จี้รัฐจัดการ จักรภพ

"สุริยะใส" จี้นายกฯจัดการ "จักรภพ" แนะตั้งสอบหรือไม่ก็ไล่ออก เผยห่วงกรณีพาดพิงสภาบันขยายวงกว้าง ชี้จุดเริ่มกระแสปฏิวัติมาจากคนในกองทัพที่แบ่งเป็น 2 ฝ่าย พร้อมจวกปัญหา พปช.ต้นเหตุสภาฯตั้งกมธ.ไม่สำเร็จ ขู่ซ้ำเปิดวิสามัญแก้ รธน.เมื่อไร ม็อบพันธมิตรมาแน่
เมื่อวันที่ 18 พ.ค.นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป.

กล่าวถึงกรณี นายจักรภพ เพ็ญแข รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกกล่าวหาจาบจ้วงสถาบันเบื้องสูง ว่า สถานการณ์การพาดพิงสถาบันเบื้องสูงที่บานปลายอยู่ในขณะนี้ เกิดจากความละเลยไม่เอาใจใส่ของอำนาจรัฐ ที่ปล่อยให้มีขบวนการโจมตีและพาดพิงสถาบันขยายตัวออกไปจนน่าเป็นห่วงทั้งใต้ดินและบนดินมากกว่ายุคอดีต ซึ่งการดำเนินการหาข้อยุติในเรื่องนี้ต้องทำไปพร้อมๆ กันทั้ง 2 ทาง ทั้งมาตรการกฎหมาย และมาตรการทางการเมือง โดยเฉพาะบุคคลในรัฐบาลหรือคนถืออำนาจรัฐจะต้องเป็นแบบอย่างไม่มีพฤติกรรมที่สังคมเคลือบแคลงกังขา ซึ่งกรณีของนายจักรภพ จะต้องเร่งหาข้อยุติ การปล่อยให้ตำรวจดำเนินคดีความอย่างเดียวนั้นไม่ใช่ทางออก เพราะจะทำให้เกิดข้อกังขาในสังคมวงกว้าง เช่นกรณีพฤติกรรมอดีตนายกรัฐมนตรื พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่พฤติกรรมจาบจ้วงแม้อัยการฯ จะสั่งไม่ฟ้องหรือศาลยกฟ้องก็ตามแต่ก็มีปัญหาข้อพิพาทตามมาว่าพฤติกรรมที่แสดงออกนั้น เป็นเรื่องบังควรหรือไม่
 
"ครป.ขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ว่าต้องใช้มาตรการทางการเมืองกับนายจักรภพ ซึ่งมีหลายช่องทาง ทั้งการพิจารณาตัวเอง การตั้งกรรมการที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือการปรับออกก็เป็นวิธีการหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้มาตรการที่รุนแรงจึงจะยุติปัญหานี้ได้ โดยให้เปรียบเทียบกับกรณีของอดีต ผบ.ตร. พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ซึ่งมีทั้งดำเนินคดีและตั้งกรรมการสอบสวนด้วย" นายสุริยะใส กล่าว 
 

นายสุริยะใส กล่าวถึงกรณีโฆษกพรรคพลังประชาชนออกมาเตือนรัฐบาลว่าให้ระวังเรื่องการปฏิวัติซ้ำว่า

