แชร์ว่อนเน็ตม.ราชภัฎดัง สั่งฆ่าหมาท้องแก่ แก้ปัญหาสุนัขจรจัด

เมื่อวันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการแชร์ข้อความพร้อมภาพ ที่มีผู้ใช้นามแฝงว่า “ท่านหญิงแพรวพรรณราย” ซึ่งได้โพสต์ภาพเหตุการณ์สุนัขท้องแก่ 2 ตัวในสภาพนอนสลบไม่ได้สติ และภาพลูกสุนัขจำนวนหนึ่งพร้อมระบุข้อความ” ราชภัฏสุราษฏร์ สั่งฆ่าหมาท้องแก่ + ฝังทั้งเป็น ขอเสียง vote!!!” นอกจากนั้นยังได้มีการบรรยายภาพ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์เวลาประมาณ 17.00 น. ราชภัฏสุราษฏร์สั่งฆ่าหมาท้องแก่ หมามีเจ้าของหมาพิการ....ยังไม่พอ..ที่ไม่ตายยังเอาไปฝังทั้งเป็น!! นี่หรือคนมีการศึกษา??ถึงคิดวิธีแก้ไขง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้สมองเช่นนี้??

นอกจากนี้ยังมีข้อความ “พอดีได้เห็นรูปจากเพื่อนซึ่ง โพสต์ลงในเฟซบุคเห็นแล้วรับไม่ได้มาก ๆ "
 
เราขอหมาสองตัวนี้มาจากท้ายกระบะพวกมัน.ในกระบะรถมีหมานอนอยู่หลายตัวที่กำลังถูกเอาไปฝังทั้งเป็นไม่มีใครกล้าช่วยเลย เพราะกลัวมีปัญหากับผู้บริหารของมหาลัย หมามีเจ้าของก็ยิงหมาท้องหมาพิการ พวกเขายิงหมด น่าสงสารมาก"

ทั้งนี้ได้มีการระบุว่ากี่ชีวิตก็มีค่าเหมือนกัน
 
คุณจะคิดแก้ปัญหาลดประชากรสุนัขในพื้นที่ของคุณก็ช่วยใช้สมองที่คุณอุตส่าห์ร่ำเรียนมาจนเป็นถึงผู้บริหารแก้ไขในวิธีการแบบมนุษย์ที่ได้รับการศึกษา และมีศีลธรรมอันดีงามได้มั๊ย?? ช่วยกันโหวต อย่าให้เรื่องนี้เงียบเลยนะคะ แย่มาก ๆ ค่ะ ขอบคุณเพื่อน ๆล่วงหน้านะคะ “ ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจ จากนักท่องอินเทอร์เนต และผู้รักสุนัขเป็นอย่างมาก

ขณะเดียวกัน เมื่อได้ตรวจสอบไปยังเฟสบุ๊คที่ผู้โพตส์ข้อความกล่าวอ้าง ปรากฏว่า ข้อความและภาพโดยมีการโพสต์ขึ้นในโซเซียลเน็ตเวิร์คครั้งแรก
 
โดยผู้ใช้นามแฝง ว่า “ PanaddaRachsiri” ได้มีการนำภาพสุนัขท้องแก่2 ตัว นอนหมดสติอยู่บนพื้น และภาพการผ่าตัดทำคลอด รวมถึงภาพลูกสุนัขจำนวนหนึ่งโดยระบุว่า กำลังช่วยสัตวแพทย์ผ่าตัดคลอดแม่สุนัขท้องแก่ ที่ถูกเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานียิงยาเพื่อฆ่าทิ้งหลังออกประกาศมหาวิทยาลัยฯให้เจ้าของสุนัขดูแลสุนัขในครอบครอง เมื่อวันที่ 9ก.พ.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลถึงการเพิ่มจำนวนของหมาจรจัดภายในมหาวิทยาลัยทำให้มหาวิทยาลัยต้องดำเนินการจัดเก็บสุนัขจรจัดออกจากพื้นที่

อย่างไรก็ตามหลังมีการแชร์ภาพเหตุการณ์และมีผู้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์

