ชวลิตย้ำระบอบทักษิณไม่มีจริง! วอนพอกันทีความคิดสุดโต่ง

ชวลิตย้ำระบอบทักษิณไม่มีจริง! วอนพอกันทีความคิดสุดโต่ง

"ชวลิต"ย้ำ"ระบอบทักษิณ"ไม่มีจริง! วอนพอกันทีความคิดสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง ทำแตกแยก

"ชวลิต" ย้ำ "ระบอบทักษิณ" ไม่มีจริง! วอนพอกันทีกับความคิดสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง ขอรบ.อย่าสร้างกติกาให้เกิดความแตกแยก

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่สปช.บางท่านเสนอแนวคิดปฏิรูปประเทศด้วยการป้องกันทักษิณและระบอบทักษิณมิให้เข้าสู่อำนาจการเมืองได้อีกว่าตนเห็นว่าขณะนี้บ้านเมืองบอบช้ำมามากพอแล้วพอกันทีความคิดสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง เป็นอันตรายต่อบรรยากาศการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ซึ่งจะฉุดภาวะเศรษฐกิจให้ตกต่ำลงไปอีกจนกู่ไม่กลับ

            

นายชวลิตกล่าวว่าตนเคยแสดงความเห็นไปหลายครั้งแล้วว่า ระบอบทักษิณไม่มี มีแต่ระบอบประชาธิปไตยที่มีองค์พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การพูดถึงระบอบทักษิณหรือครอบครัวของท่าน เป็นเพียงวาทกรรมที่จะทำลายกันทางการเมือง 


หัวใจของปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบันนี้ คือ ปัญหาความขัดแย้ง ความแตกแยก ความแตกสามัคคีของประชาชนในชาติ แทนที่จะสร้างกติกาบ้านเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว กลับจะยิ่งสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นไปอีกหากดำเนินการตามข้อเสนอดังกล่าว

            

นายชวลิตกล่าวอีกว่าตนเพิ่งกลับจากนครพนม เมื่อวานได้รับจดหมายจากศาลรัฐธรรมนูญมีสาระโดยสรุปว่า

ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้จำหน่ายคำร้องของ นายสมชาย แสวงการ และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ซึ่งได้ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกรณีบุคคล หรือพรรคการเมืองกระทำการเพื่อล้มล้างการปกครอง หรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศโดยศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลว่า 


เนื่องจากคสช.ได้มีประกาศให้รัฐธรรมนูญ ปี 2550 สิ้นสุดลง จึงไม่เป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาวินิจฉัยคดีต่อไป

ต่อประเด็นดังกล่าว ตนขอแสดงความเห็นไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดทำแนวทางปฏิรูปประเทศ ไม่ว่าจะเป็น สปช.สนช.และ ครม. ขอให้ย้อนกลับไปดูประกาศ คสช.ฉบับที่ 63/2557 ลงวันที่ 12 มิถุนายน 2557 เรื่อง นโยบายเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของรัฐ ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมว่า จะยิ่งเพิ่มปัญหาความขัดแย้งและสร้างความแตกแยกในสังคมให้มากขึ้น จึงขอให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไตร่ตรองให้รอบคอบในการสร้างกติกาบ้านเมืองเพื่อสร้างความเป็นปึกแผ่นของประชาชนในชาติหรือจะสร้างความแตกแยกจนทำให้ประเทศชาติล่มจม

          

เมื่อถามว่า ในภาวะบ้านเมืองปัจจุบัน มีอะไรจะเสนอแนะต่อรัฐบาล สนช.  และ สปช. บ้าง

นายชวลิต กล่าวว่า ขณะนี้เป็นห่วงภาวะเศรษฐกิจ ปากท้อง ของประชาชนมาก จากการได้พบปะพี่น้องประชาชนหลากหลายสาขาอาชีพ ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ยุคนี้ ข้าวยาก หมากแพง สินค้าอุปโภค บริโภค ราคาสูงมาก แต่สินค้า เกษตรซึ่งเป็นอาชีพของคนส่วนใหญ่ราคาตกต่ำทุกตัว ประชาชนไม่มีกำลังซื้อ เดือดร้อนกันทั่วหน้า อยากให้ผู้เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ ครม.เศรษฐกิจเร่งแก้ปัญหาโดยด่วน

           

"อยากจะฝากรัฐบาลว่าไม่ต้องห่วงเรื่องการเมืองเรื่องคลื่นใต้น้ำจากฝ่ายการเมือง มีบ้างแค่ลมพัดแผ่วๆ จะให้เห็นเหมือนกันหมดคงไม่มีในโลกนี้ แต่คงไม่มีใครเอาไข่ไปต้านหินเหมือนที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ให้สัมภาษณ์ไว้กรณีที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอกว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาของฝ่ายการเมือง เราเข้าใจดีว่าเป็นเวลาของท่านในการแก้ไขปัญหาและดำเนินการตามโรดแม็พที่ท่านประกาศต่อสาธารณะไว้ 


แต่ในฐานะประชาชนคนหนึ่งถ้าจะเสนอความเห็นในทางสร้างสรรค์

เช่น ไม่ควรสร้างกติกาที่ทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยกเหมือนเช่น รัฐธรรมนูญปี 2550 น่าจะเป็นบทเรียนที่ไม่ควรกระทำซ้ำ คิดว่าท่านคงรับฟัง เพราะท่านก็คงเหมือนคนไทยส่วนใหญ่ที่เบื่อความขัดแย้งในบ้านเมืองเต็มทีแล้ว คงอยากเห็นบ้านเมืองเดินไปได้ในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก เพราะเราจะอยู่คนเดียวไม่ได้ในโลกใบนี้" นายชวลิต กล่าว



เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์