ทหารบีบสมชายทนได้


6 พรรค.ยื้อโยน กก.อิสระชี้อนาคต จบ สสร.3 คืนอำนาจยันไม่ปลด'อนุพงษ์'8 พปช.ชน'บิ๊กทหาร'พธม.ยุ ขรก.แข็งข้อ!
           
"สมชาย"ใจดีสู้ทหาร ไม่คิดปลด ผบ.ทบ.หลังเหล่าทัพปฏิวัติผ่านหน้าจอทีวี ขออยู่ทำงานต่อไป ประกาศสาน 3 งานใหญ่ให้สำเร็จ ขอร้องคนไทยพักยกหันหน้าร่วมมือกัน ลั่นพร้อมรับผลสอบเหตุการณ์สลายม็อบหน้าสภา ยันผลักดัน ส.ส.ร.3 สำเร็จพร้อมคืนอำนาจให้ประชาชน “เสธ.หนั่น” ระบุทหารแค่แสดงความคิดเห็น บังคับรัฐบาลไม่ได้ แนะนายกฯ คุยทหารรอผลสอบใน 15 วัน ส่วน ชท. ลุ้นคำตอบก่อนตัดสินใจ “บิ๊กเหวียง” เชื่อทหารไม่ทำรัฐประหาร ส.ส. พปช.ดาหน้ากระตุกหนวดเหล่าทัพ กดดันให้ทหารทำตามรัฐธรรมนูญ “การุณ” ปากดีจี้นายกฯ สั่งปลด ผบ.ทบ. กุนซือแนะ นายกฯ ห้ามถอยเด็ดขาด “กลุ่มเพื่อน  เนวิน” ยังอุ้ม “สมชาย” ต่อ “อภิสิทธิ์” แนะยุบสภาเป็นทางออก ปชป. ตระเวนร้องทุกข์เขย่ารัฐบาล พธม. ปลุกข้าราชการระดับสูงแข็งข้อ ร้องนิด้าถอด “สมชาย” พ้นทำเนียบศิษย์เก่า คลอดพิมพ์เขียว ส.ส.ร.3 เป็น 2 แนวทาง


นายกฯ ประกาศจุดยืนอยู่ต่อ

  
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. เวลา 16.00 น. นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม พร้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลร่วมกันแถลงจุดยืนของรัฐบาล หลังนายสมชายได้ประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลต่อกรณีท่าทีของผู้นำเหล่าทัพ โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยนายสมชาย ยืนยันว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่พูดได้เต็มปากว่ามาจากระบอบประชาธิปไตยและมาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ การจะทำอะไรจะต้องแจ้งให้ประชาชนรับทราบ เพราะเรามีความรับผิดชอบต่อบุคคลที่ส่งให้เราขึ้นมาเป็นผู้บริหารบ้านเมือง ช่วงนี้มีข่าวหลายเรื่องและยืนยันว่าการทำงานของรัฐบาล จุดมุ่งหมายที่ขึ้นมานี้ไม่ใช่ทำงานเฉพาะด้านการเมือง แต่จะต้องดูแลประชาชนทุกภาคส่วนด้วยความเสมอภาค
  
ส่วนเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. นั้น รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้หารือกันเบื้องต้นว่า จะทำให้เร็วที่สุดเพื่อให้ผลปรากฏ คาดว่าภายใน 15 วันคงรายงานผลให้รับทราบได้ ซึ่งกรรมการก็เป็นอิสระเพราะประธานเป็นคนพิจารณา ทั้งนี้ผลการสอบสวนจะออกมาประการใด รัฐบาลก็จะยอมรับตามนั้น รัฐบาลไม่อยากให้เหตุการณ์อย่างนั้นเกิดขึ้น


ยังต้องสาน 3 งานใหญ่ลุล่วง

 
นายกฯ กล่าวต่อว่า ในการทำงานของรัฐบาลนั้นมีความจำเป็นที่ไม่สามารถละทิ้งหน้าที่ไปได้ เรามีงานใหญ่ 3 งาน ซึ่งเป็นงานของรัฐบาลและต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชน จึงอยากขอให้ทุกคนร่วมมือกันทำงานให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี งานใหญ่ที่ว่าคือ งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิง พระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ งานเฉลิมฉลองพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน จึงอยากจะขอให้หยุดการวิวาท บาดหมาง ทะเลาะเบาะแว้งไว้เพื่อมาร่วมมือกันทำงานให้สมพระเกียรติ
 
