อันตรายมาก..แฟลตดินแดงพังถล่ม!! วสท.ชี้รื้อถอนอาคารผิดหลัก

วันที่ 3 เม.ย. 2562 จากกรณีแฟลตดินแดงพังถล่มระหว่างการรื้อถอน ส่งผลให้เสาไฟฟ้าและต้นไม้ที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงหักโค่นทับรถส่วนบุคคลและรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ จำนวน 9 คันได้รับความเสียหาย ล่าสุด รศ.เอนก ศิริพานิชกร ประธานสาขาวิศวกรรมโยธา สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า การรื้อถอนอาคารแฟลตดินแดงผิดหลักการ ทำให้โครงสร้างพังลง การใช้รถแบคโฮกระแทกเสาด้านล่างจะทำให้ด้านบนพังลงมาซึ่งเป็นอันตรายอย่างมาก

รศ.เอนก แนะนะว่า การรือถอนอาคารจะต้องรื้อจากบนลงล่างเท่านั้น อาจใช้เวลานานและสิ้นเปลืองงบประมาณ แต่มีความปลอดภัยและถูกต้องตามหลักการ ยืนยันว่า งานรื้อถอนเป็นงานที่ต้องมีวิศวกรควบคุม ต้องมีความเป็นมืออาชีพมากกว่านี้ ซึ่งตามหลักการต้องมีการขออนุญาต ส่งแผนการรื้อถอนด้วย

ด้าน น.ส.ปัญชพัฒน์ หลักดี ผู้อำนวยการเขตดินแดง กล่าวว่า มีคำสั่งห้ามการรื้อถอน ตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีการสร้างรั้วและไม่ได้รื้อถอนตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งมีประชาชนร้องเรียนเข้ามา ดังนั้นจะต้องตรวจสอบว่ามีขั้นตอนผิดพลาดอย่างไรทำไมจึงมีการฝ่าฝืนรื้อถอนในวันนี้ และจะแจ้งความดำเนินคดีกับทางการเคหะแห่งชาติกับบริษัทที่รื้อถอนและผู้ควบคุมอาคารตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ทีมข่าวสำรวจสถานการณ์ตึกดินแดงถล่ม พูดคุยกับนายอดุลย์ สนองผัน เจ้าของรถแท็กซี่ซึ่งนำรถไปจอดบริเวณตึกถล่ม เล่าเหตุการณ์ว่า หลังจากนำรถเข้าจอดและออกจากรถได้เพียงครู่เดียว ตัวอาคารก็ถล่มลงมาเกี่ยวเสาไฟฟ้าล้มทับรถที่นำไปจอด ก่อนเกิดเหตุเอะใจอยู่เหมือนกันว่า การทำงานของคนงานรื้อถอนเสี่ยงต่อการที่ตึกจะถล่มมายังรถและประชาชนที่อยู่อาศัย ยังคิดว่าจะรีบกลับไปย้ายรถแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว จากการสังเกตเห็นพบว่าการรื้อถอนอาคารมีเพียงคนงาน 3-4 คนเท่านั้น ไร้เงาวิศวกรควบคุมงานแต่อย่างใด

อีกทั้งพบว่าตั้งแต่เริ่มรื้อถอนไม่มีการกั้นรั้วกั้นป้องกันอย่างครอบคลุมส่วนทั้งหมดที่รื้อถอน ทำให้ประชาชนต่างไม่กล้าเดินผ่านและต้องย้ายไปจอดรถห่างกว่า 100 เมตร แต่ก็ยังเกิดเหตุนี้จนได้ นายอดุลย์กล่าวทิ้งท้ายว่าหากจะมีการรื้อถอนเพิ่มต้องควมคุมให้ปลอดภัยกว่านี้และเร่งประสานชดใช้ให้ผู้เสียหายทุกคนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากสูญเสียรายได้และเสียโอกาสในการทำงาน

ขณะนี้มี จนท.กองร้อยรักษาความสงบเขตดินแดงและปทุมวัน 10 นาย และ มทบ.11 จำนวน 20 นาย รักษาความปลอดภัยให้ประชาชน ระหว่างรอสภาวิศวกรรมสถานในพระบรมราชูปถัมภ์เข้ามาตรวจสอบว่ามีการรื้อถอนอย่างถูกต้องโดยปรากฎชื่อวิศกรคนใดเป็นผู้คุมงานหรือไม่