เหยื่อร้านวิวาห์ฉาว! เปิดใจสูญเงินนับแสน โดนหลอกขายแพ็กเกจแต่งงาน

โพสต์จากเพจเฟซบุ๊ก Red Skull

ต่อมา ประเด็นดังกล่าว ได้รับการเปิดเผยผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก Red Skull และอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น V4 โดยเป็นกรณีของผู้เสียหายที่ถูกร้านเวดดิ้งสตูดิโดหลอกลวง และฉ้อโกงเงินด้วยพฤติการณ์ต่าง ๆ กัน และเมื่อกลุ่มผู้เสียหายเดินทางไปที่ร้านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่า ร้านนำป้ายกระดาษมาแปะว่าขอปิดปรับปรุง ในวันที่ 11-12 พฤศจิกายน ขณะที่พนักงานของร้านปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยอ้างว่าไม่รู้เรื่อง ให้รอถามจากทางเจ้าของร้าน โดยขณะนี้ ผู้เสียหายบางรายได้ทยอยไปแจ้งความเอาไว้ที่ สน.โชคชัย แล้ว

คุณนุ้ย (นามสมมติ) ผู้เสียหายถูกร้านวิวาห์ฉ้อโกง

วันที่ 12 พ.ย. 61 คุณนุ้ย (นามสมมติ) ผู้เสียหายถูกร้านวิวาห์ฉ้อโกง เปิดเผยว่า ตนมีกำหนดแต่งงานในช่วงกลางเดือน ธ.ค. ที่จะถึงนี้ แต่เพิ่งมาทราบว่าร้านไม่ได้ดำเนินการอะไร ทั้งที่ตกลงทำสัญญากันตั้งแต่เดือน ม.ค.

โดยก่อนเกิดเรื่อง ตนเข้ามาที่ร้านวิวาห์ดังกล่าวและพบกับนายปรรณวิสิฐ ซึ่งเสนอแพ็กเกจจัดงานแต่งงานแบบครบวงจร โดยตกลงราคาไว้ 700,000 บาท ซึ่งขณะนั้น ตนจ่ายเงินมัดจำไปก่อน 30 เปอร์เซ็นต์ ถัดมาไม่นาน นายปรรณวิสิฐได้เสนออีกว่า มีแพ็กเกจทัวร์ญี่ปุ่น เตรียมไว้มอบให้ลูกค้าพิเศษ แต่มีเงื่อนไขคือต้องจ่ายค่ามัดจำแพ็คเกจอีก 50 เปอร์เซ็นต์ ตนจึงยอมจ่ายเงินเพิ่ม รวมเป็นเงิน 350,000 บาท แต่เมื่อเวลาผ่านไปหลายเดือน พบว่า ร้านไม่เคยแจ้งความคืบหน้า อ้างเพียงว่าติดธุระเพราะมีลูกค้าเยอะ และเมื่อถึงช่วงถ่ายพรีเวดดิ้ง ตนก็ต้องเป็นผู้ทวงถาม กระทั่งร้านยอมนัดคิวถ่ายภาพให้

นายปรรณวิสิฐ เจ้าของร้านวิวาห์ดังกล่าว

ต่อมา เดือน ส.ค. ตนสอบถามความคืบหน้าเรื่องงานแต่งงาน แต่ร้านก็บ่ายเบี่ยงและไม่ยอมตอบไลน์ ตนจึงตัดสินใจไปค้นหาข้อมูลด้วยตัวเอง และพบว่าเจ้าของร้านมีร้านวิวาห์หลายสาขา ซึ่งส่วนใหญ่มักมีลูกค้าออกมาเตือนให้ระวังถูกหลอก หลังจากนั้น เธอจึงไปขอยกเลิกสัญญา และขอให้ทางร้านคืนเงิน แต่ร้านขอคิดค่าดำเนินการ 80,000 บาท และจะคืนให้ 270,000 บาท แต่กระทั่งวันนี้ ตนก็ยังไม่ได้รับเงินคืน

ภาพซุ้มก๋วยเตี๋ยวในงานแต่งงานของผู้เสียหายรายอื่น ซึ่งดำเนินโดยร้านวิวาห์ดังกล่าว

ล่าสุด ในกลุ่มไลน์ของผู้เสียหาย พบว่ามีสมาชิกกว่า 300 คน แล้ว ส่วนใหญ่ถูกหลอกให้ซื้อแพ็กเกจแต่งงานในราคาถูก แต่สุดท้ายไม่ยอมจัดงานให้ หรือได้รับชุดแต่งงานไม่ตรงกับที่ลองไว้ บางคนเสียเงินค่าจัดงานถึง 500,000 บาท แต่คุณภาพของงานกลับออกมาแย่ ทั้ง การตกแต่งไม่สมราคา ไฟไม่ติด เก้าอี้หัก อาหารในงานได้แค่ซุ้มก๋วยเตี๋ยว กับบาร์บีคิวเสียบไม้เหมือนขายหน้าโรงเรียน และผู้เสียหายส่วนใหญ่ไม่มีใครสามารถติดต่อเจ้าของร้านได้เลย

ผู้เสียหายรวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านวิวาห์ดังกล่าว

