ไข้หวัดใหญ่เดิมดื้อยา

โอเซลทามิเวียร์ไร้ผล! ส่วนหวัด 09 ระบาด 15 จว.

"อภิสิทธิ์" จี้กระทรวงสาธารณสุข รณรงค์เร่ง ป้องกันหวัดใหญ่ 2009 ถาม รมว.สาธารณสุข จะเอายังไงแน่เรื่องการแถลงยอดคนตาย ขณะที่หวัดพันธุ์ใหม่ยังระบาดใน 15 จังหวัดเหนือ-อีสาน เผยโรงเรียน 1 พันแห่ง สังกัด สพฐ. ขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ ส่งผลมาตรการควบคุมโรคหวัด 2009 ล้มเหลว แพทย์รามาธิบดีเผย ไข้หวัดธรรมดาเริ่มระบาด โอเซลทามิเวียร์ไร้ผล เพราะเชื้อพันธุ์เดิมดื้อยาแล้ว 100%

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานอนุกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่   2009   สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการทำงานป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ที่  อบต.แม่ถอด  อ.เถิน  จ.ลำปาง  ซึ่งเป็นชุมชนตัวอย่างในการจัดการตัวเองป้องกันไข้หวัดใหญ่  2009  ที่ไม่มีผู้ป่วยเสียชีวิต ว่า ขณะนี้สถานการณ์การระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 ในภาคเหนือตอนบนและภาคอีสาน มีอัตราผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี เชียงใหม่ ลำพูน แพร่ ลำปาง เพชรบูรณ์ ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ทำให้จำเป็นต้องเร่งใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดขึ้น

นพ.มงคลกล่าวด้วยว่า ได้รับข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า มีโรงเรียนในสังกัด สพฐ.กว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ มีปัญหาขาดแคลนน้ำดื่ม น้ำใช้ อาจส่งผลกระทบต่อการป้องกันโรคไข้หวัดได้ เพราะนักเรียนและครูไม่มีน้ำใช้ล้างมือได้อย่างเพียงพอ จากการตรวจสอบปัญหาขาดแคลนน้ำของโรงเรียนใน จ.ลำปาง พบว่าขาดแคลนน้ำมากถึง 40 แห่ง ทั้งนี้ จะมีการตรวจสอบไปยังโรงเรียนในจังหวัดอื่นๆ ด้วย เพื่อเร่งหาทางแก้ปัญหาต่อไป

ด้าน พญ.สยมพร ศิรินาวิน ภาควิชากุมารแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ขณะนี้พบว่าในประเทศไทย เริ่มมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการระบาดไปพร้อมๆ กับโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้วย โดยอาการป่วยของโรคไข้หวัดใหญ่ทั้ง 2 ชนิด มีอาการคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างกันในเรื่องของการรักษา โดยไข้หวัดใหญ่ 2009 สามารถใช้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์และซานามิเวียร์รักษาหายขาดได้ ขณะที่ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ไม่สามารถใช้ยาทั้ง 2 ชนิดนี้รักษาได้ เพราะเชื้อไวรัสดื้อยาแล้ว 100% ประกอบกับแพทย์ไม่สามารถตรวจหาเชื้อให้กับผู้ป่วยทุกรายได้ เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง ดังนั้นจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ การระบาดในภาพรวมว่ามีเชื้อไวรัสชนิดใดระบาดอยู่

นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีสหรัฐอเมริกามีการแพร่ระบาดไข้หวัดใหญ่ 2009 รอบใหม่รุนแรงกว่าเดิมว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงรายงานข่าวเท่านั้น   ยังไม่มีรายงานจากองค์การอนามัยโลก ไทยได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด ยังไม่มีรายงานความเคลื่อนไหวของการเปลี่ยนแปลง ส่วนสถานการณ์ในไทยตอนนี้ยังคงน่าเป็นห่วง เพราะประชาชนค่อนข้างเคยชินกับโรคไข้หวัด จนไม่ระมัดระวังตัวเอง ถ้าใครที่ยังไม่เป็นไข้หวัดจะไม่มีภูมิคุ้มกัน   และโอกาสที่เป็นจะสูงกว่าคนที่เคยเป็นไข้หวัดแล้ว ฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดประชาชนทุกคนจะต้องเอาใจใส่ดูแลสุขภาพเพื่อไม่ให้มีการติดเชื้อ จนถึงขณะนี้วัคซีนที่มีอยู่ยังคิดไม่เสร็จ เพราะไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังแพร่กระจายอยู่ เพียงแต่ลดความรุนแรง เนื่องจากประชาชนระวังตัวมากขึ้น นอกจากนี้ ไม่อยากให้ประชาชนถกเถียงกับคำว่ากลายพันธุ์ เพราะคำว่ากลายพันธุ์ในความรู้สึก ของนักวิชาการกับความรู้สึกของประชาชนต่างกัน  แต่ความจริงแล้วการกลายพันธุ์เป็นเรื่องปกติในทางวิชาการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 1 ก.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถาม นายวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ถึงการแถลงความคืบหน้า ในการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ว่า ตกลงกระทรวงสาธารณสุขจะเอาอย่างไรแน่ จะมีการแถลงตัวเลขคนเสียชีวิตประจำทุกวันพุธ หรือจะแถลงออกมาเป็นบางช่วงบางจังหวะ นายวิทยาชี้แจงว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการแถลงสรุปสถานการณ์ตามปกติประจำสัปดาห์ แต่ที่ผ่านมามักจะมีตัวเลขหลุดออกมาก่อนจากอนุกรรมการ โดยสถานการณ์การแพร่ระบาดนั้นขณะนี้ ยังถือว่ามียอดการตายเพิ่มขึ้นในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยสัปดาห์ที่แล้วมียอดคนตายเพิ่ม 8 ราย ตัวเลขที่ออกมาเมื่อวันที่ 31 ส.ค. มียอดตายเพิ่มอีก 11 ราย รวมเป็น 130 ราย กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามรณรงค์ อยู่ โดยจะเร่งรัดรณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวมากยิ่งขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์