ทักษิณหาเสียงดุ ไล่จำลอง ให้ไปเลี้ยงหมา



แม้จะถูกฝ่ายกฎหมาย พรรคไทยรักไทย ขู่จะฟ้องหมิ่นประมาท แต่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังไม่ยอมยุติการเดินหน้า เปิดโปงขบวนการ ว่าจ้างพรรคการเมืองเล็กๆ ให้ส่งคนลงสมัครเลือกตั้ง ส.ส.ประกบ ผู้สมัครพรรคไทยรักไทย ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จ.สระแก้ว สุพรรณบุรี ปราจีนบุรีและอ่างทอง เพื่อหลีกเลี่ยงเงื่อนไขที่ผู้สมัครต้องได้ คะแนนเสียงเกิน 20%

โดยล่าสุดได้นำตัวพยานปากเอกทั้ง 3 คนมาเปิดตัว โดยพยานระบุว่า ได้ไปพบเพื่อรับเงินและนโยบาย จาก พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รมว.กลาโหมและรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ที่ทำการพรรคไทยรักไทยและกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการปลอมแปลงเอกสารและค่าสมัคร โดยมีเจ้าหน้าที่ กกต.ให้การร่วมมือในการกระทำผิดนั้น



สุเทพ เปิดตัว 3 พยานโกงเลือกตั้ง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 19 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำตัวพยานปากเอก 3 คน ประกอบด้วย นายชวการ โตสวัสดิ์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กทม. เขต 29 บางกอกน้อย หมายเลข 7 ของพรรคพัฒนาชาติไทย นายสุขสันต์ ชัยเทศ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย และ น.ส.มณฑิราพร พิมพ์จันทร์ ผู้ช่วยนายสุขสันต์ ออกมาเปิดโปงเส้นทางขบวนการทุจริตการเลือกตั้ง ด้วยการจ้างวานพรรคเล็กพรรคน้อยลงรับสมัคร ส.ส.ประกบผู้สมัครจากพรรคไทยรักไทย

นายชวการกล่าวว่า เป็นประธานเครือข่ายผู้ ประกอบอากรอุตสาหกรรมสุราแห่งประเทศไทย เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพัฒนาชาติไทยในปี 46 และในการเลือกตั้งเมื่อเดือน ก.พ. 48 ที่ผ่านมา ก็ได้ส่งสมาชิกลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แต่ไม่ได้รับเลือก แต่พรรคก็ยังมีการเคลื่อนไหวทางมวลชนตลอดมา และเมื่อมีการยุบสภาในฐานะที่มีเครือข่ายทั่วประเทศ ก็ได้รับการประสานงานจากคนสนิทของผู้ใหญ่ในพรรคไทยรักไทย ให้เข้ามาดำเนินการหาพรรคเล็ก 2-3 พรรค เพื่อส่งสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากเกิดปัญหาพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่ลงสมัครที่อาจเกิดปัญหาได้ และเป็นโอกาสที่จะให้พรรคเล็กได้ชัยชนะโดยจะให้งบสนับสนุนทั้งหมด จึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่จะเข้ามาทำงานทางการเมืองจึงตกลงรับงานนี้

ระบุ พล.อ.ธรรมรักษ์ เป็นคนบงการ



นายชวการกล่าวอีกว่า หลังจากได้รับการติดต่อจากคนสนิทของผู้ใหญ่ในพรรคไทยรักไทย 2-3 วัน ก็ได้เดินทางจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เข้ามากรุงเทพฯ และเดินทางไปยังที่ทำการพรรคไทยรักไทย ถนนเพชรบุรี ตัดใหม่ พร้อมกับคนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา 2-3 คน โดยได้เข้าพบ พล.อ.ธรรมรักษ์ในเวลา 2 ทุ่มเศษของวันที่ 2 มี.ค. ที่ห้องประชุมติดกับที่ทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์

