เปิดห้องหมอเผ่า สถาบันกัลยาณ์ฯ

จะมีสถานที่แห่งหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเสมอ คือ สถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์

ไม่ว่าจะเป็นคดีที่โด่งดังล่าสุด

อย่างกรณี น.พ.ประกิตเผ่า ทมทิตชงค์ หรือ "หมอเผ่า" ผู้บริหารสถาบันกวดวิชา "แอพพลายฟิสิกส์" ที่มีอาการทางจิต จนญาติต้องนำส่งตัวเข้ารักษายังร.พ.ศรีธัญญา

แต่ต่อมา น.ส.เปมิกา วีรชัชรักษิต

อายุ 24 ปี นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะจิตวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อ้างตัวเป็นเพื่อนสนิท เข้าแจ้งความ สน.บางซื่อ ว่า ขอให้ปล่อยตัวหมอเผ่า เพราะไม่ได้ป่วยทางจิต

กระทั่งศาลมีคำสั่งให้ส่งตัว น.พ.ประกิตเผ่า ไปเข้าตรวจที่สถาบันกัลยาณ์ฯ เพื่อพิสูจน์ว่าป่วยจริงหรือไม่ แพทย์สถาบันกัลยาณ์ฯ ระบุว่า น.พ.ประกิตเผ่าป่วยจริง พร้อมรับตัวไว้รักษาต่อ จนขณะนี้หายป่วย และกลับบ้านได้แล้ว

หรืออีกคดีที่ครึกโครมก่อนหน้านี้

กรณี น.ส.จิตรลดา ตันติวานิชกุล คลุ้มคลั่งใช้มีดไล่แทงเด็กนักเรียนโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ บาดเจ็บไปหลายรายเมื่อเดือน ก.ย.2548 ศาลส่งตัวเข้าบำบัดยังสถาบันกัลยาณ์ฯ จนถึงขณะนี้

เริ่มมีความคิดที่จะจัดตั้งสถานพยาบาล เพื่อบำบัดผู้ป่วยทางจิตที่ก่อคดีอาญา ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก หลังจากมีบุคคลที่มีอาการวิกลจริตเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง และมีชาวเวียดนาม มีอาการทางจิตปีนเครื่องบินบี 17 ของสหรัฐอเมริกา ขณะจอดอยู่ที่สนามบินในประเทศไทย ทำให้กรมตำรวจในสมัยนั้นเสนอให้ตั้ง "โรงพยาบาลโรคจิตคดี" ขึ้นในพ.ศ.2496

กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทยร่วมกันดำเนินการ พร้อมเปลี่ยนชื่อโครงการเป็นนิติจิตเวช และเริ่มก่อสร้างอาคารโรงพยาบาล เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2510 บนเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ บริเวณทุ่งเนินทราบ ต.ทวีวัฒนา อ.ตลิ่งชัน จ.ธนบุรี ในขณะนั้น สร้างเสร็จและเปิดดำเนินการในวันที่ 24 ก.ย.2514

แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชคดี ป้องกันอันตรายที่จะเกิดกับสังคม พร้อมทั้งการวิเคราะห์โรคตามที่ตำรวจและศาลต้องการพยานและมีคลินิกนิติเวช (Forensic Psychiatric Clinic) เพื่อดูแลป้องกันผู้ป่วย ที่มีแนวโน้มจะประกอบอาชญากรรม

จะเป็นโถงสำหรับรับประทานอาหาร และทำกิจกรรมของผู้ป่วย นอกจากนี้ยังมีห้องสังเกตอาการ จะเปิดโล่งให้เจ้าหน้าที่สามารถมองเห็นผู้ป่วยได้ตลอดเวลา

ปกติจะเป็นห้องพักรวมมีทั้งหมด 4 เตียง แต่ช่วงที่น.พ.ประกิตเผ่าเข้าพัก ทางสถาบันกัลยาณ์ฯ จัดให้พักเพียงคนเดียวเป็นกรณีพิเศษ เพื่อความสะดวกในการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ภายในห้องพักจะมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ติดตามดูอาการคนไข้ตลอดเวลา

การใช้กล้องโทรทัศน์ไม่ได้เป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้ป่วย แต่เพื่อความสะดวกในการดูแลคนไข้ เนื่องจากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด