ส.อ.ท.ระบุปัญหาการเมืองไม่ฉุดดัชนีเชื่อมั่นอุตสาหกรรมไทย


"สันติ" เผย ความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมไทย ม.ค.53 สูงสุดในรอบ 45 เดือน ลั่น ปัญหาการเมืองไม่กระทบความเชื่อมั่น เพราะมีคำสั่งซื้อเข้ามาสูงจนทำให้เกิดภาวะขาดแรงงาน...

เมื่อวันที่ 19 ก.พ. นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือน ม.ค. 53 อยู่ที่ 115.4 สูงสุดในรอบ 45 เดือน และ ปรับตัวสูงเกิน 100 ซึ่งเป็นภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวในระดับปกติ 4 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากยอดขาย และปริมาณการผลิตปรับเพิ่มตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการเปิดเสรีการค้าไทยอาเซียนทำให้ผู้ประกอบการมั่นใจในต้นทุนการนำเข้าและส่งออกลดลงด้วย

“แม้ไทยจะมีปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่มีแนวโน้มรุนแรง แต่ก็ไม่ได้ฉุดความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการลดลง เพราะปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ คำสั่งซื้อ ซึ่งในเดือน ม.ค. มีปริมาณสูงมาก ทำให้โรงงานต้องเพิ่มกำลังการผลิตจนต้องขาดแคลนแรงงานฝีมือในหลายอุตสาหกรรม จึงอยากให้รัฐบาลช่วยเหลือการพัฒนาฝีมือแรงงานให้ตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม”  ประธาน ส.อ.ท. กล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น เช่น อุตสาหกรรมหนังและผลิตภัณฑ์, เหล็ก, ปูนซีเมนต์, หลังคาและอุปกรณ์, แกรนิต, เซรามิก, โรงเลื่อย, ไม้อ้ด, เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์, ยา, น้ำตาล, อาหาร, สมุนไพร, ก๊าซ, พลังงานทดแทน, เคม, ยาง เป็นต้น ส่วนดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 111 เนื่องจากผู้ประกอบการประเมินว่ายอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย และปริมาณการผลิตจะปรับตัวลดลงในอนาคต ตามการชะลอตัวลงของการบริโภคในประเทศ แต่ยอดคำสั่งซื้อในต่างประเทศยังมีแนวโน้มดีต่อไป

ทั้งนี้ ยอมรับว่าปัจจัยเสี่ยงที่ภาคเอกชนกังวลมากสุดในเดือน ม.ค. คือ ผลกระทบราคาน้ำมัน รองลงมาการเมือง, อัตราแลกเปลี่ยน, ปัญหาเศรษฐกิจโลก และ แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ขณะเดียวกันได้เสนอให้รัฐบาลเร่งสร้างความชัดเจนแก้ปัญหาการลงทุนในนิคม มาบตาพุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ต่างชาติไม่เช่นนักลงทุนจะไม่ขยายการลงทุน พร้อมทั้งแก้ปัญหาการเมืองให้เกิดความสมานฉันท์, หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง และพัฒนาโลจิสติกส์

นายสันติ กล่าวต่อว่า ในเดือน มี.ค. นี้ ภาคเอกชนจะเดินทางร่วมกับ กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เพื่อไปชักชวนและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนรายใหม่ของญี่ปุ่นเข้ามา ลงทุนในไทย ทั้งการชี้แจงปัญหาการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เบื้องต้นทราบว่าบีโอไอจะนำผู้ประกอบการญี่ปุ่นในไทยไปช่วยชักจูงนักลงทุน เข้าไทยเพิ่มขึ้นด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์