เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ 3 นักท่องเที่ยวหลงป่าแก่งกระจาน 3วันเต็ม ชัยวัฒน์ฮีโร่ ขึ้นฮ.ช่วย

เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ 3 นักท่องเที่ยวหลงป่าแก่งกระจาน 3วันเต็ม ชัยวัฒน์ฮีโร่ ขึ้นฮ.ช่วย


เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 เม.ย. นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เปิดเผยว่า เมื่อเย็นของวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมาได้รับรายงานจากนายสมคิด  ขาวประเสริฐ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ ที่แก่งกระจาน 19 เขาพะเนินทุ่ง ว่าได้ตรวจพบรถกระบะต้องสงสัย วีโก้สีดำ ทะเบียน ฒม-1998 กทม. จอดทิ้งอยู่ที่จุดพักค้างแรมบนเขาพะเนินทุ่ง ตรวจสอบพบว่า ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทั้งหมดได้เดินทางเข้ามาพักค้างแรมบนเขาพะเนินทุ่ง ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.2556 และครบกำหนดต้องกลับออกจากพื้นที่ในวันที่ 16 เม.ย. แต่ไม่พบเจ้าของรถ เบื้องต้นเชื่อว่า อาจเดินลงไปเที่ยวตามเส้นทางแล้วพลัดหลง


นายชัยวัฒน์ จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเดินออกลาดตระเวนค้นหาตั้งแต่วันที่ 16 ที่ผ่านมาแต่ไม่พบและเริ่มค้นหาต่อตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ (17 เม.ย.) กระทั่งเมื่อเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบแค๊มป์พักของนักท่องเที่ยวที่บริเวณน้ำตกทอทิพย์ โดยมีสมุดโน้ตบันทึกทิ้งไว้เป็นลายมือเขียนว่า


 “ 7.30 น. กำลังเดินทางลงไปลำน้ำฝั่งตรงข้ามกองไฟ 2 ชม. ถ้าไม่เจออะไรก็จะกลับมา 15 เมษายน 2556 คนเดินป่า”



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่า แคมป์พักและสมุดโน้ตดังกล่าวอาจเป็นของนักท่องเที่ยวเจ้าของรถยนต์คันดัง กล่าวที่จอดทิ้งไว้ จึงได้รายงานกลับไปยังหน.อช.แก่งกระจานอีกครั้ง


ต่อมานายชัยวัฒน์ ได้ประสานไปยังแผนกทะเบียนกรมการขนส่ง ตรวจสอบทะเบียนรถยนต์เพื่อหาเจ้าของรถ และสืบทราบจนติดต่อผู้เกี่ยวข้องกับเจ้าของรถ และติดต่อประสาน กับนางวินิจ แดงภิรมย์ เบื้องต้นนางวินิจยืนยันว่า รถยนต์คันดังกล่าวเป็นญาติของตนเองที่เดินทางไปพักแรมที่เขาพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และออกเดินทางไปตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมีคณะที่ร่วมเดินทางไปด้วยกันทั้งหมด 3 คน คือ  น.ส.สวนี   สว่างแสง อายุ 45 ปี นายชวลิต  พงษ์พัฒน์ อายุ 32 ปี และ น.ส.สุวรรณา สว่างแสง อายุ 50 ปี  ซึ่งทั้งสามคนจะต้องกลับมาทำงานยังไม่ได้มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด โทรศัพท์สอบถามก็ไม่มีสัญญานตอบรับจึงได้ประสานให้ทางอุทยานฯช่วยติดตามค้น หาตัวทั้งสามคนให้ด้วย


ทั้งนี้  นายชัยวัฒน์ ได้จัดชุดลาดตระเวนเดินเท้าจำนวน 30 นาย แบ่งเป็นชุดล่องแพจากต้นแม่น้ำเพชรลงไปตลอดเส้นทางน้ำ และชุดทำแพคเฮลิคอปเตอร์กลางเส้นทางแม่น้ำเพชรในกรณีเหตุฉุกเฉินแล้ว โดยได้มีการประสานงานขอเครื่องเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อมเข้าร่วมบินค้นหา


