ซัดแก๊งออฟโฟร์ปชป. อำนาจล้น! ส.ส.ขู่นำชาวบ้านคืนบัตรสมาชิก กลุ่มอกหักใช้คลื่นใต้นำลุยมาร์ค-เทพ


ส.ส.อกหักโผล่โวยอีก แฉมีแก๊งออฟโฟร์ ปชป. คอยล็อบบี้หนุนคนขึ้นเป็น รมต. ขู่นำชาวบ้านคืนบัตรสมาชิกพรรค เผยในพรรคป่วนหนัก ถึงขั้นคิดตั้งกลุ่มใต้น้ำต้าน พุ่งเป้ารื้อ กก.บห.พรรคใหม่ "อภิสิทธิ์-สุเทพ" รุมปัด ตั้ง"วีระชัย"ต่างตอบแทน อ้างไม่เคยเห็นตัวเลขบริจาค 80 ล้าน ท้าสาบานไม่มีใครจ่ายซื้อตำแหน่ง 
 
ส.ส.อกหักแฉ"แก๊งออฟโฟร์ปชป."

เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) หลังการจัดสรรตำแหน่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะผู้ที่พลาดหวังตำแหน่ง ซึ่งถูกคนนอกพรรคเบียดแย่งเก้าอี้ไปครอง จนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรค ต้องคอยออกมาให้สัมภาษณ์สยบแรงกระเพื่อมที่เกิดขึ้น
 
ไม่เพียงแต่นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เท่านั้นที่ออกมาเปิดโปงเบื้องหลังการพลาดเก้าอี้รัฐมนตรี
 
ล่าสุด นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ส.ส.ประจวบคีรีขันธ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ว่า ขณะนี้ได้เกิดแก๊ง ออฟ โฟร์ ในพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นแล้ว ประกอบด้วย นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู  รองเลขาธิการพรรค นางอัญชลี วานิช เทพบุตร เหรัญญิกพรรค นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรค และนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ เนื่องจากมีการล็อบบี้กรรมการบริหารพรรค ซึ่งมีทั้งหมด 19 เสียงให้สนับสนุนบุคคลที่จะขึ้นมาเป็นรัฐมนตรี และนับจากนี้แนวทางของพรรคจะเดินไปทางใด ขึ้นอยู่กับ 4 คนนี้
 
นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ในวันที่มีการโหวตเลือกผู้ที่จะได้เป็นรัฐมนตรี รายชื่อทั้งหมดอยู่ในมือนายสุเทพตลอด และมีการแจกโผดังกล่าว ให้คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคน แต่ตนกลับเป็นกรรมการบริหารคนเดียว ที่ถูกอุ้มไปเชือด เนื่องจากในวันดังกล่าว มีการเชิญกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุม เพื่อโหวตเลือกผู้เหมาะสม ยกเว้นกรรมการบริหารพรรคที่มีส่วนได้เสีบจะให้ออกจากที่ประชุม 

"ผมก็ถูกเชิญออกจากที่ประชุม หลังการประชุมเสร็จกลับไม่มีการแจ้งผลของมติที่ประชุมให้ทราบ จึงสอบถามหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับคำตอบ ก็หมายความว่ามาทิ้งกันกลางอากาศ แต่นายอภิสิทธิ์ตอบผมได้คำเดียว คือ ขอโทษ" นายเฉลิมชัยกล่าว

ยกกองเชียร์ขู่คืนสมาชิกพรรค
 
"หลังเหตุการณ์ความวุ่นวาย มีกลุ่มส.ส.และสภาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกระดับ ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทราบข่าว และโทรศัพท์มาสอบถามข้อเท็จจริง พร้อมทั้งจะนำมวลชนมาชุมนุมที่หน้าพรรค ผมห้ามไว้ แต่ทั้งหมดยังมีความต้องการคืนบัตรสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อลาออกจากสภาชิกพรรค แต่ผมก็ขอให้ทุกฝ่ายใจเย็น เพราะผมกล้าพูดได้ว่า ส.ส.ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากไปที่ไหน ทุกพรรคอ้าแขนรับ" นายเฉลิมชัยกล่าว
 
นายทรงเกียรติ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกอบจ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ภายหลังทราบมติกรรมการบริหารพรรค  สมาชิกองค์กรบริหารส่วนท้องถิ่นประจวบคีรีขันธ์ ได้ส่งทีมขึ้นมารับ ส.ส .ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายเฉลิมชัย นายประมวล พงศ์ถาวราเดช  นายมนตรี ปาน้อยนนท์  กลับพื้นที่ เนื่องจากต้องการคำตอบ และเหตุผลที่ดีพอจากผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ว่าเหตุใด นายเฉลิมชัย รองหัวหน้าภาคอันดับ 1 ซึ่งมีชื่อติดโผรัฐมนตรีมาตลอดจึงไม่มีชื่อ
 
