นายกฯ-สุเทพขอรอดูสถานการณ์ ก่อนประกาศเลิกใช้ พ.ร.บ.มั่นคง มาร์คยอมรับไม่ไปเชียงใหม่แล้ว

"นายกฯ-สุเทพ"ขอรอดูสถานการณ์ ก่อนประกาศเลิกใช้ พ.ร.บ.มั่นคง "มาร์ค"ยอมรับไม่ไปเชียงใหม่แล้ว

"มาร์ค"ยอมถอยยกเลิกไปเชียงใหม่ อ้างหอการค้ามีมติให้ระงับเดินทางไปร่วมประชุม หวั่นจุดชนวนความขัดแย้ง แต่ยืนยันจะหาโอกาสใหม่ไปเยี่ยมชาวบ้านให้ได้ ด้าน"หอการค้าไทย"มีมติระงับนายกฯร่วมงานสัมมนา อ้างหวั่นปะทะเสื้อแดง-ปัญหาบานปลาย ลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งและความวุ่นวาย

นายกฯ ขอรอดูสถานการณ์อีกระยะก่อนพิจารณายกเลิก พ.ร.บ.มั่นคงฯ

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงกรณีที่ค้นพบระเบิดปิงปอง 6,000 ลูก ในบ้านของแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงที่ จ.เชียงใหม่ ว่า ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปตามข้อเท็จจริง แต่ได้ตั้งข้อสังเกตว่ามีคนบางกลุ่มพยายามใช้วิธีการรุนแรง ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ ส่วนการพิจารณายกเลิกการใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ คงต้องดูสถานการณ์อีกระยะ จึงจะพิจารณาทบทวนว่าจะยกเลิกหรือไม่


"สุเทพ"ขอประเมิน2วัน ก่อนชงครม.พิจารณาเลิกประกาศใช้พ.ร.บ.มั่นคง 


นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ตัดสินใจยกเลิกการเดินทางไปจังหวัดเชียงใหม่ แล้วอาจมีการพิจารณายกเลิกประกาศใช้ พ.ร.บความมั่นคงกรุงเทพว่า ตนคิดอยู่ แต่การยกเลิกประกาศพื้นที่ความมั่น ต้องรอประเมินสถานการณ์ในช่วง 1-2 วัน ก่อนแล้วค่อยเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม.วันที่ 1 ธันวาคม ถ้าครม.พิจารณาแล้วเห็นว่า สถานการณ์ไม่มีความจำเป็น เราก็ยกเลิกการประกาศพื้นที่อันกระทบความมั่นคงต่อไป ซึ่งมีความเป็นไปที่จะประกาศยกเลิก


เมื่อถามว่า จะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายลดน้อยลงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า กฎหมายศักดิ์สิทธิเหมือนเดิม เพียงแต่ไม่มีสถานการณ์ที่เป็นปัญหาเรา ก็ไม่ต้องใช้ กฎหมายมีไว้ เพื่อใช้เป็นเครื่องมือป้องกันเหตุการณ์และปกป้องผู้บริสุทธิ์ ไม่ให้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากการ ชุมนุม ที่ไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย


เมื่อถามว่า หากภายหลังวันที่ 5 ธันวาคม กลุ่มคนเสื้อแดงกลับมาชุมนุมอีกครั้ง รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า จะเรียกประชุม ครม. เพื่อพิจารณาสถานการณ์อีกครั้ง เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป เราต้องติดตามอยู่แล้ว แม้จะมองว่าเป็นการเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกันอยู่อย่างนี้ ก็จะทำอย่างไรได้ รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลความสงบเรียบร้อยไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง เพื่อให้กระบวนการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนดำเนินการไปได้อย่างราบ รื่น ดังนั้นถ้าเห็นว่าจะมีเหตุทำให้เสียหายจะต้องแก้ไข 
 

"มาร์ค"อ้าง"มติหอการค้า"ขอยกเลิก ยันพร้อมไปอีก ถ้ารัฐบาลเป้นเจ้าภาพจัดงาน


เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 26 พฤศจิกายน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่อาคารรัฐสภา หลังจากหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ แถลงมติขอยกเลิกกำหนดการ นายกรัฐมนตรีร่วมประชุมกับหอการค้าทั่วประเทศในวันที่ 29 พ.ย.ว่า ตนยืนยันตลอดว่า ถ้าทางหอการค้าต้องการให้ตนไปตนก็พร้อมที่จะไป และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและฝ่ายความมั่นคง รักษาความปลอดภัย จะต้องดูแล ไม่ว่าจะยากแค่ไหนอย่างไร ล่าสุดที่ทราบหอการค้าได้แถลงข่าวว่าในการเดินทางไปของตน อาจจะเกิดเหตุการณ์ซึ่งจะเป็นผลกระทบต่อบรรยากาศของเศรษฐกิจ บรรยากาศของเชียงใหม่ ขณะที่ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี ดังนั้น ตามวัตถุประสงค์เดิมที่หอการค้าที่จะนำข้อเสนอในที่ประชุมให้ตนประธานก็เปลี่ยนที่จะนำเสนอข้อมูลมาที่ตนภายหลังที่กทม. ก็สุดแล้วแต่ทางหอการค้า