นายสมชาย กล่าวต่อว่า รัฐบาลให้การสนับสนุนแนวทางการตั้ง ส.ส.ร. เพราะเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีโดยประธานสภาได้เชิญพรรคต่าง ๆ มาร่วมมือกัน ซึ่งเมื่อสำเร็จแล้วรัฐบาลก็พร้อมที่จะคืนอำนาจให้กับประชาชน รัฐบาลมีความรู้สึกไม่สบายใจในการที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อะไร แต่ก็จะทำงานด้วยความเข้มแข็งและอดทน ทั้งนี้ระบอบประชาธิปไตยมีการกำหนดที่มาที่ไปของรัฐบาลชัดเจน แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือจะไปจะมาต้องมองประโยชน์ของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ นี่คือจุดยืนของ 6 พรรคร่วมรัฐบาลที่ได้หารือกันและคิดว่าจะดำเนินแนวทางนี้ร่วมกัน


รับฟังเสียง ผบ.เหล่าทัพ

  
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. กดดันให้ลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ นายสมชาย กล่าวว่า เราเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกคน แต่จะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ต่อข้อถามว่า รัฐบาลจะอยู่อย่างไรในเมื่อกองทัพไม่สนับสนุนและถือว่าการกระทำของกองทัพเป็นเส้นทางคู่ขนานกับรัฐบาลหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ยังไม่มีใครบอกว่าจะไม่ให้การสนับสนุนและไม่ถือว่าเป็นเส้นขนาน ยืนยันว่าไม่มีใครเปลี่ยนใคร การพูดคุยกับ ผบ.เหล่าทัพนั้น มีงานที่เหมาะสมเมื่อไรก็ต้องคุยต้องทำงานร่วมกันอยู่แล้ว เพราะตน เป็นรมว.กลาโหม
  
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรที่ ผบ.เหล่าทัพออกมาไล่รัฐบาล นายสมชาย กล่าวว่า ไม่มีใครไล่รัฐบาล เมื่อถามย้ำว่า คิดว่าการกระทำของ ผบ. เหล่าทัพเป็นการปฏิวัติหน้าจอโทรทัศน์หรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจคำว่าปฏิวัติหน้าจอ อย่างไรก็ดี ก่อนหน้าที่นายสมชายจะเข้าประชุมร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและรับฟังบรรยายสรุปการดำเนิน งานของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (ศศป.) องค์กรมหาชน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น แล้วเดินทางกลับบ้านพักในเวลา 12.20 น. ตลอดเวลาที่ปฏิบัติราชการนายกฯ มีสีหน้าเคร่งเครียด และพูดคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา


ชท.รอผลสรุปก่อนตัดสินใจ

  
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย ให้สัม ภาษณ์ถึงการออกมาแสดงความเห็นของ ผบ.เหล่าทัพว่า กองทัพเป็นข้าราชการ การที่ ผบ.เหล่าทัพออกมาพูดนั้นตนมองว่าเป็นการแสดงความคิดเห็น จะมาบังคับรัฐบาลไม่ได้ หากมีอะไรก็เสนอมายังรัฐบาล ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการกดดันรัฐบาลหรือไม่ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ทางนายกฯ และรัฐบาลก็ต้องรีบคุยกับทหารเพื่อที่จะรอให้คณะกรรมการหาข้อเท็จจริงทำงานก่อน นายกฯ เป็นผู้เสนอขึ้นมาเองว่าให้เวลากรรมการเขาทำ 15 วัน ซึ่งหลังจาก 15 วันทางพรรคชาติไทยก็ต้องมาคุยกันอีกที
  
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว. เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวถึงการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนให้เสร็จภายใน 15 วันว่า ตนคิดว่าคงไม่ยุบสภา เพราะสภาไม่ได้ทำความผิดอะไร ส่วนจะถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ คงต้องรอฟังผลการสอบสวนก่อน ถ้ารัฐบาลผิดจริงพรรคชาติไทยก็พร้อมที่จะพิจารณาถอนตัวเองออกจากพรรคร่วมรัฐบาล