โดยได้มีการหารือเรื่องการให้ส่งผู้สมัครในพื้นที่เป้าหมาย โดยเฉพาะพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จ.สระแก้ว สุพรรณบุรี ปราจีนบุรีและอ่างทอง เมื่อทราบนโยบายชัดเจนตนก็เริ่มดำเนินการ โดยติดต่อกับนายสุขสันต์ ชัยเทศ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคพัฒนาชาติไทย ต่อมาวันที่ 3 มี.ค.ได้พบกับนายทวีศักดิ์ อมรสินธุ์ หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย ที่โรงแรมกานต์มณี สะพานควาย

จากนั้นได้ตั้งกองบัญชาการและเริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 3-8 มี.ค. โดยเคลื่อนไหวหาตัวผู้สมัคร ส.ส.กว่า 100 คน ซึ่งมีทั้งตัวจริงและไม้ประดับ โดยได้แฟกซ์เอกสารทั้งหมดเกี่ยวกับการสมัครมาให้ที่โรงแรมดังกล่าว และมอบให้นายสุขสันต์และ น.ส.มณฑิราพรไปดำเนินการทั้งระบบแบ่งเขตเลือกตั้งและบัญชีรายชื่อ ส่วนกระบวนการใช้จ่ายเงินเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ในวันสุดท้ายของการรับสมัครแบบบัญชีรายชื่อ โดยตนได้เดินทางไปรับค่าใช้จ่ายจาก พล.อ.ธรรมรักษ์ที่กระทรวงกลาโหม เวลาประมาณ 14.00 น. เป็นเงินสด 50,000 บาท เพื่อนำมาให้กับหัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทย

วางแผนให้เป็น ส.ส.ประธาน กมธ.



นายชวการกล่าวว่า จากนั้นได้กลับมาที่โรงแรมกานต์มณี เพื่อจัดทำผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งลงในพื้นที่เป้าหมาย โดยตนเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด และมีผู้รับสมัคร ส.ส.ทั้งหมด 33 เขต ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 6 มี.ค. คนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์ได้พาตนไปที่กระทรวงกลาโหม เพื่อรับเงินค่าดำเนินการจำนวน 2.4 แสนบาท แต่เงินไม่พอใช้ ต่อมาอีก 3-4 ชั่วโมง คนสนิทของ พล.อ.ธรรมรักษ์ ได้นำเงินมาให้อีก 5.2 แสนบาท จึงแบ่งเงินใส่ซองๆละ 2 หมื่นบาทจำนวน 38 ซอง มอบให้ผู้สมัคร 33 ซอง ส่วนอีก 5 ซองเป็นค่าใช้จ่ายของตนและคณะทำงาน ส่วนที่เหลืออีก 7 เขตคือ นครพนม 5 เขต สกลนคร 2 เขต ได้โอนเงิน 1.4 แสนให้นายสุขสันต์ โดยได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาประดิพัทธ์ จากนั้นได้เดินทางไปต่างจังหวัด และก็ได้รับการติดต่อให้มาลงสมัครในเขต 29 บางกอกน้อย โดยได้รับการยืนยันว่าไม่ต้องไปทำอะไร จนถึง 10 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง เพราะจะมีผู้ใหญ่ไปช่วยจัดการให้ได้รับเลือกตั้ง ส.ส. รวมถึงจะได้เป็นประธานกรรมาธิการในสภาฯหลังจากที่ได้เข้าไปเป็น ส.ส.แล้ว โดยตนก็ตกลงรับคำ


กลัวตายเพราะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่าย



เอกสารทั้งหมดได้มอบให้กับนายสุเทพแล้ว โดยเหตุผลที่นำมาบอกเพราะกลัวความปลอดภัย เพราะเริ่มมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายที่ไม่เป็นไปตามที่ตกลง ที่ว่าจะให้ 1 แสน 3 แสน 5 แสน และ 1 ล้านบาท ซึ่งเป็นชื่อผมทั้งสิ้น เมื่อทบทวนดูแล้วสิ่งที่ทำลงไปทั้งหมด เป็นความผิดทางกฎหมายจึงกลัวความผิด และหันมาขอพึ่งคุณสุเทพเพราะเห็นว่าเป็นที่ไว้ใจได้ เพื่อฝากความปลอดภัยของชีวิตและครอบครัว ในการต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ที่สำคัญผมเป็นคนเดือนตุลา ควรมีความรับผิดชอบจึงต้องการต่อสู้ระบอบทักษิณ โดยครั้งแรกที่ตัดสินใจลงสมัครเพราะเข้าใจผิดว่าเป็นโอกาส แต่หลังจากมาสมัครแล้วจึงไม่ต้องการเป็นเสาเข็มให้ระบอบทักษิณเข้มแข็ง ผมจึงขอเรียกร้องให้พรรคเล็กทั้งหลายที่ทำงานให้เขาถอนตัวเถอะครับ เพื่อเสียสละเพื่อช่วยประเทศชาติและแผ่นดิน นายชวการกล่าว


