ซีทีเอ็กซ์....สรุปฉาวไม่น่าเกินสิ้นปี!!!

เราคงไปหักหลังเขาไม่ได้


ด้านนายอำนวย ธันธรา ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 กล่าวถึงการเชิญนายวรพจน์ ยศะทัตต์ หรือเสี่ยเช กรรมการผู้จัดการบริษัทแพทริออตบิสซิเนส คอนซัล-แทนด์ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือตรวจจับวัตถุระเบิดซีทีเอ็กซ์ 9000 ของบริษัทอินวิชั่น เทคโนโลยีจำกัด มาสอบปากคำว่า ได้ข้อมูลพอสมควร โดยต้องถือว่าเขาเป็นหนึ่งในพยาน เราคงไปหักหลังเขาไม่ได้ โดยทางคณะอนุกรรมการฯมีเทคนิคในการสอบปากคำอยู่ แม้ว่านายวรพจน์จะพูดเยอะ แต่เราก็พอจับทางได้ ส่วนที่จับไต๋แล้วอะไรนั้น คงบอกไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของสำนวนคดี ส่วนกรณีที่นายวรพจน์ระบุว่าถูกอนุฯ คตส.ขู่นั้น ไม่เป็นความจริง จะไปข่มขู่เขาได้อย่างไร เพราะเขามากับทนายความสองคนที่นั่งขนาบข้างเขาอยู่ ซึ่ง คณะอนุกรรมการก็ไม่ได้วิตกอะไรในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 ธ.ค. คณะอนุกรรมการฯจะเรียกพยานปากสำคัญมาให้ข้อมูล แต่ไม่สามารถบอกชื่อได้ สำหรับภาพรวมหากได้รับความร่วมมือจากพยาน คาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนได้ไม่เกินสิ้นปีนี้


คตส.ยันมีช่องสอบเอาผิดหวย


นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการออกสลากพิเศษ 2-3 ตัว ว่า คตส.ยังคงดำเนินการตรวจสอบต่อไป โดยหากรัฐบาลมีความชัดเจน คตส.จะพิจารณาอีกครั้ง ส่วนที่เกรงกันว่า หากกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจะลบล้างความผิดที่ผ่านมาในอดีตได้นั้น ตามมาตรา 2 กฎหมายอาญาระบุชัดเจน หากเรื่องการออกหวยไม่ผิด มันก็ลบล้างไป แต่เงินที่ได้มาหากมีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูก มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง คตส.ตรวจสอบอยู่ว่าเงินที่ได้จากการขายหวยเอาไปใช้ถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ ถือเป็นหลักใหญ่ อาทิ กรณีการให้ใครไปบริจาคถวายให้วัดเมื่อต้นปีก่อน แล้ววัดมาร้องว่าได้เงินแค่ครึ่งเดียวตามที่เป็นข่าวก็ต้องสอบ


ไม่เคยรู้มาก่อน

นายอุดม เฟื่องฟุ้ง ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบโครงการออกสลากพิเศษ 2-3 ตัว กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุฯ ว่า ที่ประชุมได้เชิญเจ้าหน้าที่จากกองสลากเข้าให้ข้อมูล ได้พบข้อมูลที่เป็นประโยชน์และไม่เคยรู้มาก่อน แต่ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ โดยหน้าที่ของ คตส.คือตรวจสอบหาเงินที่หายไป ต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างก่อน ส่วนจะเป็นวิธีไหนยังบอกไม่ได้ แต่พอจะทราบตัวเลขรวมแล้ว เงินที่ควรเป็นของแผ่นดินควรเป็นเท่าไหร่ และหายไปเท่าไหร่ ต้องเอาส่วนที่หายคืนมาจากคนที่ทำให้หาย ขณะนี้คณะอนุกรรมการกำลังสอบหาคนรับผิดชอบอยู่


ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบ


วันเดียวกัน เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. แถลงภายหลังการประชุม ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติแต่ง ตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินและหนี้สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตามที่นายวีระ สมความคิด ประธานกลุ่มพิทักษ์สิทธิเสรีภาพของประชาชน และนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ มีหนังสือขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ในกรณีขายหุ้นให้กับบริษัทแอมเพิลริช อินเวสเม้นท์ ลิมิเตด ที่หมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ว่ามีการขายหุ้นจริงหรือไม่ โดยมอบให้นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้


สงสัยปกปิดข้อมูลหุ้นแอมเพิลริช


นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การตรวจสอบความถูกต้องและมีอยู่จริงของทรัพย์สิน พ.ต.ท.ทักษิณกรณีนี้ ป.ป.ช.จะดูว่าหุ้นดังกล่าวเป็นหุ้นของใคร ถ้าไม่มีการยื่นบัญชีทรัพย์สินในส่วนนี้ ถือเป็นการปกปิดข้อเท็จจริง หรือยื่นเท็จหรือไม่ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับกรณีที่มีการขายหุ้นชินคอร์ปให้กลุ่มทุนเทมาเสก เพราะเป็นการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ซึ่งการตั้งอนุกรรมการลักษณะนี้ ป.ป.ช.เคยทำมาตลอด เช่น กรณีการซุกหุ้นภาคแรกของ พ.ต.ท.ทักษิณ กรณีเงินกู้ 45 ล้านบาท ของ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ หัวหน้าพรรคมหาชน หรือกรณีทรัพย์สินของนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมว.สาธารณสุข


ลับดาบเชือด ศิโรตม์ 7 ธ.ค.