กระแสการปฏิวัติที่เกิดขึ้นขณะนี้มาจากเรื่องการจาบจ้วงสถาบันเบื้องบน ความแตกแยกทางการเมือง ในเรื่องการแก้ใขรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่สาเหตุสำคัญแต่สิ่งที่สำคัญคือข้อกังวลของประชาชนที่ไม่มั่นใจในรัฐบาลว่าเป็นรัฐบาลนอมินี รัฐมนตรีก็ไม่มีผลงาน นอกจากนี้ความไม่ลงตัวในกองทัพ ซึ่งเป็นคนของกลุ่มอำนาจเก่า และกลุ่มที่ยังคุมกองกำลังในปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายยังคุมเชิงกันอยู่ ตรงนี้ถือเป็นจุดเปราะบาง รวมทั้งขณะนี้ใกล้ถึงฤดูโยกย้ายข้าราชการในกองทัพที่เกรงว่าจะมีการล้วงลูกเหมือนเช่นในอดีต ดังนั้นรัฐบาลต้องเอาใจใส่ และดำเนินการอย่างจริงจังในทุกเรื่อง อย่าคิดว่าการปฏิวัติทำไม่ได้ โดยเฉพาะรัฐบาลจะต้องไม่เพิกเฉย ไม่ตอกลิ่ม โดยการจัดตั้งมวลชน ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน
 
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป. กล่าวถึงการรื้อรัฐธรรมนูญ ว่า

ครป.เห็นว่าการเปิดสภาวิสามัญฯ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่ไม่ชอบและสะท้อนให้เห็นถึงความลุกลี้ลุกลนของรัฐบาลและ สส.พรรคพลังประชาชน ที่พยายามรวบรัดตัดตอนรื้อรัฐธรรมนูญเพื่อฟอกผิดตนเอง โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านของสังคม และทำให้ปมความแตกแยกในสังคมยังดำรงอยู่ต่อไป ประการสำคัญยังส่งผลให้ความเปราะบางและเสถียรภาพของรัฐบาลแย่ลงไปเรื่อยๆ จนทำให้หลายฝ่ายลดความคาดหวังต่อรัฐบาลในการคลี่คลายปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพง ที่ต้องอาศัยการเมืองที่นิ่งและมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ ครป.ขอประณามสภาผู้แทนฯ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะผ่านมากว่า 3 เดือนแล้ว แต่ไม่สามารถตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาฯ ได้ ส่งผลให้ฝ่ายนิติบัญญัตินอกจากไม่สามารถสร้างช่องทางในการรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนได้แล้ว ยังทำให้สภาฯ ไม่สามารถมีกลไกถ่วงดุลตรวจสอบฝ่ายบริหารที่มีประสิทธิภาพได้ ทั้งนี้ความล่าช้าเกิดจากการจัดสรรโควต้าและผลประโยชน์ในพรรคพลังประชาชนไม่ลงตัว
 
เลขาธิการ ครป. กล่าวว่า ครป.ขอเรียกร้องให้รัฐสภาใส่ใจกับการตรากฎหมายลูกและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญซึ่งในขณะนี้สภาฯ ยังไม่สามารถตรากฎหมายเพื่อรองรับรัฐธรรมนญ 2550 ได้แม้แต่ฉบับเดียว

โดยเฉพาะกฏหมายที่เป็นประโยชน์กับประชาชนและต้องดำเนินการภายใน 1 ปี ตามมาตรา 303 เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน เสรีภาพของสื่อมวลชน สิทธิเสรีภาพในการศึกษา ฯลฯ ซึ่งทำให้ประชาชนเสียโอกาสที่จะเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามในช่วงเปิดสมัยประชุมสภาวิสามัญ หากมีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ว่าจากฝ่ายใดก็ตาม ครป.และพันธมิตรฯ ยังยืนยันจุดยืนเดิมทั้งการเข้าชื่อถอดถอนและการการชุมนุมใหญ่ แม้พรรคพลังประชาชนจะอำพรางด้วยการเสนอร่างที่รวบรวมโดยประชาชน 5 หมื่นรายชื่อก็ตาม ทั้งนี้อยากให้ดูกหารรวบรวมรายชื่อของคปพร.เพื่อเสนอแก้รัฐธรรมนูญว่าได้ทำถูกต้องตามกระบวนการของกฎหมายหรือไม่ เพราะการลงชื่อจะต้องมีแบบฟอร์ม ไม่ใช่ลงแบบบัญชีหางว่าว ซึ่งอาจใช้ไม่ได้เว้นแต่เพื่อหวังผลกระแสกดดันทางการเมือง

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์