มาร์คจี้ปูปลดมท.1ปลุกแยกปท.

มาร์คจี้ปูปลดมท.1ปลุกแยกปท.

'อภิสิทธิ์' จี้ 'ยิ่งลักษณ์' ปลด 'จารุพงศ์' หลังปลุกกระแสแยกประเทศ รับ 'สุเทพ' ปิดถนนทำภาคธุรกิจได้รับผลกระทบ แต่รับได้เพราะอยากเห็นปท.มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

3 มี.ค. 57  นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์รายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ว่า
 
การเลือกตั้งทดแทนในพื้นที่ 5 จังหวัด ที่ผ่านมา มีคนไปใช้สิทธิ์น้อยมาก คือประมาณร้อยละ 10 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนไม่ได้คิดว่าขณะนี้กระบวนการการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. และการเลือกตั้งทดแทน จะเป็นการแก้ปัญหาหรือเป็นทางออกให้กับประเทศ 

เมื่อถามว่า วิเคราะห์อย่างไร สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยตอนนี้ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
 
สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นต่อไปคือการปฏิรูป จำเป็นจะต้องมาทบทวนดูประเด็นเหล่านี้ ที่สำคัญคือ การทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนที่ถูกปลุกปั่น ให้เข้าใจประชาธิปไตยในความหมายซึ่งไม่ครอบคลุม เพราะฉะนั้นตัวอย่างชัดเจนก็คือ รายงานเหล่านี้กลับบอกว่ากลไกที่มีความอิสระที่คอยมาตรวจสอบ ต้องเข้มแข็งขึ้น แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับพรรคพวก กำลังจะบอกว่าศาลไม่มาจากการเลือกตั้ง องค์กรอิสระไม่มาจากการเลือกตั้ง มาตรวจสอบคนมาจากการเลือกตั้งได้อย่างไร ซึ่งสวนทางกับหลักคิดในเรื่องประชาธิปไตยสมัยใหม่โดยสิ้นเชิง

เมื่อถามถึงแนวคิดเรื่องการแบ่งแยกประเทศ และมีการพูดถึง สปป.ล้านนา นั้น

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกลยุทธ์ การข่มขู่ การปลุกปั่น การปลุกระดม ซึ่งเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่เห็นชัดเจนถึงความไม่เป็นประชาธิปไตยของคนเหล่านี้ คิดว่าเราต้องระมัดระวัง เพราะคำพูดแบบนี้เป็นการระดมปลุกปั่นและเป็นภัยต่อความมั่นคง แต่ทางทหาร โดย พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพภาคที่ 3 ก็เริ่มให้มาเจ้าหน้าที่เข้าจัดการ แต่เราก็ต้องระมัดระวัง ถ้าเราปล่อยให้คนเหล่านี้ ไปสร้างความเข้าใจ ไปปลุกปั่น ไปใส่แนวความคิดนี้ ก็ไม่ควรมองว่าเป็นเรื่องเล่นๆ 

ส่วนที่มีคนวิจารณ์คำพูดของนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ อดีตรองประธานสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
 
ตนมองว่านายวิสุทธิ์ พยายามวิเคราะห์ และการวิเคราะห์ของนายวิสุทธิ์ ก็ไม่ควรมองข้าม คือถ้าหากว่าไปเกิดการปลุกปั่นให้คนเข้าใจว่า ประเทศไม่ให้ความยุติธรรม หรือคนในประเทศไปดูถูกดูแคลนคนของเขากันเองนี้ เขาก็จะเกิดความรู้สึกคับแค้นใจ และปฏิกิริยาตอบโต้หนึ่งก็คือการแบ่งแยก อันนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นข้อเท็จจริงในเชิงการวิเคราะห์ ในเชิงผลกระทบทางจิตวิทยา และผลกระทบทางสังคมที่เกิดขึ้นได้
"ผมก็เห็นด้วยกับคนส่วนใหญ่ที่บอกว่าประชาชนคนไทยจะเรียกว่า เกือบทั้งหมด ไม่มีใครคิดแบ่งแยกหรอก แต่เราไม่ควรประมาท และผมคิดว่าสิ่งที่แย่ก็คือ คนที่ไปปลุกปั่น ไปปลุกปั่นสร้างวาทกรรมให้เกิดความรู้สึกความแตกแยกระหว่างคนกรุงเทพฯ กับคนอีสาน คนเหนือ หรือคนใต้กับคนอีสาน คนเหนือ มันไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มีทั้งแผนและการกระทำ เพียงแต่เราอย่าไปมองว่า คนไม่กี่คน ที่มีความคิดแบบนี้ มันไปไม่ได้นั้น เราต้องดูด้วยว่า เขาไม่สามารถที่จะไปปลุกปั่น ปลุกระดม จนกระทั่งคนเกิดความไขว้เขว แล้วก็เกิดความรู้สึกต่อต้านขึ้นมา ไม่เช่นนั้นจะลุกลามต่อไป"

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า การที่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ออกมาพูดถึงการแบ่งแยกพื้นที่ และพยายามพูดปิดตัวเองว่า ที่พูดนี้ไม่ใช่เป็นการยุยงส่งเสริมนั้น มันแยกไม่ได้ หากอยากแยกได้ นายจารุพงศ์ ก็ต้องลาออก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปลดนายจารุพงศ์ เลย ถ้าคุณยิ่งลักษณ์ บอกว่าที่นายจารุพงษ์ ทำไม่เหมาะสม คือ ถ้าบอกว่าเหมาะสม ตนก็จะกล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าร่วมด้วยกับกระบวนการนี้ ส่วนถึงขั้นร่วมเป็นกบฏด้วยหรือไม่นั้น ในการดำเนินคดีก็ว่ากันไป และตนก็ไม่แน่ใจ รู้สึกว่านายจารุพงศ์ หารือกับ ป.ป.ช.ที่เป็นปัญหากันอยู่นี้ด้วย

ส่วนกรณีที่ กปปส. ยุบรวมเวทีไปที่สวนลุมฯ นั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า
 
นายสุเทพ ก็คงมีความรู้สึกว่า การปิดถนนแยกต่างๆ ซึ่งหลังจากกดดันรัฐบาล แล้วก็ย่อมมีผลกระทบต่อชาวกรุงเทพฯ ก็น่าจะถึงเวลาที่ไม่ให้ประชาชนชาวกรุงเทพฯ ต้องเดือดร้อน เพราะว่าดูแล้ว ที่นายสุเทพ บอก รัฐบาลก็ดูเหมือนจะใช้วิธีไปโน้นเลย ไปอยู่ที่อื่น แล้วก็มาเรื่องแบ่งแยก เพราะฉะนั้นก็หยุดปฏิบัติการตรงนี้ไป ช่วงที่มีการเรียกว่า Shut Down เวลาตนไปพบกับคนก็ถามว่ามันเป็นอย่างไร หลายคนเขาก็บอกมีผลกระทบ แต่เขาก็บอกว่า อยากจะเห็นมันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจริงๆ แล้วถ้าเกิดมันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นจริงๆ เขาบอก เขารับได้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์