ด้าน น.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล กรรมการ ป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรทำหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังจากถูกคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดกรณีละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการหลีกเลี่ยงภาษีการโอนหุ้นบริษัท ชินคอเปอร์เรชั่น จำกัด (มหาชน) มูลค่า 738 ล้านบาท ระหว่างนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน ชินวัตร กับ น.ส.ดวงตา วงศ์ภักดี ว่า คณะอนุกรรมการฯชุดที่มีตนเป็นประธาน จะต้องนำหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และหลักฐานที่เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรยื่นข้อมูลเพิ่มเติมล่าสุด มาพิจารณาดูอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ถูกกล่าวหา


......เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวว่า ป.ป.ช.จะนำคดีหุ้นชินคอร์ปฯ เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ในวันที่ 7 ธ.ค. ซึ่งในวันดังกล่าวจะมีการนำหนังสือขอความเป็นธรรมของเจ้าหน้าที่กรม สรรพากรมาพิจารณาด้วย หากเห็นว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ ก็จะพิจารณาชี้มูลความผิดทันที

>>>สุรยุทธ์ เชื่อทุกศาสนาอยู่ร่วมกันได้

อีกเรื่องหนึ่ง วันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานเปิดงานสัปดาห์ส่งเสริมศาสนาและจริยธรรมเนื่องในอภิมหามงคลวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี 2549 ทั้งนี้ พล.อ.สุรยุทธ์ได้กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ เรื่อง แนวทางการเสริมสร้างวินัยพื้นฐานศาสนิกชน ตอนหนึ่งว่า ศาสนาหลักในประเทศไทย คือ ศาสนาพุทธ อิสลาม คริสต์ พราหมณ์ ฮินดู และซิกข์ ที่แม้ว่าจะมีชื่อต่างกันมีรายละเอียด และองค์ประกอบที่ไม่เหมือนกัน แต่มีจุดหมายปลายทางอย่างเดียวกัน คือการพัฒนาสังคมให้ถึงพร้อมด้วยศีลธรรมจรรยา นำมาซึ่งความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม และความสงบสุขของมวลมนุษยชาติ และที่น่าภาคภูมิใจก็คือประเทศไทยแม้จะมีหลายศาสนา แต่คนไทยก็อยู่ร่วมกันด้วยความสมานฉันท์ตลอดมา ในฐานะของผู้ที่บริหารประเทศ ขอยืนยันว่าจะปกป้องคุ้มครองทำนุบำรุงศาสนา และนำหลักการทางศาสนามาปฏิบัติในการปกครอง โดยจะส่งเสริม สนับสนุน ร่วมมือและเอื้ออำนวยโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถที่จะบำเพ็ญกิจหน้าที่เพื่อประโยชน์ของประชาชน และนำหลักธรรมมาใช้ในการปกครองประเทศ เพื่อที่จะทำให้ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข สังคมมีความสงบสันติ อันเป็นจุดหมายร่วมกันของการปกครองและของศาสนา


หมอชนบทร้องสอบเจ้าหน้าที่ สตง


วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบทพร้อมด้วยคณะได้ยื่นหนังสือร้องต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ต่อกรณีการตรวจสอบการทุจริตในการจัดซื้อรถพยาบาลระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายละเอียดของหนังสือร้องเรียนของชมรมแพทย์ชนบทนั้นระบุว่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่ สตง.ที่รับผิดชอบได้กระทำการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปกปิด เบี่ยงเบนประเด็นของการติดตามสอบสวนการทุจริตการจัดซื้อรถพยาบาล ให้สังคมสับสน และตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองใหญ่ที่เกี่ยวพันกับโครงการจัดซื้อรถพยาบาลตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งๆที่คณะกรรมการสอบสวนตรวจสอบการทุจริตได้พยานเพื่อนำสืบไปถึงนักการเมืองใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง แต่เจ้าหน้าที่สตง.กลับให้ข่าวเบี่ยงเบน และขอให้นายกรัฐมนตรีรีบดำเนินการตรวจสอบในเรื่องนี้ด่วน



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์