กระทั่งเวลา 16.00 น. เฮลิคอปเตอร์ที่นายชัยวัฒน์และเจ้าหน้าที่บินลาดตระเวน ได้สังเกตเห็นกลุ่มบุคคลจำนวน 3 คนที่กำลังค้นหาที่บริเวณห้วยขุนกระเวน ใกล้บ้านซับชุมเห็ด  เขตอุทยานฯ ต.ห้วยแม่เพรียง อ.แก่งกระจาน แต่บริเวณดังกล่าวเป็นโขดหินใหญ่ ริมแม่น้ำเพชรบุรี มีสภาพเป็นป่าทึบ ไม่สามารถนำเครื่องลงจอดได้ ต้องใช้วิธีให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯโดดลงจากเครื่องเพื่อทำลานจอด ฮ.ชั่วคราว


 ปรากฏว่า บุคคลทั้ง 3 แสดงความดีใจสุดขีด การทำลานจอดใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงแล้วเสร็จ คณะจึงนำ ฮ.ลงจอดแล้วรับคนทั้งหมดบินกลับมาถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ประมาณ 18.00 น.  เมื่อมาถึงทั้งสามได้โผกอดนางมิรันตรี แดงภิรมย์ อายุ 57 ปีพี่สาวนายชวลิตที่มารอรับอย่างดีใจ


จากนั้นบุคคลทั้งสามที่อยู่ในสภาพอิดโรยได้ถูกนำตัวส่งไปยัง รพ.แก่งกระจาน เพื่อตรวจสุขภาพ ซึ่งไม่พบความผิดปกตินอกจากต้องให้พักผ่อนหลังจากหลงป่านาน 3 วันเต็ม


น.ส.ขวัญฤดีเปิดเผยว่า ตนเป็นชาวบางขุนเทียน กรุงเทพฯ กับพวกเดินทางมาที่เขาพะเนินทุ่งในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเพื่อเที่ยวป่า พักผ่อนในช่วงวันสงกรานต์เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 เมษายน โดยซื้อตั๋วขออนุญาตเข้าออกป่าตามระเบียบ โดยกางเต๊นท์พักแรมที่ลานกางเต๊นท์เขาพะเนินทุ่ง กระทั่งเช้าวันที่ 14 ได้ตั้งใจจะเดินลงไปเที่ยวที่ KU แค้มป์ โดยนำรถไปจอดที่ลานจอดรถ กม.36 แล้วลงเดินสักระยะหนึ่งเจอสามแยก ทางด้านขวามีต้นไม้ล้มทางอยู่ จึงเดินไปที่ถนนด้านซ้ายโดยคิดว่าเป็นเส้นทางไปยัง KU แค้มป์ สักระยะหนึ่งเจอสภาพทางเป็นป่ารกทึบ จึงคิดว่าเดินผิดเส้นทาง จึงพยายามเดินกลับ แต่หาเส้นทางเดิมไม่เจอ กระทั่งพลบค่ำจึงก่อไฟเพื่อพักค้างแรม ซึ่งมีอาหารเพียงมายองเนสขวดเล็ก ๆ 1 ขวดกับเศษขนมปังหมูหยองแบ่งกันกินคนละ 1 ช้อน ก่อกองไฟแล้วนอนบนใบไม้ที่หามาได้ คอยส่องไฟฉายระวังสัตว์ร้าย


กระทั่งรุ่งเช้าวันที่  15 เมษายน ทั้งสามคนคิดว่าหลงป่าแน่นอนแล้วจึงตัดสินใจเดินไปที่ริมแม่น้ำ ก่อกองไฟข้างโขดหินใหญ่ซึ่งเป็นจุดที่เห็นเด่นชัดทางอากาศ  ตัดใบไม้และกิ่งไม้มาสุมเป็นเพิงพักนอน แบ่งอาหารที่เหลือกินกันประทังชีวิต ปักหลักนอนอยู่บริเวณดังกล่าวในคืนวันที่ 15 และ 16 โดยคิดถึงนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จะสามารถนำคณะมาช่วยเหลือได้ เพราะชื่นชมการทำงานนายชัยวัฒน์มานาน ที่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่อุทยานจะมาช่วยเนื่องจากการผ่านด่านเข้าออกที่ อุทยานฯต้องมีตั๋วและบันทึกรายละเอียดของรถและบุคคล การไม่ออกจากป่าตามกำหนดจะถูกติดตามตัวอย่างแน่นอน


“ดีใจมากที่คุณชัยวัฒน์กับเจ้าหน้าที่สามารถพบพวกเรา ไม่เช่นนั้นชะตากรรมจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริง ๆ” น.ส.ขวัญฤดีกล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์