เผยขั้นตอนการปลอมแปลงเอกสาร กกต.



นายสุขสันต์กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 49 ได้รับ การประสานจากนายชวการ ในการร่วมมือกันหาตัวผู้สมัครในพื้นที่เป้าหมาย โดยนายชวการได้โทรศัพท์ไปหาที่ จ.นครพนม เพื่อให้กลับกรุงเทพฯพร้อมกับนายทวีศักดิ์ มาพบกันที่ห้อง 426 โรงแรมกานต์มณี เพื่อวางแผนปฏิบัติงาน ต่อมาในวันที่ 3-6 มี.ค.ได้รับเอกสารผู้สมัคร โดยมีผู้ช่วยประสานงานคือ น.ส.มณฑิราพร ทำหน้าที่กรอกใบสมัครทั้งหมด โดยเว้นวันและหมายเลขรหัสประจำตัวผู้สมัครไว้ ด้วยการนำเอกสารแฟกซ์ไปลบหมายเลขโทรศัพท์ออก

จากนั้นในคืนวันที่ 6 มี.ค. ได้รับแผ่นดิสก์จาก กกต.เพื่อนำมาแก้ไขสมาชิกพรรค โดยสมาชิกพรรคพัฒนาชาติไทยที่รายงานต่อ กกต. เมื่อสิ้นเดือนมกราคม 49 มีจำนวน 500 คน และได้มีการเปลี่ยนข้อมูลที่ห้อง 203 โรงแรมกานต์มณี และได้นำรายชื่อผู้สมัครเข้าไปสวมในฐานข้อมูลผู้สมัครสมาชิกพรรคจำนวน 86 ราย แต่ยังคงเหลือหมายเลขสมาชิกภาพไว้และนำส่ง กกต.ในช่วงดึกของวันที่ 6 มี.ค. และในช่วงเช้าวันที่ 7 มี.ค.ได้ให้ น.ส.มณฑิราพรเข้าไปตรวจดูรายชื่อที่แก้ไขไว้ในอินเตอร์เน็ตที่ร้านข้างโรงแรม ในซอยประดิพัทธ์ 19 เวลาประมาณ 09.00-10.00 น. ปรากฏว่าทั้ง 86 คนเป็นสมาชิกภาพถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นให้หัวหน้าพรรคพัฒนาชาติไทยเซ็นรับรองการเป็นสมาชิกพรรค และมีการจ่ายเงินโดยคณะทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์ ให้หัวละ 2 หมื่นบาท

มอบหลักฐานการทำทุจริตให้ สุเทพ



นายสุขสันต์กล่าวว่า พอถึงวันที่ 8 มี.ค. เหลือผู้สมัครอีก 7 เขต คือนครพนม 5 เขต สกลนคร 2 เขต มีการโอนเงินผ่านธนาคารกสิกรไทย สาขานครพนม จำนวน 140,000 บาท แต่คณะทำงานของ พล.อ.ธรรมรักษ์ แจ้งว่าจะไม่ส่งผู้สมัครลงทั้ง 5 เขต และที่สกลนครก็มีผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว จึงไม่ส่งและได้โอนเงินกลับในวันที่ 11 มี.ค. ซึ่งเอกสารแฟกซ์ การรับสมัครทั้งหมด รวมถึง หลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับ การทุจริตเลือกตั้ง ได้มอบให้กับนายสุเทพแล้ว เพราะเกรงว่าจะมีความไม่ปลอดภัย ผิดกฎหมาย จึงต้องนำเรื่องมาร้องเรียนเพื่อให้รับช่วยเหลือ เพราะก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 47 ก็เคยถูกเอ็ม 16 ยิงถล่มบ้านมาแล้ว