“บิ๊กเหวียง” เชื่อไร้รัฐประหาร
  
พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และอดีต ผบ.ทบ. กล่าวว่า เท่าที่ฟังนายกฯ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้หลีกเลี่ยง ถ้าผลออกมาท่านก็ยอมรับและถือว่าแฟร์ดี เพราะเรามีกฎเกณฑ์ทางกฎหมายที่ต้องมาพิจารณาให้รอบ คอบและเร็วที่สุด เราก็ยืนยันว่าเราพร้อมยอมรับผลการสอบและคณะกรรมการชุดนี้แม้รัฐบาลตั้งมาก็สอบอย่างตรงไปตรงมาและทำงานอย่างอิสระ พรรคร่วมยังมั่นใจว่าเราจะยอมรับในผลสอบและผลออกมาอย่างไรก็จะเชื่อตามนั้น เรื่องก็จะจบลง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ส่วนใครเป็นคนสั่งการต้องรอผลสอบ
  
เมื่อถามว่าที่ประชุมพูดถึงเรื่องการสั่งการหรือไม่ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย เมื่อถามว่า ครม. 30 กว่าคนไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบเลยหรือ พล.อ.เชษฐา กล่าวว่า มี และมีมติแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่มติที่ออกมาก่อนหน้านี้ คือ อย่าทำอะไรรุนแรง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าไม่มีการรัฐประหาร แต่การที่ตนบอกว่าอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนั้นคือเรื่องของผลสอบหากออกมาอย่างไร นายกฯ และบุคคลที่เกี่ยวข้องก็พร้อมรับผิดชอบ


8 พปช.กระตุกหน้าที่ทหาร
  
ที่พรรคพลังประชาชน ส.ส.พรรคพลังประชาชน 8 คน ประกอบด้วย นายพีรพันธุ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร, นายอำนวย คลังผา ส.ส.ลพบุรี, นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม, นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด, นางอนุสรา ยังตรง, นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ, นายการุณ โหสกุล และนายไพโรจน์ อิสระเสรีพงษ์ ส.ส. กรุงเทพฯ ร่วมแถลงจุดยืนของพรรคต่อกรณีผู้นำเหล่าทัพออกมาแสดงท่าทีกดดันรัฐบาล นำโดยนายอำนวย กล่าวว่า พวกตนขอแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการกระทำของผู้นำเหล่าทัพ และขอเรียกร้องให้ผู้นำเหล่าทัพทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญกำหนดคือเตรียมกองทัพเพื่อปกป้องอธิปไตยและการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงภารกิจที่รัฐบาลมอบหมาย สิ่งเหล่านี้คือภารกิจของกองทัพอย่างแท้จริง
  
นายอำนวย กล่าวว่า ผลจากการออก รายการของผู้นำเหล่าทัพ ปรากฏในหน้าสื่อทุกฉบับว่าเป็นการกดดันรัฐบาลบ้างก็พาดหัวว่าปฏิวัติผ่านจอบีบนายกฯ ลาออก ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนรับทราบโดยทั่วกัน พวกตนในฐานะ ส.ส. เห็นว่าเรื่องนี้สำคัญมาก จึงมีคำถามเบื้องต้นว่าบุคคลทั้งสี่กำลังทำหน้าที่อะไร พวกตนไม่ได้ออกมาแถลงข่าวท้าทาย แต่ขอให้ทุกฝ่ายทำตามหน้าที่ของตน การออกรายการวานนี้ควรจะให้เกียรตินายกฯ ใน ฐานะผู้บังคับบัญชา และคิดว่านายกฯ ไม่จำเป็นต้องทำตามข้อเรียกร้องของผู้นำเหล่าทัพ เพราะนายกฯ และรัฐบาลได้รับฉันทานุมัติมาจากประชาชน


“การุณ” ปากดีจี้นายกฯ ปลด
  
นายศักดา กล่าวว่า เวลานี้นายสมชายดีที่สุด ยืนยันว่าจะไม่เปลี่ยนตัวนายกฯ อย่างเด็ดขาด ส่วนการประชุมสภาเพื่อพิจารณาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 นั้น ถ้ากลุ่มพันธมิตรฯ มาปิดล้อม ก็อาจเปลี่ยนสถานที่หรือเลื่อนประชุมได้ แต่ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจจะดำเนินการ ส่วนตัวไม่เห็นกับแนวทางนำมวลชนมาสนับสนุนเพราะจะทำให้เกิดการเผชิญหน้า
 
