วิเคราะห์การเมือง ปล่อยเงื่อนไขต่อรอง

อย่างน้อยเลยในอารมณ์ของ "บิ๊กเติ้ง" นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ก็เผลอออกอาการหลงรัก ถึงขั้นเอ่ยปากชมออกอากาศว่า

ยิ้มสวยเหมือนผู้หญิง

อย่านึกว่าเป็นเรื่องล้อเล่นไป สังคมแบบไทยๆ รอยยิ้มคือใบเบิกทาง

กับคิวที่ "บิ๊กบัง" พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบก และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) นำทีมเปิดรายการแถลงผลงานในรอบ 6 เดือน ภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ส่งการบ้าน 4 ข้อ

ตรวจเหตุผลตามที่อ้างในการทำปฏิวัติ

ถ้าไม่ได้รอยยิ้มเก๋ๆ ของ "บิ๊กบัง" ช่วยสร้างบรรยากาศให้อบอุ่น ตุนคะแนนไว้

คมช.อาจได้แต้มน้อยกว่านี้

เพราะเท่าที่สำรวจในสายตาของผู้ชมทางบ้านมีทั้งให้ผ่านเฉียดฉิว บ้างก็ออกอาการผิดหวัง ฟันธงไม่ผ่านมาตรฐาน เสียงไม่เอกฉันท์

เมื่อนักข่าวถามถึงจุดยืนและเจตนารมณ์ที่ชัดเจนของประธาน คมช.ที่จะไม่สืบทอดอำนาจ หรือ ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเฉพาะการเป็นนายกรัฐมนตรี แทนที่จะปฏิเสธเสียงแข็งขันเหมือนกับที่แสดงท่าทีชัดเจนมาก่อนหน้า

คิวนี้ "บิ๊กบัง" หัวเราะหึๆ ตอบเสียงเรียบๆ

"ถามสูงไปหน่อย ผมเป็นคนไทยคนหนึ่ง รักชาติบ้านเมือง คิดว่าอยากจะทำอะไรให้ชาติบ้านเมืองเข้มแข็งก็จะทำ"

ไม่แน่ใจในคำตอบทะแม่งๆ นักข่าวก็ยังถามย้ำเพื่อความแน่ใจว่า ทำไมถึงตอบเช่นนั้น "บิ๊กบัง" ก็ยังตอบเสียงแปร่งๆ

"อ้าวก็อยากให้ตอบอย่างนี้ไม่ใช่หรือ"

นักข่าวเลยถามอีกครั้งเพื่อความชัดเจน ไม่เกรงจะทำให้ประชาชนสับสนหรือ คราวนี้ "บิ๊กบัง" ตอบพร้อมชูกำปั้น

"มั่นใจ"

ไม่รู้ลึกๆคิดอะไร สับสน หยั่งเชิง วัดกระแส หรือต้องการจะสื่อความหมายแบบไหน

แต่ที่แน่ๆ พูดแบบนี้ก็เป็นเรื่อง

เบียดสาระหลักของประเด็นข่าวแถลงผลงาน คมช.จืดไปเลย โดยอารมณ์หนังสือพิมพ์ฉบับเช้าวันที่ 21 มีนาคม บางฉบับพาดหัวในโทน

"บิ๊กบัง" แทงกั๊กอนาคตการเมือง

ประธานคมช.เสียงแปร่งเรื่องสืบทอดอำนาจ

แนวต้านหูผึ่ง

และก่อนที่อะไรๆจะลุกลามบานปลาย "บิ๊กบัง" ต้องรีบเคลียร์ในวันถัดมา

ยืนยันจะไม่มีการสืบทอดอำนาจ โดยเฉพาะตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะขีดความสามารถและปัจจัยต่างๆไม่เกื้อหนุน มีความเป็นไปได้ยาก

พูดแบบนี้ซะตั้งแต่แรกก็จะไม่มีปัญหา

แต่ระดับนี้ น่าจะอ่านเกมล่วงหน้าอยู่แล้วว่า ผลลัพธ์จะออกมารูปไหน

คิวนี้ถ้าเป็นความตั้งใจ ก็น่าจะเป็นลีลาโยนหินหยั่งกระแส หรือลึกไปกว่านั้นก็คือกลยุทธ์สร้างกระแสตื่นกลัว กระตุ้นให้ประชาชนออกมารับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

เพราะมันก็เข้าเค้ากับข้อมูลที่มีการต่อสายกันในหมู่นักเลือกตั้งอาชีพ มีสัญญาณให้เตรียมตัวเลือกตั้งภายในไม่เกินสิ้นปีนี้

คมช.อยากลงหลังเสือเต็มแก่

แต่บังเอิญมันมีงานช้างรออยู่ นั่นคือ ผลักดันรัฐธรรมนูญให้ผ่านการทำประชามติในท่ามกลางกระแสไม่พอใจผลงานรัฐบาล ประเมินประสิทธิภาพ คมช.ไม่เข้าเป้า

โดยเฉพาะประเด็นที่ต้องโผล่มาแน่ๆ กับรายการจุดพลุโหมกระแส

ถ้าเอา "ทักษิณ" ต้องไม่เอารัฐธรรมนูญ คมช.

ถ้ารับรัฐธรรมนูญใหม่ก็ยอมรับ คมช. ไม่เอา "ทักษิณ"

"เลือกตั้งเร็ว" จึงเป็นข้อต่อรองเดียวที่ คมช.สู้ได้.

จาก หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