น.ส.มณฑิราพรกล่าวว่า เป็นคนกรอกใบสมัคร และเตรียมหลักฐานให้ผู้สมัครทั้ง 86 ราย มีผู้สมัครตัวจริง 33 เขต และไม้ประดับอีก 53 คน


เรียกร้อง วาสนา ให้คิดถึงศักดิ์ศรี



นายสุเทพกล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไทยรักไทย อย่าคิดมาประทุษร้ายเอาชีวิตและครอบครัวของพยาน เพราะจะไม่ยินยอมอีกต่อไป จะพยายามดูแลอย่างเต็มที่ หากพยานพวกนี้เป็นอะไรไปทั้งหมดก็อยู่ประเทศไทยไม่ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม จะยังไม่เปิดเผยว่า กกต.คนไหน มีส่วนร่วม เพราะจะให้โอกาส กกต. โดยเฉพาะ พล.ต.อ.วาสนา เพิ่มลาภ ประธาน กกต. ให้คิดถึงศักดิ์ศรีและองค์กรของตัวเอง ด้วยการลุกขึ้นมาทำความสะอาด สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่าเป็นองค์กรอิสระอย่างแท้จริง ไม่อยู่ภายใต้ระบอบทักษิณ โดยได้มอบหมายให้นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ นำเอกสารเหล่านี้ไปมอบให้ กกต.เพื่อรีบดำเนินการ

ให้เวลานายกฯตัดสินใจ 24 ชั่วโมง



ฝากไปถึง พล.ต.ต.เอกชัย วารุณประภา เลขาธิการ กกต. ให้หยุดพูดได้แล้ว เพราะถูกประจานทั้งประเทศยังไม่รู้จักอับอาย หมดเวลาเล่นลิ้นแล้ว แทนที่จะกลับไปตรวจดูว่าแผ่นดิสก์หลุดออกมาได้อย่างไร พร้อมเรียกร้องไปถึงคนที่สั่งการว่า ควรสำนึกได้แล้วเพราะโตๆกันแล้ว หาก กกต.ยังไม่ทำอะไรถึงคราวต้องเลิก กกต. จะให้เวลาท่านนายกฯ 24 ชั่วโมง ถ้ายังไม่ทำอะไร ผมจะเปิดเผยรายชื่อรองหัวหน้าพรรคคนอื่น ที่ดำเนินการ แบบนี้กับพรรคเล็กๆอีกหลายพรรค ถ้าท่านยังเชื่อหมอมิ้งหรือลิ่วล้อ หรือมัวแต่ไปทำไสยศาสตร์กับเนวิน หยุดได้แล้ว ให้กลับมาดูแลบ้าน การขี่ช้างงาไม่ทำให้ชนะหรอก ให้กลับมาดูของจริงยังมีอีกเยอะ กำลังรวบรวมอยู่ ส่วนที่ขู่ว่าจะฟ้องผมก็รีบฟ้องมาเลย มัวแต่เงื้อง้างรำพึง รำพันอยู่นั่น ไม่เช่นนั้นผมจะฟ้องเอง นายสุเทพกล่าว

ฉุน สุเทพ ปล่อยข่าวเลอะเทอะ



พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่ สบอารมณ์ว่า โอ้โห ยิ่งไปกันใหญ่แล้ว ยิ่งเลอะเทอะใหญ่ แล้วเวลานี้ เมื่อถามว่าพรรคไทยรักไทยต้องชี้แจงอะไรหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่า ทางทีมงานกำลังชี้แจงอยู่ เมื่อถามว่า เรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อคะแนนนิยมของพรรคไทยรักไทยหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมตอบคำถามพร้อมกับรีบเดินเลี่ยงหนีขึ้นรถไปทันที