"นายเฉลิมชัยยังถือว่ามีความพร้อมมากกว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ไม่มีผลงานอะไรเลย ที่ผ่านมาทีมการเมืองประจวบคีรีขันธ์ทุกระดับ ใช้เวลา ทุ่มเทกว่า 10 ปี ที่จะปักธงในจังหวัดนี้ได้ทั้งหมดทุกระดับ เรียกว่าเราเป็นทีมการเมืองที่ดำเนินงานการเมืองของจังหวัด ในทิศทางเดี่ยวกัน ที่เรียกว่าประจวบคีรีขันธ์ โมเดล ขณะนี้มีสมาชิกพรรคหลายหมื่นคน จะขอคืนบัตรสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ หากไม่ได้รับคำตอบที่ดีพอจากผู้ใหญ่ในพรรค" นายทรงเกียรติกล่าว

วิพากษ์3รมต.อาวุโสไม่มากพอ
 
รายงานข่าวจากกลุ่มส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่พลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรี แจ้งว่า สมาชิกพรรคจำนวนมาก ข้องใจถึงการแต่งตั้งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรค อาทิตำแหน่งของ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์  นายธีระ สลักเพชร  และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เนื่องจากบุคคลทั้ง 3 ถือว่ายังไม่มีอาวุโสเท่าที่ควร และไม่ได้ทุ่มเททำงานให้พรรคอย่างเต็มที่ ในขณะที่กลุ่มคนที่อยู่กับพรรคมานาน ทำงานด้วยความทุ่มเทอย่าง นายนิพิฏฐ์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ กลับไม่ได้รับการตำแหน่ง
 
รายงานข่าวแจ้งว่า กรรมการบริหารพรรคซักถามนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ระหว่างการสัมมนาที่เกาะสมุย ถึงเหตุผลในการคัดเลือกบุคคลเป็นรัฐมนตรี ทำให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง เพราะหลายคนมีความอาวุโสน้อย และหลายคนไม่ได้ช่วยงานพรรคอย่างเต็มที่ แต่ทางนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ยังคงยืนยันในโควตาเดิม ที่แจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคทราบ ทำให้ส.ส.บางกลุ่ม ถึงกับตะโกนในห้องประชุมด้วยความไม่พอใจว่า หากเป็นเช่นนี้ให้ย้ายไปอยู่พรรคอื่น

น้อยใจคิดเป็นคลื่นใต้น้ำคอยป่วน
 
นอกจากนี้  ส.ส.กลุ่มหนึ่งยังหารือกันด้วยความน้อยใจ ถึงขั้นคิดอยากตั้งกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการบริหารงานของนายอภิสิทธิ์และนายสุเทพในลักษณะคลื่นใต้น้ำ เพื่อให้กลุ่มผลัดใบของนายอภิสิทธิ์ ไม่สามารถบริหารพรรคได้ เพื่อส่งผลให้ มีคณะบริหารพรรคชุดใหม่ เนื่องจากไม่อยากให้อำนาจบริหารพรรค เบ็ดเสร็จอยู่กับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ ขณะที่ส.ส.ของพรรคภาคอื่นยกเว้นภาคใต้ เริ่มพูดคุยกันถึงเรื่องแยกตัวออกจากพรรค 
 
ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์พยายามโทรศัพท์ติดต่อส.ส.ที่พลาดเก้าอี้เพื่อขอเคลียร์ แต่ส.ส.เหล่านั้นไม่ยอมรับโทรศัพท์ ขณะที่นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ที่เกิดความรู้สึกไม่เป็นธรรม และเตรียมเดินทางไปสหรัฐอเมริกา

"มาร์ค"ปัดตั้ง"วีระชัย"ต่างตอบแทนนายทุน
 
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธนายทุนครอบงำพรรค และไม่มีเรื่องต่างตอบแทน หลังจากนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความไม่พอใจ ที่คณะผู้บริหารพรรคเห็นชอบเสนอชื่อนายวีระชัย วีระเมธีกุล หรือเขยซีพี (เครือเจริญโภคภัณฑ์) ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแทนที่นายนิพิฏฐ์ โดยเชื่อการผลักดันครั้งนี้ เป็นเพราะนายวีระชัยบริจาคเงินให้พรรค 80 ล้านบาท
 