นอกจากนี้ นางสาวชมพูนุช โตศักดิ์สิทธิ์ ผู้เสียหายถูกร้านวิวาห์ฉ้อโกงอีกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากจังหวัดราชบุรี เพื่อเข้าแจ้งความที่ สน.โชคชัย โดยตนเองได้ฤกษ์แต่งงานวันที่ 10 พ.ย. 61

ซึ่งก่อนหน้านั้น ตนเตรียมหาสถานที่ ช่างแต่งหน้าทำผมและเช่าชุดแต่งงาน มาตั้งแต่เดือน ก.ค. กระทั่งมาพบร้านดังกล่าวในเฟซบุ๊ก โดยร้านอ้างว่ามีราคาโปรโมชั่นให้แค่ 30 ท่านแรกเท่านั้น โดยสามารถจองแพ็กเกจแต่งงานไว้ก่อน และสามารถจัดงานแต่งเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ต้องโอนเงินมาภายในวันที่ 2 ก.ค. จำนวนเงิน 8,900 บาท แล้วร้านจะนัดวันมาลองชุด โดยให้เข้ามาลองชุดเป็นรอบ จำกัดเพียง 4 รอบ เท่านั้น

ตนรู้สึกเชื่อถือ เพราะเห็นว่าร้านดังกล่าวมีการจัดการเป็นระบบ ซึ่งหลังโอนเงินจองชุดแล้ว ร้านแจ้งว่าจะเก็บชุดไว้ให้ แต่ต้องจ่ายเงินค่ามัดจำชุดอีก 25,000 บาท รวมจ่ายเงินไป 33,900 บาท หลังจากนั้นได้เดินทางมาลองชุด

เมื่อถึงวันนัดรับชุด ตนถูกร้านปล่อยให้รอถึง 4 ชั่วโมง ก่อนจะแจ้งว่า ชุดที่ตัวเองจองไว้ทั้ง 4 ชุด ให้คนอื่นเช่าไปแล้ว และไม่มีชุดตามที่ทำสัญญากันไว้

ผู้เสียหายรวมตัวกันที่บริเวณหน้าร้านวิวาห์ดังกล่าว

และเมื่อตนขอเงินคืน ร้านก็ต่อรองว่า ขอเลื่อนวันส่งชุดออกไปอีก 1 วัน โดยจะส่งไปให้ที่จังหวัดราชบุรี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้มีการนำชุดมาส่ง และไม่สามารถติดต่อทางร้านได้อีก ตนจึงตัดสินใจเดินทางไปที่ร้านที่กรุงเทพฯ และได้พบกับผู้เสียหายรายอื่น ซึ่งเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกัน เดินทางมาทวงเงินที่ร้านด้วย ซึ่งพนักงานที่ร้าน ยังบอกว่า ตั้งแต่เปิดร้านมา ยังไม่เคยเจอหน้าเจ้าของร้านเลย และก็ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อเจ้าของร้าน

จากนั้นตนและผู้เสียหายรายอื่นจึงเดินทางไปแจ้งความ ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตนเองเสียทั้งความรู้สึก และต้องเสียเงินไปเช่าชุดใหม่ ได้ชุดก่อนวันงานแค่วันเดียว ซึ่งจนถึงตอนนี้ร้านวิวาห์ก็ยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใด ๆ

ร้านวิวาห์ที่ถูกร้องเรียน

จากนั้น ที่ร้านวิวาห์ดังกล่าว ทีมข่าวได้ข้อมูลจาก คนใกล้ชิด ระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) เวลา 10.00 น. นายปรรณวิสิฐ เจ้าของร้าน จะแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงที่ร้าน โดยเบื้องต้นให้ข้อมูลเพียงว่า นายปรรณวิสิฐเดินทางไปประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 7 พ.ย. เพื่อซื้อชุดเข้าร้าน ไม่ได้ปิดร้านหนีแต่อย่างใด

ข้อความหน้าร้านวิวาห์

ส่วนที่มีผู้ระบุว่ามีการขนของในร้านขึ้นรถกระบะนั้น ยืนยันว่าว่าเป็นการขนของเพื่อไปจัดงานแต่งงานให้กับลูกค้า ที่มีการทำสัญญาไว้ ไม่ใช่การขนของหนี นอกจากนี้ ทีมข่าว ได้ข้อมูลจากการสอบถามคนในพื้นที่ ทราบว่า ร้านดังกล่าวมาเช่าอยู่ที่ตึกดังกล่าวตั้งแต่ประมาณ 6 เดือนที่แล้ว โดยช่วงที่มาเช่า พบว่า ร้านมีปัญหาทางการเงิน

ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.โชคชัย

อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีความจนถึงขณะนี้เบื้องต้นมีผู้เสียหาย เกือบ 100 รายเดินทางมาแจ้งความ ที่ สน.โชคชัย มีทั้งผู้เสียหาย จากการซื้อแพ็กเกจจัดงานวิวาห์ และแพ็กเกจเช่าชุดวิวาห์ เบื้องต้นตำรวจ สน.โชคชัย เตรียมออกหมายเรียกนายปรรณวิสิฐ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาฉ้อโกง หากไม่เดินทางมาจะมีการออก หมายเรียกครั้งที่ 2 และหากยังไม่มาก็จะมีการออกหมายจับตามขั้นตอนต่อไป