บิ๊กตู่ ลั่นทหารจำเป็นต้องออก หากรุนแรงจนแก้ไม่ได้

บิ๊กตู่ ลั่นทหารจำเป็นต้องออก หากรุนแรงจนแก้ไม่ได้

ผบ.ทบ.ชี้รัฐบาลมีอำนาจออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห่วงประเทศแตกแยก ระบุทหารจำเป็นต้องออก หากสถานการณ์แรงจนแก้ไม่ได้ ฉุนพวกใช้ความรุนแรงนอก ก.ม. ลั่นรู้ตัวพวกไหน

เมื่อวันที่ 22 ม.ค. ที่กองการบินกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)

ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่กทม. และปริมณฑลว่า ตนคงไม่กล่าวพูดว่าจำเป็นหรือไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ได้มีการประกาศใช้กฎหมายดังกล่าวไปแล้ว ซึ่งเป็นข้อสรุปในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)และอำนาจในการประกาศเป็นของฝ่ายบริหาร ไม่ใช่กฎหมายของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) โดยมีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เป็นผอ.ศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้วผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นผู้รับผิดชอบในส่วนของการใช้กำลัง
 
ส่วนทหาร40 กองร้อย ช่วยดูแลทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินไม่ใช่ดูแลฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือใครเป็นพิเศษ แต่ไปในฐานะที่ต้องดูแลทรัพย์สินส่วนกลางสถานที่ราชการ และสถานที่สำคัญต่างๆ รวมทั้งดูแล 3 ส่วน คือประชาชนทั่วไปผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้เกิดความปลอดภัย ดังนั้นภารกิจทหารค่อนข้างหนักเพราะต้องดูแลทั้ง 3 ส่วนในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งมากในปัจจุบัน

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเคยได้เสนอข้อพิจารณาและข้อห่วงใยไปแล้วและคิดว่าผู้ปฏิบัติก็คงต้องระมัดระวังการบังคับใช้กฎหมาย

เพราะมีระดับของกฎหมายที่สูงขึ้น สิ่งที่เป็นห่วงคือเมื่อประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯไปแล้วก็ต้องดูว่าเมื่อประกาศใช้แล้วสถานการณ์ลดความรุนแรงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ปลอดภัยหรือไม่ซึ่งผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามดูต่อไป ถ้าพูดในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้วตนคิดว่าไม่น่าพูด ต้องมาดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น จะดีขึ้นหรือเลวลง แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าวัตถุประสงค์หลักของเจ้าหน้าที่คือจะทำอย่างไรให้ประชาชนทุกส่วนเกิดความปลอดภัยรวมถึงผู้ชุมนุม เพราะบอกแล้วว่าต้องดูทุกส่วน เราไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร

ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า วันนี้ที่น่าเป็นห่วงคือความแตกแยกของคนในสังคมและคนในครอบครัวที่มีมากขึ้นในฐานะที่เป็นทหารของชาติ

และประชาชนมีความเป็นห่วงว่าจะอยู่อย่างไรต่อไป ถ้าไม่ลดความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นสังคมครอบครัว หรือในทุกหมู่เหล่า ดังนั้นต้องมีคนออกมาเตือนให้ทุกส่วนลดระดับความรุนแรงและความเกลียดชังลง ตนเป็นห่วงว่าไม่ว่าสถานการณ์จะจบอย่างไรก็ตาม แล้วเราจะอยู่กันอย่างไรถ้าคนในครอบครัวยังขัดแย้งกัน และคนในสังคมยังขัดแย้งกัน ถึงจะบังคับใช้กฎหมายอย่างไรก็ตาม ก็เป็นอันตรายทั้งสิ้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ตนได้กำชับกำลังพลที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่เสมอถ้าไปทำหน้าที่ในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม

เราก็จะไม่ได้รับความเกลียดชังและไม่เกิดปัญหาในอนาคต ทหารมีบทเรียนมากมาย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเราก็ต้องใช้บทเรียนเหล่านั้นมาดำเนินการ อย่าไปมองในแง่ว่าทหารกลัว หรืออยู่ข้างไหนเพราะเป็นเรื่องของการกำหนดบทบาทตัวเองให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ออกไปปฏิบัติหน้าที่ก็ทำงานแบบไม่สบายใจและไม่สะดวกถ้าทุกคนเห็นต่างกันแล้วออกไปทำงาน ตนคิดว่าอันตรายเพราะเป็นผู้ที่ต้องไปสัมผัสกับประชาชนและต้องไปอยู่ในสถานการณ์ที่มีความขัดแย้งกองทัพบกในฐานะที่เป็นส่วนสนับสนุนจะกำชับกำลังพลทุกส่วนที่ไปทำงานว่าจะต้องทำงานอย่างไรให้มีความชัดเจนมากขึ้นคิดว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทหารว่าเราไปเพราะความห่วงใย ไม่ใช่ไปเพราะคำสั่งหรือกฎหมาย กำลังพลทุกคนพกพาจิตใจที่งดงามออกไปด้วย และตนได้ให้นโยบายไปแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ประชาชนเจ้าหน้าที่ และสถานที่ปลอดภัย ไม่เกิดปัญหาความเสียหาย และอย่าไปสร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น

ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า ในการชุมนุมต้องมีการทำผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่คงต้องไปลดระดับในหลายส่วนให้ได้ไปตรวจค้นจับกุม
 
แต่ทหารไม่ได้มีกฎหมายในส่วนนี้จึงต้องให้ตำรวจดำเนินการเมื่อไรก็ตามที่มีข้อขัดแย้งและเหตุการณ์เกิดขึ้น ขอความร่วมมือให้ตำรวจได้เข้าไปทำงานตรวจสอบหลักฐานเพื่อให้ได้ความชัดเจนมิเช่นนั้นจะถูกสงสัย พาดพิง หรือนำไปสู่การกล่าวให้ร้ายกันในโซเชียลมีเดีย

 “ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงผมไม่ไปก้าวล่วงอำนาจของใคร หรือให้ร้ายใคร แต่สิ่งที่เป็นความขัดแย้งในปัจจุบันน่าจะมีทางออกไม่ใช่ว่าจะต้องฆ่าฟันกัน ทำร้ายกัน เพราะอย่าลืมว่าทุกคนคือคนไทยด้วยกัน ถ้าคนไทยฆ่ากันเองแล้วเราจะเรียกว่าคนไทยได้อย่างไรทั้งหมดคือคนไทย เราต้องหยุดความขัดแย้งให้ได้เพื่อนำพาประเทศก้าวไปข้างหน้า เราจะเห็นต่างอย่างไรก็ตามต้องหาทางออกกันให้เจอถ้ายังคงต้องไล่ล่าฆ่าฟัน บังคับใช้กฎหมายต่อกัน คงไม่ได้ ต้องนำความขัดแย้งมาพูดคุยกันได้ผมสนับสนุนเรื่องการพูดคุย เมื่อไม่มีใครยอมต้องหาทางกันให้เจอ ซึ่งผมไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนเพราะผมไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นความขัดแย้งและสร้างปัญหาแต่ทหารจะทำหน้าที่ของทหารให้ดีที่สุดเมื่อไรก็ตามที่ความขัดแย้งรุนแรงถึงขนาดที่แก้ไขอะไรไม่ได้ ทหารก็จำเป็นจะต้องแก้ไข เราจะดูแลประเทศชาติให้ดีที่สุดตามวิธีการที่ถูกต้อง คิดว่าพวกเราทุกคนคงไม่ก้าวไปสู่ความรุนแรงที่แก้ไขไม่ได้เพราะจะทำให้สถานการณ์เลวลงไปเรื่อยๆ ขอเตือนทุกภาคส่วนว่า อย่าให้เกิดขึ้น”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า กลุ่มคนที่ใช้อาวุธ ความรุนแรงและใช้ระเบิดนั้น คนเหล่านี้ไม่น่าจะใช่คนที่เกิดมาบนแผ่นดินนี้ตนไม่รู้ว่าคนเหล่านี้หัวใจทำด้วยอะไร

ฆ่าคนไทยด้วยกันสร้างความรุนแรงเพื่อหวังผลอะไรสักอย่าง ซึ่งคงไม่เกิดอย่างที่เขาต้องการได้ แต่ทำให้การแก้ไขปัญหายากขึ้นไปทุกวันสังคมต้องช่วยกันนำคนเหล่านี้ออกมาลงโทษให้ได้ มีหลายกลุ่มที่ชอบออกมาเคลื่อนไหว กดดันเจ้าหน้าที่เป็นกลุ่มเล็กๆ ส่วนกลุ่ม กปปส.ที่ออกมาก็ผิด ทำในความเชื่อที่มีเหตุผลของเขาแต่อีกกลุ่มที่ใช้ความรุนแรงนอกกฎหมาย ที่ตนประนามคนเหล่านี้อยู่ และตนพอรู้อยู่บ้างว่าเป็นคนกลุ่มไหน ขอเตือนอีกครั้งว่าอย่าทำอีก เรากำลังติดตามหาหลักฐาน หาข้อมูลเพื่อให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งจะมีหลายกลุ่มด้วยกันที่พูดจารุนแรงตามสถานีวิทยุต่างๆที่ออกมาข่มขู่เจ้าหน้าที่รัฐ เอาพวกออกมาหวังต้องการให้กระทบกระทั่งกับประชาชนถือว่าเป็นกระทำนอกกฎหมายซึ่งเป็นเรื่องของรัฐที่ต้องดำเนินการ

ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า จะเห็นว่าทหารพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ใช้ความรุนแรงพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
 
ประเทศไทยจะรบกันทั้งประเทศเลยหรือเมื่อถึงเวลานั้นใครจะแก้ปัญหาก็ไปคิดเอา ถ้าประชาชนไม่ใช่คนแก้ก็ไม่รู้ว่าใครจะแก้เราต้องหาทางออกกันให้ได้ท่ามกลางความขัดแย้ง และอย่าให้ใครเข้ามาจัดระเบียบในประเทศเราถ้าคนอื่นมาจัดการประเทศมีแต่จะเสียหาย เพราะไม่ใช่บ้านเมืองของเขา อย่าไปคิดว่าจะต้องหาคนมายุติเหตุการณ์ในประเทศเราโดยคนอื่นปัญหาเกิดขึ้นจากคนไทยก็ต้องแก้ด้วยคนไทยให้ได้.  


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์