ศาลยกคำร้อง พจมาน ฟ้อง คตส.

"พจมาน" แป้ก!


ศาลอาญามีคำสั่งยกคำร้องฟ้อง 17 ขุนพล คตส. ปฏิบัติหน้าที่มิชอบสอบคดีที่ดินรัชดาฯ ชี้ คตส.มีอำนาจถูกต้อง ไร้มูลความผิด

ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา ถ. รัชดาภิเษกว่า

ศาลมีคำสั่งยกคำร้องคดีที่ คุณหญิงพจมาน ชินวัตร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการ กระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และกรรมการ คตส. รวม 17 คน ร่วมกันเป็นจำเลย ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด

ทั้งนี้ ศาลรับคำฟ้องไว้เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 50

เป็นคดีดำหมายเลขที่ 2160/2550 และนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์ใน วันที่ 27 ส.ค.50 เวลา 09.00 น. แต่อย่างไรก็ดี ศาลพิเคราะห์คำฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่าเป็นการฟ้องเกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่ของคตส. ซึ่งเมื่อพิจารณาการกระทำของจำเลยตามฟ้องโจทก์แล้ว มิได้เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ คดีจึงไม่มีมูล จึงมีคำสั่งให้ยกคำฟ้องโดยมิต้องไต่สวนมูลฟ้องโจทก์

ทั้งนี้คดีนี้ โจทก์ฟ้อง สรุปว่า


โจทก์ ได้ซื้อที่ดินบริเวณเทียนร่วม มิตร รัชดาภิเษก จากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน เป็น เงินจำนวน 772 ล้านบาท ภายหลัง คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ยึด อำนาจพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สามีโจทก์ แล้ว มีคำสั่งแต่งตั้ง คตส. ซึ่งมีจำเลยที่ 1 เป็นประธาน จำเลยที่ 2-11 เป็นกรรมการ คตส. ร่วมกันสอบสวนสัญญาซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษก

และสรุปกล่าวหาโจทก์และสามีโจทก์ ทำสัญญาซื้อขายผิด พ.ร.บ.ว่า

ด้วยคณะ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตรา 100 และผิดอาญาตาม กฎหมายอื่นซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยการสอบสวนจำเลยที่ 1 ออก คำสั่งแต่งตั้งนายอุดม เฟื่องฟุ้ง จำเลยที่ 2 เป็นประธานอนุกรรมการ ฯ ไต่สวน พร้อมทำความเห็นเสนอต่อ คตส. จึงถือว่าจำเลยที่ 1- 11 และ จำเลย ที่ 12 - 17 ซึ่งเป็นอนุ คตส. เป็นพนักงานสอบสวนผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา

ในระหว่างวันที่ 30 ก.ย. 49 31 ม.ค.50


จำเลยที่ 1 11 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีเจตนาพิเศษกลั่นแกล้งโจทก์ และสามี โจทก์ ให้ได้รับความเสียหาย เพราะจำเลยที่ 1 11 ทราบข้อเท็จ จริงดีว่าก่อนหน้าที่จะได้รับแต่งตั้งเป็น คตส. มีผู้ร้องทุกข์ให้ ดำเนินคดีโจทก์กรณีซื้อที่ดินรัชดาภิเษกต่อ ปปช. ซึ่งพิจารณามีมติเด็ด ขาดแล้วว่า การซื้อที่ดินของโจทก์ และสามีโจทก์ไม่เป็นความผิดต่อ ตำแหน่งหน้าที่ มาตา 66 พ.ร.บ.ว่าด้วย ปปช. ฯ และคดีไม่อยู่ในอำนาจศาล ฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ซึ่งจำเลยที่ 1-11 ไม่มี อำนาจ

ที่จะนำเรื่องที่ ปปช. วินิจฉัยเสร็จเด็ดขาดแล้วนำมากล่าวหาใหม่ ได้เพราะเป็นเรื่องต้องห้ามตามมาตา 86 พ.ร.บ.ว่าด้วย ปปช. ฯ นอกจากนี้ จำเลยที่ 1-11 ยังปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยอาศัยอำนาจตามประกาศ คปค. กลั่นแกล้งโจทก์และสามีโจทก์ โดยจำเลยที่ 1-11 มีมติ คตส. ลงวัน ที่ 31 ต.ค.49 แต่งตั้งอนุ คตส. ตรวจสอบการซื้อขายที่ดิน รัชดาภิเษก

ซึ่งมีเจตนาพิเศษให้โจทก์และสามีโจทก์ต้องรับโทษอาญา

โดย จำเลยที่ 1-11 ร่วมกันมีมติเห็นชอบให้ดำเนินการกับโจทก์และสามีโจทก์ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ปปช. ฯ มาตรา 100(1) จากนั้นจำเลยที่ 1 ในฐานะ ประธาน คตส. ยังกลั่นแกล้งกล่าวหาโจทก์และสามีโจทก์ต่อสื่อมวลชน ว่า การเข้าทำสัญญาซื้อที่ดินถือว่าโจทก์และสามีโจทก์ ร่วมกันกระทำผิด ตามพ.ร.บ.ว่าด้วย ปปช. ฯ มาตรา 100 ซึ่งจำเลยที่ 1 บีบบังคับ ให้กองทุนเพื่อกาฟื้นฟู ฯ ทำการกล่าวหาร้องทุกข์เอาผิดกับโจทก์และสามี โจทก์ การกระทำของจำเลยที่ 1 ถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะขณะที่จำเลย ที่ 1

กล่าวหาโจทก์และสามีโจทก์ยังไม่มีการตรวจสอบ


ไต่สวนข้อ เท็จจริงและข้อกฎหมาย อีกทั้งยังไม่มีการรวบรวมพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จ ก่อนโดยการกลั่นแกล้งของจำเลยที่ 1-11 ดังกล่าว มีการแบ่ง หน้าที่กันทำ ดยจำเลยที่ 1บีบบังคับกองทุนเพื่อการฟื้นฟู กิจการ ฯ จำยอมกล่าวหาร้องทุกข์เอาผิดโจทก์และสามีโจทก์ ส่วนจำเลย ที่ 12-17 สมรู้ร่วมคิดกับจำเลยที่ 1 ในการเป็นอนุ คตส. ไต่สวน

การมีมติของจำเลยที่ 1-17

จึงมีพฤติการณ์ร่วมกันบิดเบือน ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายและไม่ยึดหลักนิติธรรม โดยการไต่สวน จำเลยที่ 1 -17 ไม่สามารถระบุได้ว่ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูกิจการ ฯ ที่อ้างเป็น หน่วยงานรัฐเสียหาย สังกัดอยู่ในส่วนราชการใด ซึ่งการกระทำของจำเลย ที่ 1-17 เพื่อสนับสนุน คปค.ที่ได้ปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจในการปกครอง แผ่นดิน นอกจากนี้ที่จำเลยที่ 1-17 ร่วมส่งสำนวนชี้มูลความผิดที่ดิน รัชดาภิเษก ให้อัยการสูงสุดถือเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ

ซึ่งกองทุนเพื่อการฟื้นฟูกิจการ ฯ มิใช่เป็นหน่วยงานของรัฐที่สังกัด

อยู่ในราชการส่วนกลางที่สามีโจทก์มีอำนาจกำกับดูแล การกระทำของโจทก์ใน ฐานะคู่สมรสนายกรัฐมนตรี ที่ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับกองทุนเพื่อการ ฟื้นฟู ฯ จึงมิใช่เรื่องผลประโยชน์ส่วนตัวขัดแย้งกับผลประโยชน์ส่วน รวม โจทก์จึงขอให้ศาลลงโทษจำเลยทั้ง 17 ตามกฎหมาย

สำหรับรายชื่อจำเลย ที่ 17 คน ประกอบด้วย


1.นายนาม ยิ้มแย้ม ปรธาน คตส.
2.นายอุดม เฟื่อง ฟุ้ง ประธาน อนุ คตส. คดีที่ดินรัชดา ฯ
3.คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา
4.นาย จิรนิติ หะวานนท์
5.นาบรรเจิดสิงคเนติ
6.นายกล้าณรงค์ จันทิก
7.นายแก้ว สรร อติโพธิ
8.นายวิโรจน์ เลาหะพันธ์
9.นายสัก กอแสงเรือง
10.นาง เสาวนีย์ อัศวโรจน์
11.นายอำนวย ธันธรา กรรมการ คตส.
12.น.ส.กัญญานุช สอทิพย์ อธิบดีกรมบังคับคดี
13.นางพวง จันทร์ เหล่าสุทธิวงษ์
14.นายศตบรรณ พันธุวัน
15.นางเรวดี แทนวันชัย
16.นางดวงกมล ดุลยฤทธิ์
17.น.ส.ชมพูนุช ลิ้มมณีวิจิต เจ้า หน้าที่ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์