ในการให้สัมภาษณ์เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนออกเดินทางไปร่วมงานสัมมนาส.ส.พรรคที่อ.เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ความจริงก็น่าเห็นใจนายนิพฏฐ์และส.ส.อีกหลายคน ที่ไม่ได้รับตำแหน่งในครม.ชุดนี้ แต่ในกรณีนี้ ไม่ใช่ว่ามีนายทุนเข้ามาครอบงำพรรค การบริจาคเงินให้พรรคก็เป็นไปตามระเบียบของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และขอยืนยันได้ว่า ไม่มีเรื่องต่างตอบแทนอย่างแน่นอน
 
"ยังไม่ทราบว่ารัฐมนตรีคนหนึ่งไปเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนนั้น ความสัมพันธ์ของบริษัทกับการเมืองเป็นอย่างไร ต้องดูข้อเท็จจริงด้วย" นายอภิสิทธิ์กล่าว

อ้างไม่รู้เรื่องบริจาค-ต้องดูรายนาม
 
นายกฯกล่าวตอบคำถาม ยืนยันได้หรือไม่ว่านายวีระชัย ไม่เกี่ยวข้องกับซีพี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงตัวบุคคล เพราะยังไม่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งฯ ส่วนเรื่องที่นายนิพิฎฐ์ระบุ ทำนองนายธีระชัยได้รับการเสนอชื่อ เนื่องจากบริจาคเงินให้พรรคประชาธิปัตย์ 80 ล้านบาท ว่า คงไม่ใช่ แต่ก็ต้องไปดูรายนามผู้บริจาค ซึ่งพรรคทำตามระเบียบของกกต.ทุกอย่าง
 
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า คงต้องคุยกับนายนายนิพิฎฐ์ และจริงๆ แล้วก็เห็นใจ รวมทั้งกรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรคอีกหลายคนที่ไม่ได้รับตำแหน่ง แต่ก็ต้องเข้าใจว่าการทำงานสามารถทำในจุดใดก็ได้ และก็ยังมีโอกาสที่จะได้ทำงานอยู่อีก แต่คงอาจจะเป็นการน้อยใจที่ไมได้แสดงฝีมือ แต่ขอยืนยันว่าการเสนอชื่อครม.ในส่วนของพรรค ได้ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคแล้ว
 
ส่วนเรื่องที่ฝ่ายค้านจ้องโจมตีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มีความเชื่อมโยงกับพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ถูกกล่าวหาอยู่เบื้องหลังล็อบบี้ และร่วมจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอยังไม่พูดถึงตัวบุคคล แต่ฝ่ายค้านเองก็มีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์

"ผมในฐานะหัวหน้ารัฐบาลก็ต้องชี้แจง รัฐมนตรีที่ถูกโจมตีก็ต้องชี้แจง ตามที่เรามั่นใจในเหตุผลของเรา ส่วนจะเห็นด้วยหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องปกติ"นายอภิสิทธิ์กล่าว

ไม่ต้องผ่อนเพราะไม่เป็นหนี้ใคร
 
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมสัมมนา ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ที่โรงแรมอิมพีเรียล โบ้ตเฮ้าส์ อ.สมุย จ.สุราษฏร์ธานีด้วยว่า "ไม่มีการครอบงำจากกลุ่มทุน การบริจาคเงินเป็นไปตามกฎหมาย เราไม่เป็นหนี้ใคร จึงไม่ต้องผ่อนชำระเหมือนที่นายนิพิฎฐ์ ระบุว่าจะต้องผ่านเดือนละ 500 บาท"
 
ผู้สื่อข่าวถาม มั่นใจอย่างไรว่านายวีรชัย จะไม่มีแสวงการหาประโยชน์ให้กับพวกพ้อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าทุกคนจะต้องพร้อมให้ตรวจสอบเรื่องความเกี่ยวข้องกับกลุ่มต่างๆ และต้องยืนยันไม่มีประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้ไม่ว่ากระทรวงใด พรรคหรือกลุ่มใด ก็ต้องทำงานตามรัฐบาล ถ้าไม่ทำตามรัฐบาลก็อาจต้องมีการเปลี่ยนแปลง

"ผมไม่ตำหนิใครเลยที่แสดงความคิดเห็นออกมา น้อมรับคำวิจารณ์ แต่เป็นการตัดสินใจที่ผมอธิบายเหตุผลว่าขอให้มีเสถียรภาพทางการเมือง เพื่อให้เดินหน้าต่อไปได้" นายกฯ กล่าว

