เรืองไกรขอบคุณบิ๊กตู่ย้ายห้องประชุมชี้อาจมีเหตุมาจากไมค์แพง

เมื่อเวลา 14.20 น. วันที่ 9 กันยายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.)

เข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างไมโครโฟนสำหรับใช้ในห้องประชุมครม.เพิ่มเติม โดยนายเรืองไกร กล่าวว่า ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี ที่ย้ายห้องประชุมครม. เนื่องจากอาจมีสาเหตุหนึ่งมาจากกรณีไมโครโฟนที่เป็นข่าวอยู่นี้ ซึ่งมีข้อมูลเริ่มต้นจาก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล และต่อมาอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองได้อธิบายความเพิ่มเติมจนเป็นเหตุให้ตนได้ร้อง ขอให้มีการตรวจสอบตรวจสอบราคาไมโครโฟนแล้วครั้งหนึ่ง ต่อมาได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ไมโครโฟนดังกล่าวมีการตั้งราคากลางต่อหน่วยสูงกว่าราคาที่จำหน่ายในท้องตลาดเมื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ปรากฎในเว็บไซต์ต่างๆ อยู่ประมาณตัวละหรือชุดละ 58,990 บาท หรือแพงขึ้นประมาณ 59.59%

จึงต้องขอแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำไปตรวจสอบต่อไปโดยด่วน ดังต่อไปนี้

1.ข่าวในเว็บไซต์มติชนเปิดเผยข้อมูลการประมาณราคากลางงานติดตั้งระบบเสียง ระบบภาพ ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง และระบบ VDO CONFERENCE ห้องประชุม 501, 301, 302 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยฝ่ายประมาณราคา คือ กรมโยธาธิการและผังเมือง ประมาณราคาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งห้องประชุม 501 ซึ่งมีไมโครโฟนยี่ห้อ BOSCH รุ่น DCNM-MMD ราคาต่อหน่วย 139,690 บาท ก้านไมโครโฟน ยี่ห้อ BOSCH รุ่น DCNM-HDMIC ราคาต่อหน่วย 18,300 บาท

นายเรืองไกร กล่าวว่า จากราคาที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ตั้งราคาไมโครโฟนรวมก้านไว้เป็นราคากลางเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม
 
จึงเท่ากับ 157,990 บาท (139,690 +18,300) ซึ่งราคาดังกล่าว พบว่า เคยมีการตั้งราคาขายโดยทั่วไปอยู่ที่ตัวละ  99,000 บาท จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏเพิ่มเติม จึงน่าเชื่อว่า มีการกำหนดราคากลางไมโครโฟนสูงกว่าราคาตลาด 58,990 บาท หรือ 59.59 % ซึ่งหากไม่มีการตรวจพบก่อน ก็เท่ากับว่า ราชการอาจใช้เงินภาษีประชาชนสูงกว่าความเป็นจริงประมาณ 60% 

นายเรืองไกร กล่าวว่า ข้อมูลที่พบ ยังเป็นเพียงข้อมูลเบื้องต้นสำหรับรายการเดียวเท่านั้น แต่จากเอกสารประมาณราคาก่อสร้าง

แสดงให้เห็นว่า มีงบประมาณส่วนอื่นอีกที่สื่อมวลชนหรือสาธารณชนยังไม่ได้รับทราบข้อมูล จึงควรนำข้อมูลประมาณราคาค่าก่อสร้างเกี่ยวกับการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลครั้งนี้ออกมาเปิดเผยทั้งหมด และเนื่องจากกรณีนี้เป็นที่สนใจของสังคม และยังไม่พบว่า ป.ป.ช.จะเข้าตรวจสอบหรือไม่

ดังนั้น เพื่อให้ได้ความจริงโดยเร็ว ควรขอให้ สตง.เข้าไปตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย และขอให้ใช้อำนาจนายกรัฐมนตรี

สั่งห้ามเคลื่อนย้ายวัสดุอุปกรณ์ใดๆ ในห้องประชุม 501 ทั้งนี้เพื่อมิให้มีการทำลายหลักฐานหรืออำพรางข้อมูลที่เกิดขึ้น รวมทั้งขอให้ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบประมาณในการปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลทั้งหมดด้วยว่า มีงานใดที่ทำก่อนการลงนามในสัญญาอีกหรือไม่