นายการุณ ให้สัมภาษณ์ว่า เวลานี้ไม่มีใครกลัวใครเราพร้อมรับฟังข้อเสนอของทุกฝ่ายรวมถึงกองทัพ แต่สิ่งที่ผู้นำเหล่าทัพออกมาแสดงเมื่อวานนี้ไม่เหมาะสม เปิดหน้าต่อสาธารณะโดยไม่เกรงใจกัน ทั้งนี้นายกฯในฐานะรมว.กลาโหมในความเห็นส่วนตัวถ้าคุณกระด้างกระเดื่องไม่เคารพผู้บังคับบัญชา ก็ควรเอาออกจากตำแหน่ง


แกนนำประเมินต้องนิ่งสู้

  
แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคพลังประชา ชนที่มีความใกล้ชิดนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำกลุ่มภาคเหนือ เปิดเผยว่า ช่วงค่ำวันที่ 16 ต.ค. แกนนำพรรคได้หารือร่วมกับ รมต. ในส่วนของพรรค อาทิ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รมว.ยุติ ธรรม, นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมช.มหาดไทย, นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ รมช.พาณิชย์, นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รมว.วัฒนธรรม พร้อมทั้ง แกนนำ ส.ส.กลุ่มอีสานเหนือ ประมาณ 20 คน ที่โรงแรมเอสซีปาร์ค เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ภายหลังผบ.เหล่าทัพ ออกรายการโทรทัศน์เรียกร้องให้นายกฯ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ โดยประเมินว่า เป็นการส่งสัญญาณเตือน แต่จะยังไม่มีการลงมือปฏิบัติใด ๆ และจะเป็นการเช็กแรงกระเพื่อมของพรรคร่วมรัฐบาล หากเห็นว่ายังไม่ได้ผลก็จะมีกระบวนการเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีก
  
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ที่ประชุมเห็นร่วมกันว่าจะแจ้งผลสรุปการประชุมไปยังนายกฯ ให้เตรียมรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งนายกฯ ต้องนิ่งและห้ามโยนผ้าเด็ดขาด ต้องยืนยันว่าจะยังไม่ยุบสภาหรือลาออก เพราะรัฐบาลมีภารกิจสำคัญที่จะต้องทำหลายอย่าง ซึ่งสุดท้ายจากผลสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 7 ต.ค. ออกมาเมื่อไรแล้วรัฐบาลพร้อมแสดงความรับผิดชอบ พร้อมประเมินว่า ถ้าภายใน 3-5 วันนี้ยังไม่เกิดอะไรขึ้น รัฐบาลจะต้องรีบแสดงความชัดเจนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และต้องเป็นฝ่ายผลักดันอย่างเต็มที่เพื่อให้สำเร็จโดยเร็ว โดยไม่แตะต้องบางมาตราที่ทำให้เกิดความหวาดระแวง เช่นมาตรา 190, 237 และ 309


กลุ่มเพื่อนเนวินยังยื่นมืออุ้ม

  
แหล่งข่าวจากแกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน แจ้งว่า สมาชิกกลุ่มก็ได้นัดประชุมประเมินสถาน การณ์ โดยที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะสนับสนุนนายสมชายต่อไปเพราะไม่ว่าจะเปลี่ยนอย่างไรรัฐบาลก็ไม่รอด แต่นายสมชายต้องไม่ยุบสภา หากนายสมชายไปไม่ไหวจริง ๆ ก็ควรเปลี่ยนขั้วให้พรรคชาติไทย ซึ่งอาจเสนอนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยหรือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นนายกฯแทนเพื่อรักษาสภาไว้ให้ได้ เนื่องจากมีเป้าหมายสำคัญ 2 เรื่องที่ต้องทำ คือ รอคำตัดสินคดียุบพรรคและการตั้ง ส.ส.ร.3
  
นายสุรชัย ศิริไกร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ภาคความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงรัฐบาลเพิกเฉยต่อกรณี พล.อ.อนุพงษ์ให้แสดงความรับผิดชอบว่า แม้ว่าวันนี้จะยังไม่ลาออก แต่เชื่อว่าอีกไม่นานจะต้องลาออกแน่ พล.อ.อนุพงษ์คงจะไม่ปล่อยให้อยู่ ไปอีก 8 เดือนเพื่อตั้ง ส.ส.ร.3 เสร็จก่อน อย่างไรก็ตามเชื่อว่า พล.อ.อนุพงษ์คงมีมาตรการกดดันตามมาแน่นอน แต่หากรัฐบาลนี้ยังดึงดันจะอยู่ต่อไป มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการยึดอำนาจแน่นอน


นายกฯไม่กล้าปลดผบ.ทบ.