มั่นใจ 3 แกนนำเคลียร์ข้อคาใจได้



คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รมว.เกษตรฯ และรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ใหญ่ในพรรคทั้ง 3 คนที่ถูกกล่าวหา คือ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา น.พ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อพรรคแล้วว่า ไม่ได้ดำเนินการตามที่ถูกกล่าวหา และจะฟ้องร้องกลับคนกล่าวหา เรื่องเหล่านี้สามารถพิสูจน์ความจริงได้ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงต้องฟ้องร้อง ขณะนี้มีหลายเรื่องที่ทำให้ พรรคเสียหาย เดิมพรรคเห็นว่าหากเรื่องใดเล็กน้อยไร้สาระจะไม่ตอบโต้ เพราะไม่ต้องการให้คนเบื่อการเมือง แต่ต่อไปนี้จะต้องรีบเคลียร์ประเด็นปัญหาให้เร็ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.ได้ตัดสิทธิการรับสมัครของผู้สมัครพรรคเล็กๆจำนวนมาก แสดงให้เห็นว่าข้อมูลฝ่ายค้านมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ คุณหญิงสุดารัตน์ตอบว่า ถ้าพูดตามหลักการ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามี ส.ส. พรรคเล็กๆสมัคร 20 กว่าพรรค พรรคเล็กๆเหล่านี้คงคิดว่ามีความหวังในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะหลายพรรคไม่ส่งผู้สมัคร ดังนั้น สิ่งที่พรรคเล็กๆดำเนินการก็เป็นเรื่องของแต่ละพรรค อย่ามาโยงว่าเป็นเรื่องของพรรคไทยรักไทย ต่างคนต่างดำเนินการไป

ธรรมรักษ์ ฉุนขู่กระทืบคนปูดข่าว



พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ในฐานะประธาน ส.ส.ภาคอีสาน กล่าวว่า ไม่ได้สนใจเพราะไม่เคยจ่ายเงินจ่ายทองให้ใครทั้งสิ้น เราไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วยจะเอาตัวเองไปเสี่ยงทำไม เพราะมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลเฉพาะผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสานเท่านั้น อาจจะเป็นไปได้ที่เขาต้องการเลือกทำลายเป้า หมายหลัก และเป็นเป้าหมายหลักคนหนึ่งที่ทางพรรคประชาธิปัตย์คอยจ้องทำลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ได้กล่าวกับคนใกล้ชิดว่า วันนี้รู้สึกปวดหัวมากไม่อยากสนใจอะไรแล้ว ถ้าใครมาเอาไปเกี่ยวข้องด้วยระวังจะโดนกระทืบ ทั้งนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ระบุด้วยว่า ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ จะมีการประชุมแกนนำการเมืองของพรรคไทยรักไทย โดยจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมด้วย อย่างไร ก็ตาม ตลอดทั้งวัน พล.อ.ธรรมรักษ์ได้ปิดโทรศัพท์มือถือ และไม่ยอมรับสายใครๆทั้งสิ้น

ไล่ส่ง จำลอง กลับไปเลี้ยงหมาดีกว่า


พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ที่ผ่านมาแม้จะยุบสภาไปแล้ว แต่คนกลุ่มนี้ก็ไม่ยอมรับ พยายามคิดว่าตัวเองฉลาดกว่าคนไทยทั้งประเทศ ชอบตัดสินใจแทนคนไทย ไปยืนและนั่งเกะกะ แม้กระทั่งงานกาชาดก็ยังบอกว่า ไม่สำคัญเท่าการกู้ชาติ

ไอ้พวกบอกว่าไปกู้ชาติ ทั้งชีวิตไม่ได้ทำมาหากินอะไร เป็นบุคคลล้มละลายไปแล้วรอบหนึ่ง ส่วนมหาจำลองก็เลี้ยงหมา 2,000 กว่าตัวยังไม่รอดเลย เที่ยวไปขอข้าวสารคนอื่นไปเลี้ยงหมา วันนี้มาบอกว่าจะกู้ชาติก็เลยไม่เข้าใจ ผมว่าไปเลี้ยงหมา 2,000 กว่าตัวก่อนจะดีกว่า พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว

