สรรพากรรีดภาษีน้องตั้งชื่อหลินปิง

สรรพากรแจงเงินรางวัลที่ได้จากการชิงโชคต้องเสียภาษี ภ.ง.ด.94 ด้วย

ไม่เกี่ยวกับหักภาษี ณ ที่จ่ายหลัง "น้องปลายฟ้า" โดนสรรพากรรีดภาษีเกือบ 3 แสนบาท จากเงินรางวัลที่ชนะการตั้งชื่อ “หลินปิง” ยายงงเห็นหักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้ว 5 หมื่นนึกว่าจบ พอสรรพากรส่งหนังสือ ทวงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีเลยไม่ได้สนใจ จนยอดเงินบานปลายเป็น 2.7 แสน ครวญใช้เงินไปเกือบหมดแล้ว ไม่มีปัญญาจ่ายภาษีงวดเดียว ขอผ่อนเดือนละ 500-1,000 บาท จนท.ระบุจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ ไม่เช่นนั้นมีความผิดฐานละเว้นฯ      
   
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ต.ค. นางมะลิวัลย์ พิลาศรี อายุ 57 ปี อยู่   บ้านเลขที่ 95 ชุมชนตลาดในเขตเทศบาลตำบลวานรนิวาส อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร

พร้อมด้วย ด.ญ.ปลายฟ้า สีหาคม หรือน้องปิ่น อายุ 4 ขวบ เดินทางเข้าพบ น.ส.วัลภา มาลาเพชร สรรพากรเขตพื้นที่ จ.สกลนคร เพื่อรับฟังข้อชี้แจงในการเสียภาษีของเงินได้ หลังจากที่น้องปลายฟ้าได้รับรางวัลจากการตั้งชื่อ “แพนด้าหลินปิง” เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 52 ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ จากนายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นเงินสด 1 ล้านบาท หักภาษี ณ ที่จ่าย แล้วคงเหลือ 9.5 แสนบาท และรถยนต์จำนวน 1 คัน ซึ่งได้ขายไปเป็นเงิน 4 แสนบาท รวมยอดรายรับ 1.4 ล้านบาท 
       
น.ส.วัลภา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การที่น้องปลายฟ้าได้รับรางวัลจากการชิงโชค ตามปกติแล้วจะต้องเสียภาษีให้กับทางสรรพากรโดยไม่มีข้องดเว้น

เพราะเป็นส่วนที่ได้จากการชิงโชคไม่เกี่ยวกับการหักภาษี ณ ที่จ่าย ซึ่งเรื่องนี้ทางสรรพากรได้เคยเรียกเก็บจากผู้ที่ได้รับรางวัลประเภทนี้มาแล้ว ซึ่งถ้าสรรพากรไม่เรียกเก็บจะถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนกรณีของน้องปลายฟ้าตนก็เห็นใจ เหมือนกับว่าทางสรรพากรรังแกเด็ก 


ในช่วงที่ได้รับรางวัลใหม่ ๆ ในช่วงเดือน ต.ค. 52

ทางสรรพากรอำเภอเคยได้ส่งหนังสือเตือนให้มากรอกแบบยื่นเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือ ภ.ง.ด.94 ซึ่งในช่วงนั้นทางผู้ปกครองของน้องปลายฟ้าไม่มาติดต่อ ปล่อยให้เป็นดินพอกหางหมู จนยอด เงินขณะนี้จำนวน 2.7 แสนบาท เพราะการคำนวณภาษีเงินได้จะเพิ่มขึ้นทุกเดือน อย่างไรก็ตามก็มีข้อประนีประนอมกันได้ว่าผู้ปกครองจะจ่ายชำระภาษีได้เท่าไหร่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ในอำนาจการตัดสินใจของอธิบดีกรมสรรพากรที่จะให้การอนุมัติ
ซึ่งทราบว่าทางผู้ปกครองของน้องปลายฟ้าจะขอจ่ายเดือนละ 500-1,000 บาท
         
ทางด้านนางมะลิวัลย์ กล่าวว่า ตนได้เข้าพบและได้รับฟังคำชี้แจงแล้ว แต่เนื่องจากตนเข้าใจว่า ทางสรรพากรได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไปแล้วก็จบ

จึงไม่ได้เดินทางมาประสาน งานกับทางสรรพากร หลังจากได้รับหนังสือทวงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีจากสรรพากร ซึ่งตนเข้าใจว่าคงเป็นการสื่อสารกันไม่เข้าใจ ประกอบกับตนเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาไม่เข้าใจเรื่องนี้ จนเวลาล่วงเลยและเงินชำระภาษีก็งอกเงยขึ้นมาเรื่อย ๆ เป็นจำนวน 2.7 แสนบาท ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหาเงินมาชำระในครั้งเดียวได้ เพราะได้ใช้จ่ายในครอบครัวจนเหลือเงินไม่ถึง 2 แสนบาท ทั้งสร้างบ้านพักและโอนเข้าบัญชีเงินฝากเป็นค่าเล่าเรียนให้กับน้องปลายฟ้า อย่างไรก็ตามในวันนี้ตนได้ขอผ่อนผันกับทางเจ้าหน้าที่สรรพากรว่า จะขอผ่อนชำระเดือนละ 500-1,000 บาท
    
รายงานข่าวจากกรมสรรพากร กล่าวว่า ต้องกลับไปดูรายละเอียดใน 2 กรณีว่า เงินรางวัลที่ได้รับนั้น ได้รับจากองค์การสวนสัตว์โดยตรงเลยหรือไม่

หรือว่าได้รับเงินจากบริษัทเอกชนที่รับจ้างองค์การสวนสัตว์ เพื่อมาทำหน้าที่ในการจัดการประกวดและมอบรางวัลให้ เนื่องจากการรับเงินใน 2 กรณีดังกล่าวนี้มีความแตกต่างกันมาก โดยหากรับเงินโดยตรงจากองค์การสวนสัตว์  จะได้รับการยกเว้นตามกฎหมายประมวลรัษฎากร มาตรา 42 (11) ระบุว่า เงินรางวัล เพื่อการศึกษา ค้นคว้า ประกวด สลากกินแบ่งรัฐบาล ที่รัฐจ่ายให้ในการแข่งขันนั้น จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องหักภาษีแต่อย่างใด
   
แต่ทั้งนี้ หากเป็นเงินที่รับจากบริษัท เอกชนนั้น นอกจากจะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% แล้ว จะต้องจ่ายอีกครั้งหนึ่งในปลายปี เพราะถือเป็นเงินได้ โดยหากเป็นชื่อของน้องปลายฟ้า การเก็บภาษีปลายปีจะต้องให้ผู้ปกครองของน้องปลายฟ้าเป็นผู้ยื่นเสียภาษี และผู้ปกครองไม่มีสิทธิในการนำไปหักค่าลดหย่อนภาษีในปีนั้นด้วย.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์