  
รายงานข่าวจากกองทัพเปิดเผยว่า การที่นายสมชาย ไม่ยอมประกาศลาออก ตามที่ ผบ. เหล่าทัพเรียกร้อง เนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างการหารือของแกนนำพรรคพลังประชาชนที่บ้านพักแจ้งวัฒนะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้โทรศัพท์มาหานายสมชายและบอกว่าให้สู้ต่อ อย่าเพิ่งลาออกจากตำแหน่งนายกฯ เพราะการลาออกไม่ใช่ทางออกในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอย่างหนักในเวลานี้ อีกทั้งการลาออกจะเข้าทางกลุ่มพันธมิตรฯ อีกทั้งขณะนี้การลี้ภัยที่ประเทศอังกฤษยังไม่สมบูรณ์ จึงขอให้ยื้อเวลาออกไปอีกระยะหนึ่งก่อน
  
รายงานข่าว เปิดเผยอีกว่า ในส่วนของพรรคพลังประชาชน มีกระแสข่าวการปลด ผบ.  เหล่าทัพ ออกจากตำแหน่ง และพยายามหาคนของตัวเองเข้าไปอยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ.แทน รวม ทั้งมีข่าวลือว่านายสมชาย ได้ลงนามในคำสั่งให้พล.อ.อนุพงษ์ มาช่วยราชการที่สำนักนายกฯ และผลักดันให้เพื่อนร่วมรุ่น ตท.10 พล.อ.พรชัย กรานเลิศ อดีต ผช.ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นบุคคลที่ พ.ต.ท. ทักษิณผลักดันมาโดยตลอด แต่วิธีการดังกล่าวถูกยกเลิกกะทันหัน เนื่องจากเกรงว่าขุมกำลังของพล.อ.อนุพงษ์ ที่จัดวางไว้เรียบร้อยหมดแล้วจะ เคลื่อนไหว โดยเฉพาะกำลังในพื้นที่ กทม.


“อภิสิทธิ์”หนุนยุบสภาหย่าศึก

 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีผู้นำเหล่าทัพออกมาเรียกร้องให้นายสมชาย ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบรวมถึงการที่พรรคร่วมรัฐบาลเตรียมจะถอนตัวออกจากรัฐบาล ถ้านายกฯ ถูกสอบสวนว่ามีความผิดจริงว่า เป็นการสะท้อนความเห็นของคนกลุ่มหนึ่งในสังคมถึงความอึดอัดกับสภาพความไม่รับผิดชอบต่อบ้านเมือง ตนยืนยันว่าการแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองยังเป็นสิ่งจำเป็น การเรียกร้องของผู้นำเหล่าทัพนี้จึงไม่ต่างจากเสียงเรียกร้องหลายฝ่าย แต่ตนเห็นว่าการยุบสภาเป็นการแสดงความรับผิดชอบทางการเมือง และน่าจะเป็นทางออกที่เหมาะสมกว่า
 
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ถ้านายกฯลาออกก็มี 3 ทาง คือ 1.รัฐบาลชุดเดิมต้องหาบุคคลมาเป็นนายกฯ แทน แต่ถ้ายังเป็นกลุ่มเดิม ๆ ก็ไม่คิดว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจใด ๆ ให้กับประชาชน 2.ถ้าเปลี่ยนขั้วมาเป็นพรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ก็ยังต้องมีฝ่ายต่อต้านความขัดแย้งก็ยังคงอยู่ และ 3.การไม่มีขั้วด้วยการตั้งรัฐบาลแห่งชาติ แต่พรรคร่วมรัฐบาลไม่พร้อมและไม่ยอมรับความคิดนี้ ส่วนการหาคนนอกมาเสริมในรัฐบาลก็ยากที่ทุกฝ่ายยอมรับว่าเป็นกลางจริง ๆ ฉะนั้น การนำกลับไปให้ประชาชนตัดสินใจน่าจะเป็นทางออกที่เป็นจริงมากที่สุด และถ้าการเลือกตั้งสุจริตเที่ยงธรรม ใครจะเป็นผู้ชนะก็ตามสังคมจะยอมรับและให้โอกาส