หัวหน้าพรรคไทยรักไทยกล่าวต่อว่า คิดว่าถึงเวลาแล้วที่ประชาชนต้องบอกกับไอ้พวกที่เดินขบวนอาชีพทั้งหลายว่า ประชาธิปไตยเป็นของประชาชน ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มพวกเอ็ง วันที่ 2 เม.ย. ขอให้ประชาชนไปใช้สิทธิให้ถล่มทลาย ถ้าอยากใช้ตนต่อให้เลือกเบอร์ 2 ถ้าไม่อยากใช้ต่อให้งดออกเสียงหรือเลือกเบอร์อื่น ถ้าพรรคไทยรักไทยได้คะแนนไม่ถึงครึ่งจะไม่ขอเป็นนายกฯ อย่างไรก็ตามจะเป็นนายกฯหรือไม่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับประชาธิปไตยถูกเว้นวรรค ถ้าประชาธิปไตยถูกเว้นวรรคก็ตัวใครตัวมัน

นิมนต์กลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯให้ไปที่ชอบๆ



ประชาธิปไตยกับความเชื่อถือเป็นของคู่กัน ถ้าประชาธิปไตยถูกเว้นวรรค ความน่าเชื่อถือก็หายไป กล้ายืนยันว่า ถ้าประชาธิปไตยถูกเว้นวรรคเมื่อใด รถไฟฟ้า 300 กิโลเมตรเกิดไม่ได้แน่นอน ไม่มีใครเอาเงินมาให้ เพราะเขาไม่เชื่อถือ หน้าตาอย่างนายสนธิหรือ พล.ต.จำลอง ประเทศไหนจะนำเงินมาให้ หรือหน้าตาอย่างนายอภิสิทธิ์ ทั้งชีวิตทำอะไรมาบ้าง

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า อยากให้พลังเงียบเป็นพลังรักษาประชาธิปไตย ไม่ขอเรียกร้องให้มาเลือกตน แต่เรียกร้องให้รักษาประชาธิปไตย จะเลือกใครก็ได้ แต่ขอให้ประชาธิปไตยยังอยู่ ไม่ใช่ว่าประชาธิปไตยต้องถูกเว้นวรรค เพราะไอ้พวกบ้า 2-3 คน โดยไม่รักษากติกา วันนี้ปัญหาจราจรรถติดไปหมด คนพวกนี้ไม่คิดอะไรมาก บอกคนอยู่ในรถติดแอร์ อย่ามาบ่น แต่คนของเขาร้อนกว่าตั้งเยอะยังไม่บ่น ก็ใครใช้ให้มาละว่ะ อยากนิมนต์ให้ไปที่ชอบๆอยู่แล้ว

ขาด ทักษิณ ประเทศไทยไปไม่รอด



พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ประชาธิปไตยเป็นสิ่งมีค่าที่สุด ถ้าขาดไปเมื่อใด เศรษฐกิจประเทศทรุดทันที กล้ายืนยันว่า ถ้าหันหลังให้ประชาธิปไตยแค่ 2-3 เดือน เงินจะไหลออกจากประเทศ และเจอไอเอ็มเอฟรอบสองแน่ วันนี้ต้องเอาชาติไว้ก่อน เรื่องของตนเรื่องเล็ก ไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่เดือดร้อน แต่ปัญหาคือชาติไปไม่รอด ถ้าประชาธิปไตยไปไม่รอด ชาติเจ็บ ไอ้พวกนี้ไม่รู้สึกอะไรมาก จำลองก็กลับไปเลี้ยงหมา 2,000 กว่าตัว ตนพร้อมยืนเคียงข้างประชาชนทั้งประเทศ เพื่อรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยเพื่อคนไทยและประเทศไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวปราศรัยจบแล้ว ได้ขึ้นไปพักผ่อนและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อาคารใบหยก 2 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะเดินลงมารับดอกไม้จากประชาชนที่มารอให้กำลังใจอยู่ที่หน้าตึกอีกรอบ จากนั้น พ.ต.ท.ทักษิณได้เดินทางไปร่วมงานศพนายศุภชัย อัมพุช ผู้บริหารเครือเดอะมอลล์กรุ๊ป ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์