"ความจริงแล้วผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่าถ้าผมไปตัวผมปลอดภัย แต่คิดว่า มันมีความเสี่ยงในเรื่องความเดือดร้อนกับผู้ชุมนุมเอง เจ้าหน้าที่ หรือผู้เข้าร่วมประชุม เพราะเท่าที่ผมทราบในตอนหลังถ้าผมไปจะมีการปรับในเรื่องสถานที่ การเดินทางของผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งจะมีความเสี่ยง เพราะทราบว่า มีความเคลื่อนไหวอยู่ ผู้ชุมนุมก็แสดงออกชัดเจนว่า ต้องการให้เกิดปัญหา ดังนั้นเมื่อเป็นเช่นนี้ผมก็จำเป็นต้องทำตามที่หอการค้าต้องการ และผมจะหาโอกาสอื่นที่จะไปเยี่ยมชาวเชียงใหม่ ซึ่งตั้งใจจะไปเพื่อเยี่ยมเยียน ผมไม่มีความคิดที่จะไปท้าทายหรือยั่วยุ แต่ผมพร้อมจะทำหน้าที่คิดว่าคงจะเป็นโอกาสอื่น โดยรัฐบาลจะเป็นผู้จัดกิจกรรมเอง ก็จะง่ายเข้า บังเอิญครั้งนี้หอการค้าเตรียมงานมาเป็นปี และไม่ได้วางแผนรองรับสถานการณ์ในลักษณะปัจจุบัน จึงไม่คล่องตัวในแง่การบริหารจัดการ"นายอภิสิทธิ์ กล่าว


เมื่อถามว่าจากนี้ไป จะเป็นข้อจำกัดในการลงพื้นที่อื่นๆหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่คิดว่าเป็นเช่นนั้น เพราะเรื่องนี้ต้องชัดเจนว่า เราจะไม่ให้ใครมาข่มขู่ แล้วทำให้เราไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อย่างไรก็ตาม เวลาที่ตนจะเดินทางไปก็จะเป็นกิจกรรมที่รัฐบาลจัดขึ้นเองซึ่งจะเดินหน้าต่อไป" เมื่อถามว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่า จะมีการจัดกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปอย่างแน่นอน

ผบช.5ยังเตรียมกำลังรับมือม็อบ


ด้านพล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่องที่นายกฯตัดสินใจไม่เดินทางไป จ.เชียงใหม่ แต่ในแง่ของการรักษาความปลอดภัยยังคงเตรียมกำลังพร้อมเต็มที่ด้วยการตั้งศูนย์อำนวยการปฏิบัติงานที่ภาค 5 เช่นเดิม เพราะยังมีรัฐมนตรีท่านอื่นมาร่วมงานเช่นเดิม 
 

ก่อนหน้านั้น พล.ต.ท.สมคิดกล่าวภายหลังประชุมร่วมกับ พล.ท.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน แม่ทัพภาคที่ 3 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์เตรียมการรองรับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า เราจะสนธิกำลังทหารและตำรวจ 35 กองร้อย กว่า 5,000 คน พร้อมปฏิบัติภารกิจเต็มตัว ซึ่งวันที่ 27 พฤศจิกายน กำลังทั้งหมดจะฝึกซ้อมการควบคุมฝูงชนและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่แบบเต็มรูปแบบ
 

พล.ท.ทนงศักดิ์กล่าวว่า ประชุมประสานแผนกับตำรวจแล้ว จากการประเมินสถานการณ์คิดว่าไม่น่ามีอะไรรุนแรง คาดว่าน่าจะมีประชาชนมาร่วมชุมนุมไม่ต่ำกว่า 3,000 คน
 

นายไพโรจน์ แสงภู่วงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เมื่อนายกฯงดการเดินทางไปจ.เชียงใหม่ การรักษาความปลอดภัยในระดับเข้มข้นก็จะลดระดับลง คงเหลือแผนการรักษาความปลอดภัยผู้เดินทางมาร่วมประชุมตามเดิม เพราะยังไม่วางใจกลุ่มมวลชนที่เคลื่อนไหว  


"หอการค้าไทย" มีมติระงับนายกฯร่วมงาน ที่เชียงใหม่


นายดุสิต นนทะนาคร ประธานหอการค้าไทย เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการหอการค้าไทย จะทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้ระงับการเดินทางมาร่วมงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศครั้งที่ 27 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้  เพื่อลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งและความวุ่นวาย  รวมถึงคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวนายกฯและผู้เข้าร่วมสัมมนา และการรักษาความปลอดภัยยังต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น