ปชป.ตระเวนร้องทุกข์รัฐบาล

  
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคไปยื่นหนังสือถึงผู้ตรวจการณ์แผ่นดินของรัฐสภา เพื่อขอให้ตรวจสอบความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการประชุม รัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายรัฐบาลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา เพราะมีความไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ถ้ายังไม่มีข้อวินิจฉัยเป็นข้อเท็จจริงว่าการแถลงวันดังกล่าวมีความชอบหรือไม่ รัฐบาลที่ต้องใช้มติ ครม. ในการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งทำสัญญากับต่างประเทศอาจถูกผู้มีส่วนได้เสียฟ้องร้องดำเนินคดีแล้วยกกรณีการแถลงนโยบายมิชอบมาเป็นข้อต่อสู้ ก็อาจทำให้ประเทศชาติเสียได้ พรรคจึงเห็นว่าต้องให้ผู้ตรวจการณ์แผ่นดินรับเรื่องแล้วส่งต่อไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
  
นายสาทิตย์ ยังกล่าวว่า ได้ไปยื่นข้อมูล เพิ่มเติมให้กับ ป.ป.ช. ให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาอีกชั้นเพื่อตรวจสอบนายกฯ กับพวก กรณีปฏิบัติผิดกฎหมายและใช้ความรุนแรงในการสลาย กลุ่มผู้ชุมนุมทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นอกจากนี้ พรรคได้มอบหมายให้คณะ ส.ส. เดินทางไปพบอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯให้ยกเลิกสัญญากับบริษัท ดิจิ ตอล มีเดีย โฮลดิ้ง และให้ยกเลิกรายการ “ความจริงวันนี้” ของบริษัท เพื่อนพ้องน้องพี่ รวม   ถึงรายการวิทยุ 2 คลื่น ได้แก่ เอฟเอ็ม 105 เมกะเฮิรตซ์ และเอฟเอ็ม 97 เมกะเฮิรตซ์ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสอบสวนของ ป.ป.ช. อีกทั้งรายการดังกล่าวได้ปลุกระดมด้วยการให้ข้อเท็จจริงฝ่ายเดียว ถือว่าเป็นการขยายความขัดแย้งแตกแยกในบ้านเมือง


พธม.ปลุกบิ๊กขรก.แข็งข้อ

  
ที่ห้องผู้สื่อข่าว ทำเนียบรัฐบาล นายพิภพ ธงไชย แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า หากรัฐบาลไม่ลาออก ตนคิดว่า ผบ.เหล่าทัพน่าจะมีกระบวนการที่คิดไว้อยู่แล้ว การที่ผบ.เหล่าทัพออกมาถือว่ามีความกล้าหาญ น่ายกย่อง ตนขอเรียกร้องให้ข้าราชการระดับสูง อาทิ ปลัดกระทรวง อธิบดี ออกมาแสดงความกล้าหาญด้วย ทั้งนี้ไม่คิดว่าการออกมาเช่นนี้จะเป็นสัญญาณการปฏิวัติ หากจะมีน่าจะเป็นการปฏิวัติสังคมให้พ้นวิกฤติจะดีกว่าปฏิวัติแบบเดิม ๆ และในเรื่องนี้พรรคร่วมรัฐบาลควรแสดงความกล้า ร่วมมือกันเปลี่ยนแปลง สังคม รัฐบาลแห่งชาติก็อาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าทุกพรรคการเมืองร่วมกันตามกรอบรัฐธรรมนูญ
  
เมื่อถามว่า หากนายกฯ ลาออกจะสนับสนุนให้ใครเป็นนายกฯแทน นายพิภพ กล่าวว่า รัฐบาลมาถึงจุดที่จะใช้การเมืองแบบเดิมไม่ได้แล้ว ถ้านายกฯ ลาออกพรรคพลังประชาชนก็จะเลือกนายกฯมาใหม่ อาจเป็นบุคคลเดิมก็ได้ ปัญหาคงวนเวียนไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น ส.ส. ต้องร่วมกันหาทางออก ร่วมกันคิดภายในกรอบรัฐธรรมนูญ


แฉ “แม้ว” บงการนายกฯดื้อ

 
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวภายหลังนายสมชายแถลงการณ์ถึงการทำงานต่อว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นายสมชายประกาศจะทำงานต่อไป รู้ดีว่านายสมชายต้องการจะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด เพื่อทำงานให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ทำงานให้กับประเทศชาติ จากนี้ไปรัฐบาลอย่ามาถามหาความสมานฉันท์ เพราะรัฐบาลได้ทำลายไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. แล้ว 
  
