สุเทพชี้กี้ร์ปล่อยข่าวลวงเก่งติดตามตัวยาก เชื่อยังไม่ตาย

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงผู้ที่ถูกข้อกล่าวหา

ที่รัฐบาลควบคุมตัวไว้ได้รวมถึงการจับกุมแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติว่า ยังจับกุมได้ไม่หมดและต้องติดตามจับกุมต่อไป ซึ่งยังมีอีกหลายคน เท่าที่จำได้ มีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ส่วนนายจตุพร พรหมพันธุ์ ที่อาศัยเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครองอยู่ คาดว่าเมื่อสภาปิดสมัยประชุมวิสามัญ จะดำเนินการ ส่วนสมุนบริวารที่ใช้อาวุธเป็นพวกก่อการร้าย ที่จับกุมตามหมายจับมีประมาณ 20-30 คน กำลังการสอบสวน ซึ่งการดำเนินคดีข้อหาก่อการร้าย กรมสอบสวนคดีพิเศษร่วมกับส่วนราชการอื่น ๆ อีก 12-13แห่ง ได้ร่วมมือกันทำคดีเป็นกรณีพิเศษ ส่วนผู้ที่กระทำความผิดตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯเป็นเรื่องของตำรวจดำเนินการไปตามปกติ

เมื่อถามว่า กรณีของนายอริสมันต์สามารถสืบทราบหรือยังว่าอยู่ที่ไหน เพราะมีหลายกระแสบอกว่าเสียชีวิตไปแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า นายอริสมันต์ปล่อยข่าวหลอกเก่ง จึงติดตามตัวยาก ตอนประกาศยุติการชุมนุมก็ปล่อยข่าวว่าถูกจับกุมแล้ว และวันนี้ก็มาปล่อยว่า เสียชีวิตแล้ว ตนคิดว่าคงไม่ใช่

เมื่อถามว่า แสดงว่าทั้ง 2 คนยังมีชีวิตอยู่ใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ แต่เชื่อว่าเป็นข่าวลวง

ส่วนการแยกคุมควบแกนนำที่เข้ามอบตัว ถือเป็นเรื่องปกติของการควบคุมตัว การควบคุมผู้ต้องหาจะไม่ควบคุมในห้องเดียวกัน เพราะจะทำให้การสอบสวนเป็นไปอย่างลำบาก ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรกับกลุ่มที่ติดอาวุธและใช้ก่อเหตุที่อยู่ระหว่าง การหลบหนีจะติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า ถามว่าติดตามอย่างไรคงตอบไม่ได้ แต่เราจะแบ่งงานให้เจ้าหน้าที่ทำงานเป็นชุดๆ ไป ว่ามีครอบครัวอยู่ที่ไหน พื้นเพเป็นคนจังหวัดอะไร ซึ่งยังมีจำนวนอีกมากหลากหลายสิบคน เมื่อถามว่า ที่ระบุว่ามี 20-30 คนที่เข้าข่ายผู้ก่อความไม่สงบ มีพวกสไนเปอร์ที่รัฐบาลบอกว่าเป็นพวกโจรชุดดำมีปะปนอยู่บ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า มีหลายอย่าง พวกที่เป็นมือยิงเอ็ม 79 เอ็ม 16 ยิงเฮลิคอปเตอร์ เราได้ตัวมาก็สอบสวนแต่คงไปยุ่งรายละเอียดการสอบสวนของเขาไม่ได้

เมื่อถามว่า ประเมินหรือว่าจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ที่ จะไม่มีกลุ่มเคลื่อนไหวใต้ดิน ตามที่ ศอฉ. ระบุ

นายสุเทพ กล่าวว่า ศอฉ.ไม่ได้พูดว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใต้ดิน คนที่เริ่มพูดคือบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยและกลุ่มที่ประกาศว่า หลังวันที่ 19 พ.ค.จะลงไปเคลื่อนไหวใต้ดิน หากเหตุการณ์ยังเป็นอยู่อย่างนี้ ซึ่งตนได้ร้องขอไปว่าอย่าทำเลยเพราะไม่เป็นประโยชน์ต่อใครทั้งสิ้น ถ้าคิดจะต่อสู้ทางการเมืองขอให้มาสู้อย่างเปิดเผยตามวิถีทางประชาธิปไตย โดยไม่ควรใช้ความรุนแรง ส่วนรัฐบาลจะพยายามติดตามไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนที่เคยเกิดมาแล้ว 2 ครั้งเหมือนเดือน เม.ย.2552 และจะไม่ยอมให้เกิดเป็นครั้งที่ 3 แต่ ปีนี้หนักกว่า เพราะนอกจากจะเผาบ้านเมืองแล้วยังฆ่าคนอีก