อย่างไรก็ตาม การประชุมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ จะยังเป็นกำหนดการเดิมคือประชุมระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. ซึ่งจะมีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 2,000-3,000 คน ส่วนข้อเสนอที่ได้จากการประชุมครั้งนี้จะสรุปให้นายกรัฐมนตรีรับทราบในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเร้นท์ เพราะตามปกตินายกฯแค่มาเข้าร่วมรับฟังผลสรุปจากการประชุมเท่านั้น


"จุดยืนของหอการค้าไทยคือ ไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกในชาติ เพราะประเทศจะก้าวหน้าได้ต้องใช้ความปรองดอง เพราะเป้าหมายการจัดงานครั้งนี้ นอกจากเป็นการประชุมประจำปี ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งการเลือกเชียงใหม่เป็นสถานที่จัดประชุม ได้มีการคัดเลือกเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ไม่ได้เพิ่งเลือก" นายดุสิตกล่าว


นายดุสิต กล่าวว่า หากปล่อยให้สถานการณ์ไม่มีความชัดเจนต่อไป เป็นห่วงว่าหัวข้อการประชุมที่กำหนดขึ้น เช่น การกำหนดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมของประเทศไทย การเตรียมความพร้อมการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ก็จะถูกละเลย ทั้งที่เป็นหัวข้อมีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ  


นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า มีความเป็นห่วงว่าการส่งออกที่กำลังฟื้นตัวในไตรมาส 4 อาจชะลอออกไป เนื่องจากเวียดนามได้ปรับลดค่าเงินดองลงถึง 5% ซึ่งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการส่งออกให้กับสินค้าเวียดนาม โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งเวียดนามใช้จังหวะที่เหมาะสมในการประกาศนโยบายนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว ความต้องการสินค้ามีเพิ่มขึ้น หากราคาสินค้าของเวียดนามลดต่ำลง เชื่อว่าคำสั่งซื้อจะไปอยู่ที่เวียดนามมากขึ้น จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลค่าเงินบาทให้มากขึ้น และไม่ให้แตกต่างจากประเทศคู่แข่งมากจนเกินไป


“ในฐานะเอกชนผู้ส่งออก เชื่อว่ากระทบมาก แต่ก็ไม่ได้บอกว่าเราต้องประกาศลดค่าเงินบาทเหมือนเวียดนาม แต่ขอให้ดูแลอย่าให้แตกต่างกันมาก” นายพงษ์ศักดิ์


---------------------------------


เอกสารประกอบการแถลงข่าวมีรายละเอียดดังนี้


เรื่องการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27


นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ตามที่ หอการค้าไทย ได้จัดให้มีการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 27 ขึ้น ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2552 โดยได้เรียนเชิญ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เข้ารับฟังสรุปผลการสัมมนาในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2552 นั้น


การสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ถือเป็นกิจกรรมประจำปีที่ได้ทำอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลา 27 ปี แล้ว โดยจะมีการลงคะแนนเสียงคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพล่วงหน้าเป็นเวลา 2 ปี เพื่อให้เจ้าภาพมีเวลาเตรียมงานด้านต่าง ๆ และการจัดสัมมนาฯ ที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อปี 2550


การจัดสัมมนาฯ มีเป้าหมายเพื่อระดมสมองในการวางยุทธศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และการจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ ก็เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และการใช้จ่าย เพื่อประโยชน์ของคนเชียงใหม่ และการที่หอการค้าทั้ง 75 จังหวัดทั่วประเทศ มาประชุมที่เชียงใหม่ในครั้งนี้ เป็นการแสดงถึงการพร้อมใจที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น


หอการค้าไทย ขอยืนยันที่จะมีการจัดสัมมนาตามกำหนดการเดิมระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2552 และเพื่อป้องกันความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลกระทบต่อความสงบสุข ตลอดจนวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพของประชาชนพลเมืองชาวเชียงใหม่ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมโดยรวม


คณะกรรมการหอการค้าไทย และคณะกรรมการจัดงานหอการค้าทั่วประเทศ เป็นห่วงในความปลอดภัยของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี รวมทั้ง ผู้เข้าร่วมสัมมนาทุกคน จึงความเห็นพ้องต้องกันว่า ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ไม่จำเป็นจะต้องเดินทางมารับฟังสรุปผลการสัมมนาฯ ในครั้งนี้ โดยหอการค้าไทย จะมีหนังสือ เรียน ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี เป็นการด่วน และจะได้นัดหมาย เพื่อนำสรุปผลการสัมมนาฯ เสนอนายกรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์