เป็นจำนวนมากนางวันวนัทธ์ วรภู หัวหน้างานฝ่ายสื่อสารองค์กรมหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้โพสต์ข้อความชี้แจ้งกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวา เนื่องจากในมหาวิทยาลัยมีสุนัขจรจัดมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ขึ้น เช่น สุนัขกัดนักศึกษาสุนัขวิ่งตัดหน้ารถทำให้เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง สุนัขรื้อถังขยะ เลียจานข้าวขึ้นไปนอนบนโต๊ะในโรงอาหาร เป็นต้น

ประกอบกับใกล้ถึงหน้าร้อนซึ่งอาจมีพิษสุนัขบ้าระบาดได้มหาวิทยาลัยห่วงใยในสวัสดิภาพและสุขอนามัยของนักศึกษา อาจารย์ บุคลากรและผู้มาติดต่อราชการ จึงมีความจำเป็นต้องจัดระเบียบสุนัขดังกล่าว

โดยมีวิธีการและกระบวนการที่ชัดเจน โปร่งใส ดังนี้ คือ วันที่ 5 ก.พ.57มหาวิทยาลัยได้ออกบันทึกข้อความเป็นหนังสือเวียนแจ้งแก่อาจารย์และบุคลากรให้ช่วยกำกับดูแลสุนัขของตนให้อยู่ในบริเวณบ้าน(อาจขังหรือล่ามไว้) ให้เรียบร้อย ภายในวันที่ 9 ก.พ.57 หากไม่สามารถดำเนินการได้มหาวิทยาลัยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดเก็บสุนัขไปเก็บในที่ที่มหาวิทยาลัยจัดเตรียมไว้

ต่อมาวันที่ 22 ก.พ.57 คณะทำงานได้ดำเนินการจัดเก็บสุนัขโดยได้รับความอนุเคราะห์กำลังคนและอุปกรณ์ต่าง ๆ

จาก สำนักการสาธารณสุขเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี และ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญประกอบด้วยนายวิรัตน์ ดีขุนทด หัวหน้าสัตวบาลและนักวิชาการสัตวบาล 2 คน ใช้อุปกรณ์ยิงสลบสัตว์ร่วมกับ ยาสลบ และ ยานำสลบ โดยตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่ายานำสลบนั้นเป็นตัวยาสำคัญที่ขาดไม่ได้เพื่อความปลอดภัยของสุนัข กล่าวคือเป็นยาที่ออกฤทธิ์เพื่อรักษาระบบการทำงานของหัวใจให้เป็นปกติป้องกันไม่ให้เกิดอาการช็อค

ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์อย่างดีมูลค่ากว่าแสนบาท มีความปลอดภัยกับสัตว์ร้อยเปอร์เซ็นต์และไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงใด ๆ
 
รวมถึงขั้นตอนการเคลื่อนย้ายสุนัขไปยังที่พักชั่วคราวที่สร้างไว้ที่วัดสวนโมกขธรรมารามซอย 5 นิคมสร้างตนเองขุนทะล ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมหาวิทยาลัยได้ติดต่อขอความอนุเคราะห์เอาไว้ก่อนหน้านี้โดยมหาวิทยาลัยได้จัดหาอาหารสำหรับสุนัขไว้ให้อย่างเพียงพอและเตรียมการสำหรับฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าและคุมกำเนิดเอาไว้แล้วเมื่อสุนัขได้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็จะตื่นขึ้นมาตามปกติ ทั้งนี้ทุกท่านสามารถเยี่ยมชมความเป็นอยู่ของสุนัขหรือร่วมบริจาคอาหารได้ที่วัดดังกล่าวส่วนสุนัขตัวใดที่มีเจ้าของและอาจถูกจัดเก็บมาอยู่ที่วัดด้วยเจ้าของสามารถมารับตัวกลับได้ตลอดเวลา

ในข้อความชี้แจ้งยังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานีได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดพิธีพระราชทานปริญญาบัตรบัณฑิตราชภัฏภาคใต้มาต่อเนื่องถึง3 ปีซ้อน ตั้งแต่ พ.ศ.2554-2556 ทางมหาวิทยาลัยฯ จึงต้องดำเนินการจัดเก็บน้องหมาก่อนจัดงานทุกครั้ง