แพนด้าน้อยเริ่มชันขา 4ข้างทรงตัว

คมชัดลึก :หน.โครงการวิจัย เผย แพนด้าน้อยพัฒนาการก้าวกระโดดพุงป่อง-ท้องตึง น้ำหนักตัวเพิ่มเป็น 325 กรัม เริ่มชันขา 4 ข้างทรงตัว ขณะที่รอบดวงตามีเส้นขีดแบ่งตาบน-ล่างชัดเจน อีก 1 เดือนตาเริ่มเปิด ระบุครบ 45 วันเริ่มมองเห็น ขณะที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากจีน พอใจแพนด้าน้อยแข็งแรงโตวันโตคืน


(6มิ.ย.) เวลา 09.00 น. นายเว่ย หมิง ผู้เชี่ยวชาญจีนและทีมสัตวแพทย์สวนสัตว์เชียงใหม่ ได้แยกแพนด้าน้อยจากหลินฮุ่ย เพื่อนำมาตรวจสุขภาพในตู้อบ โดยวันนี้ อายุแพนด้าน้อยเข้าสู่วันที่ 11 แล้ว ใช้ระยะเวลาในการตรวจประมาณ 15 นาที ระยะเวลาในการตรวจเพิ่มขึ้นจากวันที่ 4 มิ.ย. เนื่องจากหลินฮุ่ยเริ่มเคยชินกับการที่เจ้าหน้าที่แยกแพนด้าน้อย โดยระหว่างที่ทีมสัตวแพทย์ไทยได้ตรวจสุขภาพให้แพนด้าน้อย นายเว่ยหมิง ได้เดินมาสังเกตการณ์อาการหลินฮุ่ยที่วีดีโอวงจรปิดที่อยู่อีกฟาก ซึ่งพบว่าหลินฮุ่ยไม่มีอาการกังวล เพราะเป็นห่วงลูกเหมือนทุกครั้งแต่กลับฉีกไผ่กินอย่างสบายอารมณ์แม้ไม่มีลูกอยู่ข้างกาย
 
 นายประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าในประเทศไทย เปิดเผยว่า แพนด้าน้อยมีสุขภาพที่แข็งแรงและสมบูรณ์มาก โดยมีน้ำหนักตัวกว่า 325 กรัม เพิ่มขึ้นจากการตรวจวัด 2 วันก่อนหน้านี้กว่า 70 กรัม เฉลี่ยเพิ่มขึ้นวันละ 35 กรัม จากก่อนหน้านี้เพิ่มขึ้นเพียงวันละ 17.5 กรัมเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด ทั้ง พุงป่อง ท้องตึง แสดงให้เห็นว่าแพนด้าน้อยสามารถกินนมได้ดีมาก
 
 สำหรับพัฒนาการทางด้านร่างกายอื่น ๆ ก็พบว่าแข็งแรงมากขึ้นด้วยการพยายามทรงตัวด้วยการขันขาทั้ง 4 ข้าง โดยเน้นน้ำหนักไปที่ขาหน้า ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ขาหลังของแพนด้าจะไม่แข็งแรงเมื่อเปรียบเทียบกับขาหน้า และมีขาหลังที่สั้นกว่า จึงไม่สามารถยืนสองขาได้ ทั้งนี้ ช่วงแพนด้าน้อยแรกเกิดจะเป็นช่วงที่ใช้ขาหน้าเป็นหลักในการเคลื่อนตัวและตะกาย เมื่อเข้าสู่ช่วง 3-4 เดือนที่แพนด้าน้อยเริ่มคลาน ขาหลังของแพนด้าน้อยจะมีส่วนช่วยในการเดินมากขึ้นแต่จะไม่แข็งแรงมากนัก
 
 นอกจากนี้ ยังพบว่าบริเวณตาของแพนด้าน้อยมีเส้นแบ่งระหว่างตาบนและตาล่างที่ชัดเจน โดยรอยขีดดังกล่าวเริ่มเปิดทีละข้างเมื่ออายุครบ 1 เดือน แต่จะยังมองไม่เห็น ทั้งนี้ แพนด้าน้อยจะเริ่มมองเห็นจนอายุจะครบ 45 วัน นอกจากนี้ ทีมสัตวแพทย์ยังได้มีการถ่ายภาพเพศของแพนด้าน้อยและทำการบันทึกไว้ เพื่อจดบันทึกลักษณะโดยละเอียด เผื่อในอนาคตจะมีการตกลูกจะได้ทราบลักษณะเพศที่แน่นอนได้
 
 ทั้งนี้ ในส่วนของหลินฮุ่ยก็พบว่ามีอาการกังวลอยู่บ้างเมื่อทีมสัตวแพทย์นำลูกออกไปตรวจร่างกายแต่ก็น้อยกว่าการตรวจครั้งที่ผ่านมา และสามารถยืดเวลาได้ถึง 15 นาทีจากครั้งก่อนเพียง 10 นาทีเท่านั้น โดยระหว่างที่มีการตรวจร่างกายแพนด้าน้อยนั้นฝั่งหลินฮุ่ยก็มีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด ชั่งน้ำหนักตัวได้ 107.5 กิโลกรัม เพิ่มจากก่อนคลอด 0.5 กิโลกรัม แสดงให้เห็นว่าหลินฮุ่ยไม่ได้มีสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมจากการเกิดลูกและเลี้ยงแพนด้าน้อยแต่อย่างใด 
 
 นายประเสริฐศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับสภาพโดยทั่วไปพบว่าทั้งร่ายกายที่สมบูรณ์และสุขภาพจิตที่ดีมาก ไม่มีอาการหวาดระแวงเมื่อพี่เลี้ยงนำลูกมาตรวจร่างกาย แต่สิ่งที่น่าเป็นกังวลต่อจากนี้คือ แพนด้าน้อยที่มีน้ำหนักตัวที่มากขึ้นอาจจะทำให้เมื่อหลินฮุ่ยคาบลูกไปไว้ที่อ้อมอกลำบากมากขึ้น เนื่องจากตัวลูกโตคับปาก ซึ่งหลินฮุ่ยจะนำลูกไปไว้ในอ้อมกอดได้ทุกลักทุเลมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าอีก 1-2 วันจะมีการปล่อยลูกบนพื้นมากขึ้นด้วย
 
 นายเว่ย หมิง กล่าวว่า การตรวจสุขภาพแพนด้าน้อยในวันนี้ เป็นที่น่าพอใจมาก แพนด้าน้อยน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเยอะ แข็งแรงและโตวันโตคืน ส่วนเรื่องที่แยกแพนด้าน้อยออกมาหลินฮุ่ย มีอาการกังวลและกระวนกระวายตามหาลูกอยู่ถือเป็นเรื่องปกติที่แม่จะเป็นห่วงลูกอยู่ ซึ่งบางตัวอาจ จะมีระยะเวลาไม่เท่ากันบางตัวก็นานกว่าจะกังวลถึงลูก แต่บางตัวก็ใช้ระยะเวลาสั้น "ถ้าแพนด้าน้อยไม่แข็งแรงจะโตไวได้ยังไง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์