ทนาย‘ปู’ร้อง‘อสส.’ตั้งกรรมการร่วมปปช.สอบพยานเพิ่ม50ปากคดีทุจริต‘จำนำข้าว’

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

เข้าพบ นายสมเกียรติ คุววัฒนานนท์ รองเลขานุการอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึงนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุด(อสส.) กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ส่งสำนวนเอกสารหลักฐานพร้อมชี้มูลความผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ละเลยไม่ยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวที่ทำให้รัฐเสียหาย เพื่อขอให้อัยการฯพิจารณาตั้งกรรมการร่วมกับ ป.ป.ช.ไต่สวนพยานเพิ่มเติมในทุกประเด็น เนื่องจากเห็นว่าในชั้นไต่สวนของป.ป.ช.นั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม ทั้งเรื่องขั้นตอน กระบวนการดำเนินคดีที่เร่งรีบรวบรัด และประเด็นเนื้อหาที่มีการกล่าวหา การไต่สวนพยานมีข้อบกพร่อง ยังไม่สมบูรณ์หลายเรื่อง ยังมีข้อเท็จจริงและพยานที่ป.ป.ช.ควรสืบพยานอีกหลายส่วนที่เกี่ยวข้องกับ โครงการรับจำนำข้าว

โดยนายสมเกียรติ รองเลขานุการอัยการสูงสุดได้รับหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ของน.ส.ยิ่งลักษณ์

ซึ่งสรุปประเด็นข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมใน ชั้น ป.ป.ช.รวม 7 ข้อไว้ เพื่อเสนอนายตระกูล วินิจนัยภาค อัยการสูงสุดพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

ภายหลังยื่นหนังสือ นายนรวิชญ์กล่าวว่า สำนวนของ ป.ป.ช.มีข้อไม่สมบูรณ์หลายประเด็น

จึงมายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อขอความเป็นธรรม ให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม โดยประเด็นหลักคือ ป.ป.ช.นำข้อมูลเก่าของสถาบัน ทีดีอาร์ไอ ซึ่งเป็นรายงานนักวิชาการก่อนหน้าปี 2554 ที่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวมากล่าวหา โดยไม่มีหลักฐานยืนยันความผิดที่เป็นข้อมูลปัจจุบันที่ดำเนินโครงการรับจำนำ ข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์


 ทนาย‘ปู’ร้อง‘อสส.’ตั้งกรรมการร่วมปปช.สอบพยานเพิ่ม50ปากคดีทุจริต‘จำนำข้าว’

นอกจากนี้ ป.ป.ช. ไม่ไต่สวนตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐให้ยุติว่า

มีปริมาณข้าวคงเหลือคุณภาพที่ดีและถูกต้องตามบัญชีหรือไม่ ก่อนการชี้มูลความผิดในคดีอาญา ทำให้ความเสียหายในเรื่องนี้ไม่สมบูรณ์ ไร้พยานหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาที่อ้างว่ามีการทุจริตในทุกขั้นตอนของการ เก็บรักษาข้าวในโครงการรับจำนำข้าวจนถึงขนาดต้องยุติโครงการฯ เนื่องจากไม่มีการไต่สวนข้อเท็จจริงว่า กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ มีหลักเกณฑ์วิธีการคำนวณปริมาณข้าวที่อยู่ในโครงการรับจำนำข้าวมาหลายรัฐบาล อย่างไร

“รายงานวิจัยที่ป.ป.ช.ว่าจ้างนักวิชาการเป็นข้อมูลในอดีต ยังมีข้อถกเถียงข้อเท็จจริงที่ไม่ได้ข้อสรุปว่าโครงการรับจำนำข้าวบิดเบือน กลไกการตลาดมากเกินไปหรือไม่ รวมทั้งเรื่องโครงการรับจำนำข้าว มีผู้ได้รับผลประโยชน์เพียงคนบางกลุ่ม รัฐบาลกลายเป็นผู้ค้าข้าวรายใหญ่ทำลายตลาดเอกชนโรงสี/ผู้ส่งออกในโครงการได้ เปรียบโรงสีนอกโครงการ ข้าวไทยแพงกว่าข้าวคู่แข่งทำให้ไทยสูญเสียตลาดหรือไม่ ล้วนแต่ไม่มีหลักฐานทางคดี ข้อมูลทางวิชาการไม่ใช่หลักฐานทางคดี ที่จะมาฟังให้ต้องรับผิดอาญา ข้อมูลที่อ้างเกิดขึ้นที่ไหน เสียหายกับเอกชนรายใด เท่าไหร่ ไม่มีการพิสูจน์ข้อเท็จจริง”นายนรวิชญ์ระบุ

