแถลงการณ์ทุกครั้ง จะมีการลงนามในเอกสารกันแบบสดๆ การใช้แถลงการณ์ส่งทางแฟกซ์นั้น ยืนยันว่าไม่มีแน่นอน โดยเฉพาะความคิดที่จะประท้วงด้วยวิธีการอดข้าวก็ไม่เคยมี ขอว่าอย่าไปถือสาพวกคนบ้า

บช.น.ระดมพลพร้อมรับมือชุมนุม

พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แถลงถึงการเตรียมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยในการชุมนุมวันที่ 26 ก.พ.ว่า ได้ปรับแผนการปฏิบัติงานใหม่ โดยสนธิกำลังจาก บก.น.1-9 สายตรวจปฏิบัติการพิเศษ (191) กองร้อยควบคุมฝูงชนและ บก.จร. เพื่อดูแลเส้นทางจราจรเป็นพิเศษ เพราะเป็นที่รวมเส้นทางรถประจำทาง นอกจากนี้ ยังจัดกำลังเสริมจาก บช.ภ.1 ตชด. บช.ก. สันติบาล รพ.ตร. กองบินตำรวจ สำนักงานเทคโนโลยีและสารสนเทศ บช.ภ.2 บช.ภ.7 และ สปก.ตร. คอยประสานกับ บช.น.แล้ว โดย พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. มีคำสั่งห้ามตำรวจ นครบาลลา นอกจากนี้ ขอห้ามผู้ร่วมชุมนุมพกพาอาวุธหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนกลุ่มผู้ที่มีความเห็นต่างจากกลุ่มผู้ชุมนุมก็ขอให้ติดตามข่าวสารอยู่ทางบ้าน

อมธ.ล่าชื่อไล่นายกฯเกิน 4 หมื่นแล้ว

ส่วนความคืบหน้าในการล่ารายชื่อประชาชนเพื่อถอดถอน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นายธนาชัย สุนทรอนันตชัย นายกองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) กล่าวว่า ขณะนี้รวบรวมรายชื่อประชาชนและเพื่อนนักศึกษาทั่วประเทศได้กว่า 40,000 รายชื่อแล้ว ถือเป็นความสำเร็จของ อมธ. ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอย่างมาก และถึงแม้ จะรวบรวมรายชื่อได้ครบ 50,000 คน ภายในสัปดาห์นี้ อมธ.ก็จะเดินหน้าล่ารายชื่อต่อไปจนกว่าจะครบกำหนด 180 วัน ส่วนการชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 26 ก.พ.นี้ อมธ.คงไม่ออกไปร่วมชุมนุม แต่จะเปิดซุ้มให้ประชาชนมาร่วมลงชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี ที่ลานประติมากรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นายวันชัย ทองชาติ ตัวแทนชมรมอาสาพัฒนา นักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (ม.อ.) แถลงว่า กลุ่มนักศึกษา ม.อ. ได้รวบรวมรายชื่อนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยได้จำนวน 2,041 รายชื่อ จะจัดส่งทางไปรษณีย์ไปสมทบกับของ อมธ.

กลุ่มพลังเงียบจุฬาฯต้านความรุนแรง

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ่มพลังเงียบนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประมาณ 20 คน ที่เป็นตัวแทนนิสิตจากคณะต่างๆ อาทิ คณะวิทยาศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ คณะนิเทศศาสตร์ คณะครุศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ได้ยื่นแถลงการณ์ต่อคุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อสนับสนุนการทำวิจัยแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหาโดยสันติวิธีตามระบบรัฐสภา โดย น.ส.ชนัญสรา อรนพ ณ อยุธยา ตัวแทนนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ กล่าวว่า กลุ่มพลังเงียบนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีเครือข่ายเพื่อนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่างๆที่เคลื่อนไหวเรื่องปัญหาวัยรุ่น แต่เห็นว่าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของนิสิตนักศึกษาด้วย ไม่อยากให้ทำกันงุบงิบ และในวันนี้ (23 ก.พ.) ตัวแทนนิสิตนักศึกษาจะยื่นหนังสือให้ทุกฝ่ายแก้ปัญหา โดยสันติวิธีตามระบบรัฐสภา ต่ออธิการบดี ม.รามคำแหง ม.ขอนแก่น ม.เกษตรศาสตร์ และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯพระนครเหนือ

นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ ตัวแทนคณะนิติศาสตร์ กล่าวว่า อยากให้การชุมนุมเป็นไปอย่างสันติ ไม่มีการกินเหล้าหรือพกอาวุธเข้าไป เพราะอาจมีเพื่อนนิสิตนักศึกษาไปร่วมชุมนุมด้วย

ฮิวโก้ จวกรัฐสร้างรอยร้าวคนในชาติ

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่สมาคมนิสิตเก่ารัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เครือข่ายวิชาการคณะรัฐศาสตร์ ได้จัดเสวนาเรื่อง บทวิเคราะห์เชิงวิชาการต่อภาวะวิกฤติผู้นำ : ปัญหาและทางออก โดยนายจุลจักร จักรพงษ์ หรือ ฮิวโก้ นักร้องและนักแสดงวัยรุ่น กล่าวว่า จะโทษ พ.ต.ท.ทักษิณฝ่ายเดียวไม่ได้ คงต้องโทษสังคมไทยที่เอื้อต่อระบบพรรคพวก ญาติพี่น้อง รู้สึกดีใจในช่วงแรกที่ได้นายกรัฐมนตรีมาจากพ่อค้านักธุรกิจ เพราะเป็นพวกอยากรวยก็จะทำให้ประชาชนรวยไปด้วย แต่เริ่มไม่ชอบใจตอนประกาศสงครามกับยาเสพติด มีคนตายไปมาก และเริ่มมีกลิ่นอายของชาตินิยม ซึ่งเป็นอุปกรณ์อันตรายที่รัฐบาล นำมาใช้กับสังคมไทยที่มีคนหลากหลายเชื้อชาติ จึงเป็นห่วงสิ่งที่จะเกิดขึ้น เราต้องจดจำและเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ ไม่อยากเห็นการนองเลือดบนถนนราชดำเนินอีก คนไทยคงรับไม่ไหวแล้ว อยากให้ช่วยกันคิดว่าหากขับไล่ พ.ต.ท. ทักษิณออกไปแล้ว เราจะทำอะไรกันต่อ ต้องเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมไทย ต้องกล้าติชมผู้นำ อย่านิ่งเงียบเมื่อเห็นสิ่งที่ผิดปกติ

ควป.รณรงค์ให้เลิกใช้ของเอไอเอส

นายศุภมิตร ปิติพัฒน์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ที่ประชุมเครือข่ายวิชาการ เพื่อประชาธิปไตย (ควป.) ได้มีมติดังนี้ คือ 1. เมื่อผู้นำ หมดความชอบธรรมย่อมเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน ที่จะเคลื่อนไหวโดยสันติวิธีเพื่อผลักดันให้ผู้นำออกจากตำแหน่ง 2. การแก้รัฐธรรมนูญจำเป็นต้องศึกษาปัญหาอย่างถ่องแท้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญ แต่อยู่ที่ฝ่ายการเมือง ทำให้กลไกตรวจสอบไม่ทำงาน 3. การเปิดประชุม ร่วมรัฐสภาเป็นเพียงลูกไม้ของรัฐบาลที่จะหลีกเลี่ยงตอบปัญหาเรื่องการขาดคุณธรรมจริยธรรม 4. วันที่ 3 มี.ค.นี้ควป.จะรวมพลังนิสิตนักศึกษาทั่วประเทศ แสดงเจตนารมณ์ เพื่อรักษาอธิปไตยและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ด้วยการ เรียกร้องให้ เอาเอไอเอสคืนไป เอาประเทศไทยคืนมา โดยการประท้วงให้เลิกใช้สินค้าและบริการของเอไอเอส

นายไชยยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ควป.มีมติไม่เห็นด้วยกับการที่อธิการบดีมหาวิทยาลัย ต่างๆจะทำวิจัยเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะเป็นปาหี่ทางการเมือง เรื่องนี้นางอมรา พงศาพิชญ์ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้สอบถามอาจารย์รัฐศาสตร์ที่ส่วนใหญ่เป็นเครือข่าย ควป.แล้ว ทุกคนเห็นว่าไม่ขอร่วมทำวิจัย และนางอมรา ซึ่งเป็นผู้นำเครือข่ายก็ไม่ขอร่วมทำวิจัยด้วย

ลือหึ่ง อุ๊งอิ๊ง ลาออกจากจุฬาฯ

วันเดียวกัน ได้มีข่าวลือว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง นิสิตปี 2 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บุตรสาว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลาออกจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามกับคุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ อธิการบดีจุฬาฯ ได้คำตอบว่า ยังไม่ทราบเ