มีอะไรให้พูดอย่าไปบอกนักข่าว
 
จากนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวกับส.ส.ระหว่างร่วมสัมมนาว่า การจัดโผครม.ในพรรคประชาธิปัตย์ มีทั้งผู้ผิดหวังและสมหวังแต่ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องกลุ่มทุนเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะพรรคมีขั้นตอนในการรับบริจาคเงิน และรายงานกกต. การเป็นรัฐบาลหากไม่ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อน ส.ส. ก็ไม่สามารถทำงานได้ และวันนี้เมื่อเป็นรัฐบาลจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอด ผิดกับที่เป็นฝ่ายค้านที่ตรวจสอบอย่างเข้มข้น
 
"วันนี้อยากให้ทุกคนปรับวิธีการทำงานและการพูดจาที่ต้องไม่ไปทะเลาะกับคนอื่นไม่เช่นนั้นจะทำให้มีปัญหาในการทำงาน และพร้อมที่จะเสียสละ จากนี้ไปผมและเลขาธิการพรรคคงมีภารกิจมากขึ้นในแง่การบริหาร ดังนั้นหากมีอะไรก็ให้บอก อย่าเก็บไว้ในใจหรือไปปรับทุกข์กับนักข่าว ซึ่งก็จะทำให้เข้าใจและแก้ปัญหาได้ ซึ่งการเป็นนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคไม่ใช่เรื่องง่ายในสถานการณ์ขณะนี้ แต่ก็จะต้องทำงานให้ดีเหมือนกับที่รับอาสาประชาชนเข้ามา" นายอภิสิทธิ์กล่าว

"สุเทพ"อ้างไม่รู้80ล้าน-ท้าสาบาน
 
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์  กล่าวก่อนเข้าร่วมสัมมนาว่า ความไม่พอใจที่เกิดขึ้นจากการจัดโผครม.คงจะมีการแสดงความเห็นอยู่บ้าง แต่การไปพูดนอกพรรค ทำให้ดูขึงขังไปหน่อย ทั้งนี้ยังไม่ได้พูดคุยอะไรกับนายนิพิฏฐ์ แต่เชื่อว่าคงจะเข้าใจได้ และจะไม่ทำให้เสียคนทำงาน
 
"สำหรับเรื่องเงินจำนวน 80 ล้านบาทที่นายนิพิฎฐ์กล่าวอ้างนั้น  ผมไม่ทราบ เรื่องนี้ไม่มี ผมไม่เคยเห็นตัวเลขเงิน ซึ่งคงต้องสอบถามนายนิพิฎฐ์ว่าเป็นเงินอะไรและสงสัยใคร ถ้าสงสัยผมจะได้ชี้แจง ผมขอสาบานว่าไม่มีใครซื้อตำแหน่งได้ในพรรคประชาธิปัตย์ หากมีคนยืนยันได้ ผมพร้อมลาออกทันที ไม่ต้องพิสูจน์ ขอแค่คนออกมายืนยันผมจะออกจากตำแหน่งทั้งหมดทั้งเลขาธิการพรรคด้วย คิดว่าการที่นายนิพิฎฐ์พูดเป็นการเข้าใจผิด และไม่คิดว่าจะกล่าวหาผม” นายสุเทพ กล่าว

ปลอบ"วีระชัย"-เจ้าตัวไม่ถอดใจ
 
ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่นายนิพิฎฐ์เรียกร้องให้นายวีระชัย ออกมาแสดงตัว นายสุเทพ กล่าวว่า ที่จริงทุกคนต้องแสดงตัวอยู่แล้ว แต่นายวีระชัยมีความสามารถในการทำธุรกิจ รู้จักกันมา 10 ปี เชื่อว่าสามารถช่วยงานพรรคได้ เมื่อถามว่านายวีรชัยอึดอัดหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า "ได้โทรศัพท์ไปคุยแล้ว ได้บอกเขาว่ามีเสียงวิจารณ์ก็ต้องอดทน ซึ่งนายวีรชัยก็ยังยืนยันจะเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแน่นอน"
 
นายสุเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.กทม. อาจได้รับการผลักดันเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฏรได้วยว่า ไม่น่าห่วง ไม่กลัว ถ้าได้ฝ่ายค้านที่เข้มแข็งก็จะทำให้รัฐบาลทำงานเข้มแข็งยิ่งขึ้น ถ้าเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ยินดี เพราะทำการบ้านไว้แล้ว

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์