และว่า ในส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการบันทึกบัญชีของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีข้าว เกี่ยวกับผลขาดทุนและความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว

ยังไต่สวนไม่ได้ข้อยุติว่าหลักเกณฑ์และวิธีการบันทึกบัญชีถูกต้องหรือไม่ ทำให้การคิดคำนวณเรื่องมูลค่าขาดทุนและความเสียหาย ที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีข้าวระบุประมาณ 5 แสนล้านบาทไม่ถูกต้องสมบูรณ์ จำเป็นต้องไต่สวนพยานเพิ่มเติม ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร  

นอกจากนี้ ป.ป.ช.ยังไม่ไต่สวนในเรื่องที่คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.)สร้างมาตรการ วิธีการตรวจสอบ เพื่อกำกับควบคุมดูแลการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว เพื่อมิให้เกิดการทุจริตในแต่ละขั้นตอนของการดำเนินโครงการ

ผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาวันที่ 10 สิงหาคมหรือไม่ นายนรวิชย์กล่าวว่า ตนไม่ได้รับผิดชอบส่วนนี้

แต่อดีตนายกรัฐมนตรีมอบให้ตนดูแลคดีดังกล่าว ซึ่งตนได้เตรียมพยานบุคคลไว้ 50 ปาก เพื่อขอให้อัยการสอบเพิ่มเติม ให้นำเสนอข้อเท็จจริงมากที่สุด การพิจารณาจะได้ครอบคลุมครบถ้วนรอบด้าน อย่างไรก็ตาม การสอบพยานไม่ได้เป็นการขอยื้อระยะเวลา แต่เป็นการขอความเป็นธรรมตามสิทธิ์ขั้นพื้นฐานของกฎหมาย

ด้านพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายยุทธการ

ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางกลับประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์ในวันที่ 10 สิงหาคมว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานว่าจะมีการเลื่อนเวลากลับ เพราะยังไม่ถึงวันครบกำหนดขอเดินทางไปต่างประเทศ ต้องให้ถึงเวลาก่อน ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่มาจริงๆ ก็ต้องชี้แจงเหตุผล ซึ่งหัวหน้า คสช.จะเป็นผู้พิจารณาว่าอนุญาตให้อยู่ต่อหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินของคสช.คิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับมาวันที่ 10 สิงหาคมหรือไม่ พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า ไม่สามารถเดาใจได้ เพราะส่วนตัวน.ส.ยิ่งลักษณ์มีทีมที่ปรึกษาที่เป็นกุนซือทางยุทธศาสตร์คอยให้ คำแนะนำ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของน.ส.ยิ่งลักษณ์

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายเป็นห่วงถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่กลับมาวันที่ 10 สิงหาคม จะกระทบต่อหัวหน้า คสช.ในฐานะอนุมัติให้เดินทางไปต่างประเทศ พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า หัวหน้า คสช.ต้องชี้แจงได้ การที่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ เป็นไปตามหลักการ เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ยังไม่มีความผิด ศาลยังไม่ได้ตัดสิน การดำเนินการกับทุกคนที่มารายงานตัวกับคสช. มีกฎเกณฑ์เดียวกัน ไม่ได้มีบุคคลใดได้รับสิทธิพิเศษ และยืนยันว่าหัวหน้า คสช.ไม่ได้ช่วย นส.ยิ่งลักษณ์ ให้หลบหนี

“ซึ่งก่อนเดินทางไปต่างประเทศ น.ส.ยิ่งลักษณ์แจ้งต่อ คสช. โดยแสดงหลักฐานที่เป็นตั๋วเครื่องบินไปพักอาศัยในต่างประเทศชัดเจน ร่วมถึงกิจกรรมที่จะไปทำระหว่างอยู่ต่างประเทศ” พล.ท.กัมปนาทกล่าว และว่า หากน.ส.ยิ่งลักษณ์ขอขยายเวลาเดินทางกลับ ก็ต้องชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรให้หัวหน้า คสช.พิจารณาตามความเหมาะสม เปรียบเสมือนศาลที่ยังอนุญาตให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาสามารถเลื่อนวันขึ้นศาลได้


เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์แนวหน้า


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์