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานแกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า ไม่แปลกใจในท่าทีของรัฐบาลที่อ้างความชอบธรรมเพราะพ.ต.ท. ทักษิณ เคยใช้หลักการนี้มาก่อน จากนี้ไปจะทำให้เกิดสถานการณ์ต่าง ๆ 3 ภาวะ คือ 1. ช่วง 3 วันอันตราย จะเป็นการดูท่าทีของนายกฯว่าจะปลดผบ.ทบ. หรือ ผบ.ทบ.จะปลดนายกฯ 2.การเมืองจะสู่ทางตัน บริหารงานไม่ชอบธรรมและตั้ง ส.ส.ร. เพื่อยื้อเวลา 3.จะก่อเกิดการรัฐประหารตามแนวคิดของพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งหากมีการกระทำก่อนวันที่ 21 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันตัดสินคดีที่ดินรัชดาฯ ก็จะทำให้ความชอบธรรมในการขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ มีมากขึ้น ทั้งนี้ จุดยืนพันธมิตรฯ คือ ต้องการให้รัฐบาลลาออก แล้วจะมีการกำหนดท่าทีของพันธมิตรฯ ต่อไป ซึ่งทางออกคือการมีรัฐบาลประชาภิวัฒน์ คือรัฐบาลแห่งชาติ จึงจะแก้วิกฤตินี้ได้ 


ถอดนายกฯพ้นศิษย์เก่านิด้า
  
ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) นายจักริช ธรรมศิริ อดีตนายกสโมสรนักศึกษานิด้า พ.ศ.2539 ได้ยื่นเรื่องต่อนายวิชัย รูปขำดี อาจารย์คณะพัฒนาสังคม สถาบันนิด้า เพื่อเรียกร้องให้ถอดถอนรายชื่อนายสมชายออกจากบัญชีศิษย์เก่าของสถาบันนิด้า เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของนายสมชาย ได้ใช้ความรุนแรงในการ สลายกลุ่มผู้ชุมนุมหน้ารัฐสภา ไม่เป็นไปตามหลักสากลอารยประเทศ สะท้อนให้เห็นว่านายสมชายขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้นำประเทศ ขาดเมตตาธรรม ทั้งนี้ ในนามของศิษย์เก่าฯ มีความหดหู่และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอให้สถาบันพิจารณาในเรื่องที่ยื่นถอนรายชื่อนายสมชายออกจากทำเนียบศิษย์เก่าด้วย


“จรัญ”พร้อมรับการตรวจสอบ

  
นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณี ส.ส. พรรคพลังประชาชน จะยื่นถอดถอนออกจากตำแหน่ง เนื่องจากกระทำการขัดต่อตำแหน่งหน้าที่ตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญว่า ตนยินดีให้ทำตามกระบวนการ เพราะคิดว่าหากเป็นกระบวนการที่นำไปสู่การวางข้อยุติเป็นบรรทัดฐานของสังคมเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์ ถ้ามีบรรทัดฐานที่ชัด ต่อไปคนก็จะได้ปฏิบัติกันถูก จะได้ไม่กล่าวหากันโดยมิชอบ
  
ส่วนจะกระทบต่อการพิจารณาตัดสินยุบพรรคการเมืองหรือไม่ นายจรัญ กล่าวว่า กระบวนการพิจารณาทางตุลาการตกลงกันว่าควรให้นายไพบูลย์ วราหะไพฑูรย์ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้แถลงข่าว โดยไม่อยากให้ตุลาการลงไปเป็นคู่กรณี เพราะจะถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง อย่างไรก็ตามตนไม่เคยย่อท้อและพยายามทำตามหน้าที่ต่อไป เพียงแต่อย่าดันทุรังอย่าบ้าอำนาจ อย่าเห็นแก่พรรคพวกมากกว่าประชาชน อย่าเห็นแก่การเอาชนะกันโดยมองข้ามชีวิตและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน


อัยการฯล่าตัวนักการเมือง

  
นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า นายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด ได้ตั้งคณะทำงานอัยการชุดใหญ่ในการติดตามตัวนักการเมืองที่หลบหนีหมายจับไปอยู่ต่างประเทศเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษตามคำพิพากษาของศาลในประเทศไทย มีนายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุดเป็นประธาน และอัยการจากฝ่ายคดีต่างประเทศและอัยการฝ่ายคดีพิเศษ รวม 10 คนเป็นคณะทำงาน ส่วนตนเป็นเลขานุการ ซึ่งคณะทำงานชุดใหญ่จะแบ่งกันดูแลเป็นคดี ๆ ไป
  
