สื่อต่างชาติมอง นายกฯหญิงของไทย เป็นความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

สำนักข่าวต่างประเทศ (Reuters) รายงานว่า หลังเผชิญความเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีมา 6 คน ในรอบ 6 ปี

ที่บางครั้งมีเหตุนองเลือดเพราะความไม่สงบทางการเมือง อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คนไทยจำนวนมาก ไม่แยแสว่าใครจะก้าวขึ้นมาเป็นคนที่ 7 แต่ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ประเทศไทยกำลังจะได้นายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงและเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์


นางยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นักธุรกิจวัย 44 ปี ซึ่งไม่เคยเกี่ยวข้องทางการเมืองเลย ในช่วง 2 เดือนก่อนการเลือกตั้ง

กำลังก้าวขึ้นดำรงตำแหน่งสูงสุดทางการเมือง หลังชัยชนะของพรรคเพื่อไทยที่อยู่ภายใต้การกุมบังเหียนของผู้นำตัวจริง คือ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร พี่ชายของเธอ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีคดี
นางยิ่งลักษณ์ ไม่เคยดำรงตำแหน่งใด ๆ ในทางการเมืองหรือในรัฐบาลมาก่อน ทำให้เธอต้องเร่งพิสูจน์ความสามารถในการบริหารประเทศ แต่คนไทยบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้หญิง ต่างมองว่า นี่คือย่างก้าวสำคัญสำหรับผู้หญิงในประเทศ ที่พวกเธอดิ้นรนเพื่อความเท่าเทียมในการเข้าไปนั่งทำงานในทำเนียบรัฐบาล

ผู้หญิงบางคน ให้ความเห็นว่า รอเวลาที่จะได้เห็นผู้หญิงเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากเห็นความล้มเหลวของผู้ชายหลายคน และอาจถึงเวลาแล้ว ที่จะได้เห็นความแตกต่าง สิ่งที่มีผู้หญิงทำได้และผู้ชายทำไม่ได้ ซึ่งก็คือความปราณีตพิถีพิถัน และเชื่อว่านางยิ่งลักษณ์จะสามารถทำงานนี้ได้ โดยดูจากวัยวุฒิและความสำเร็จในอาชีพของเธอ

นางยิ่งลักษณ์ได้ให้สัญญาว่า จะรื้อฟื้นนโยบายประชานิยมของพี่ชาย และปรับปรุงมาตรฐานการครองชีพของคนยากจนให้ดีขึ้น
 
ด้วยการประกาศจะสร้างความประนีประนอมในชาติ เพื่อยุติวิกฤติการเมืองที่ยาวนานถึง 6 ปี โดยไม่คิดแก้แค้นให้กับพี่ชายที่ถูกโค่นอำนาจโดยการรัฐประหาร เมื่อปี 2549 ส่วนผู้หญิงที่มีตำแหน่งระดับผู้บริหารบางคน มองว่า ไม่คิดว่าเรื่องเพศจะเป็นตัวกำหนด หรือเป็นข้อจำกัดสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าใครทำได้ ทำไม่ได้

แต่ก็มีคนตั้งข้อสงสัยว่า นางยิ่งลักษณ์จะสามารถทำงานได้ด้วยตัวเองหรือไม่ และไม่อาจยอมรับได้ ถ้าการเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก หมายถึงการทำเพื่อผลประโยชน์ของบุคคลเพียงคนเดียว และกำลังสงสัยว่า ผู้นำหญิงคนนี้อาจจะทำงานโดยมีผู้ชายคอยกุมบังเหียนอยู่เบื้องหลัง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์