นายศิริศักดิ์ เปิดเผยว่า คดีแรกที่อัยการจะดำเนินการตามหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คือ การขอตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จำเลยคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก ที่หลบหนีไปอยู่ ประเทศอังกฤษเป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาดำเนินคดี แต่ต้องรอผลคำพิพากษาของศาลฎีกาฯในวันที่ 21 ต.ค.นี้ก่อนว่าศาลจะมีคำพิพากษาอย่างไร หากพิพากษาลงโทษอัยการจะขอคัดคำพิพากษามาแปลเป็นภาษาอังกฤษเพื่อจัดส่งให้รัฐบาลอังกฤษดำเนินการส่งตัว พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนกลับมารับโทษตามคำพิพากษา แต่หากศาลฎีกาฯ พิพากษายกฟ้องคดีก็จบ อัยการก็จะต้องดำเนินการในคดีอื่น


เดินหน้า2พิมพ์เขียวส.ส.ร.3

  
ที่รัฐสภา นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ ประธาน คณะกรรมการยกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม มาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การตั้ง ส.ส.ร.3 เปิดเผยหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติเกี่ยวกับโครงสร้างและที่มาของ ส.ส.ร.3 มี 2 แนวทาง คือ 1.เสนอโดยนายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิฯ เสนอโครงสร้าง 120 คน มาจากภาคประชา ชนราย 76 จังหวัดเลือกตั้งกันเองทางอ้อม นักวิชาการสายนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รัฐประศาสนศาสตร์ กฎหมายมหาชน 24 คน ให้เลือกกันเองเหมือนกับ ส.ส.ร. ปี 40 ส่วนสุดท้าย 20 คนมาจากกลุ่มสาขาอาชีพภาคต่าง ๆ โดยให้ไปเลือกกันเองทางอ้อม
  
ส่วนแนวทางที่ 2 เสนอโดยนายไชยยศ จิรเมธากร ตัวแทนจากพรรคเพื่อแผ่นดิน เสนอโครงสร้าง 100 คน ประกอบด้วยตัวแทนจากอธิการบดี อาจารย์นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ทั่วประเทศ 60 คน โดยเลือกกันเองในทางอ้อม และที่เหลืออีก 40 คน ให้เป็นตัวแทนจากกลุ่มสาขาอาชีพ ส่วนนายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะเสนอโครงสร้างประธานสภาพัฒนาการเมืองมาเป็นประธานส.ส.ร.3 โดยตำแหน่ง เนื่องจากสภาพัฒนาการเมืองเป็นองค์กรอิสระตามกฎหมาย ไม่แน่ใจว่ารัฐบาลจะมีอำนาจอะไรมากำหนดให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ ส.ส.ร.3 และการตั้ง ส.ส.ร.3 เป็นเพียงความคิดเห็นของรัฐบาลฝ่ายเดียว


40 ส.ว.กดดัน ปธ.วุฒิถอนตัว

  
น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กรุงเทพฯ กล่าวถึงกรณีที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา เป็นตัวแทนวุฒิสภาไปประชุมร่วม 4 ฝ่ายว่า ประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภาไม่ใช่เป็นตัวแทนของวุฒิสภาทั้งหมด เพราะ ส.ว. มีความเห็นหลากหลาย และไม่ใช่พรรคการเมือง ซึ่งกลุ่ม 40 ส.ว. ได้ทำหนังสือทักท้วงไปยัง   ประธานวุฒิสภาแล้วว่าไม่สามารถเข้าร่วมประชุมในนามตัวแทนของพวกเราได้ เพราะไม่เคยเรียกประชุมวุฒิเพื่อขอมติ ไม่ควรนำวุฒิสภาไปรับรองความชอบธรรมของรัฐบาลและไม่ควรไปร่วมกิจกรรมใดที่ดำเนินการของรัฐบาลที่ขาดความชอบธรรมไปแล้ว
  
นายวรินทร์ เทียมจรัส ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญเร่งนำคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัฌชิมาฯ เข้าสู่การวินิจฉัยโดยด่วน ปัญหาก็จะได้ยุติไป.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์