ตร.ผวารถทัวร์4ศพ เฮี้ยนจัด เด็ก6ขวบเห็นผีจะจะ

เมื่อเวลา 08.30 น.วันที่ 29 ส.ค. ที่บริเวณซากรถโดยสาร กรุงเทพฯ-ศรีเชียงใหม่ ทะเบียน 12-8164 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 5-22 ม.1 ประสบอุบัติเหตุชนท้ายรถบรรทุกพ่วง บนถนนสายสีคิ้ว-ชัยภูมิ กม.24-25 ปากทางเข้าบ้านโกรกลึก หมู่ 2 ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เมื่อกลางดึกวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 4 ศพ และถูกยึดเป็นของกลางนำมาจอดไว้ริมถนนหน้า สภ.อ.ด่านขุนทด ได้มีข้าราชการตำรวจและชาวบ้าน นำโดย พ.ต.อ.ไอยศูรย์ สิงหนาท ผกก.สภ.อ. ด่านขุนทด ร่วมกันนิมนต์ พระครูวรธรรมนิเทศ หรือพระมหาลาภ เจ้าอาวาสวัดกระทุ่มโพรง หมู่ 6 บ้านกระทุ่มโพรง ต.หนองกราด อ.ด่านขุนทด พร้อมพระลูกวัดรวม 5 รูป มาทำพิธีปัดรังควานและสวดอุทิศส่วนกุศลให้ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

พ.ต.อ.ไอยศูรย์ สิงหนาท ผกก.สภ.อ.ด่านขุนทด เปิดเผยว่า

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำซากรถทัวร์ของกลางมาจอดเก็บรักษาไว้ริมถนนหน้าโรงพัก ต่อมามีชาวบ้านเล่าลือกันปากต่อปากอ้างว่า มีผู้พบเห็นวิญญาณของผู้เสียชีวิตมาปรากฏกายให้เห็น สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ที่สัญจรผ่านไปมา จนไม่มีใครกล้าเฉียดกรายเข้าไปใกล้ซากรถบัสคันดังกล่าว ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา นางมาลี แอ้นชัยภูมิ ภรรยา ของ จ.ส.ต.สมคิด แอ้นชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ.ด่านขุนทด มาเล่าให้ฟังว่า ขณะจูงมือ ด.ญ.ชนิตาภา แอ้นชัยภูมิ อายุ 6 ขวบ ลูกสาว เดินผ่านซากรถบัส ปรากฏว่า ด.ญ.ชนิตาภา ถึงกับหน้าซีดตัวสั่นไม่ยอมก้าวเดินต่อ เมื่อสอบถามว่าเป็นอะไร ลูกสาวก็อ้างว่า เห็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 1 คน ในสภาพเลือดท่วมตัว หน้าตาถมึงทึง นั่งอยู่ในรถบัส พร้อมกวักมือเรียกให้ ด.ญ.ชนิตาภาเข้าไปหา

หลังได้ยินลูกสาวพูดดังนั้น นางมาลีก็รีบอุ้มลูกสาวเข้าบ้านพักข้าราชการตำรวจที่อยู่หลัง สภ.อ.ด่านขุนทด และเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ จ.ส.ต.สมคิด ผู้เป็นสามีฟัง ทำให้เกิดเสียง เล่าลือกันไปทั่วในบรรดาครอบครัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถึงความเฮี้ยนของวิญญาณผู้เสียชีวิต เนื่องจากทั้ง 4 ชีวิต เป็นการตายอย่างผิดธรรมชาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าตายโหง ทำให้ดวงวิญญาณไม่สงบสุข กระทั่งเรื่องดังกล่าวมาเข้าหูตน จึงคิดว่าหากปล่อยไว้เช่นนี้ เหตุการณ์จะ ลุกลามบานปลาย กลายเป็นเรื่องเล่าลือโจษขานกันไปเรื่อยเปื่อยไม่จบไม่สิ้น ทั้งนี้ โดยส่วนตัว ตนและตำรวจในโรงพัก ไม่ได้มีความรู้สึกตื่นกลัวแต่อย่างใด คิดว่าเกิดจากความผูกพัน เพราะผู้เสียชีวิต 3 ใน 4 รายก็มีความสัมพันธ์กัน โดยคนหนึ่งเป็นพี่ชาย คนหนึ่งเป็นน้องสาว อีกคนหนึ่งเป็นชายคนรักที่กำลังจะแต่งงานกันหลังออกพรรษา แต่ต้องมาเกิดเรื่องเศร้าก่อน

เชื่อว่าดวงวิญญาณยังมีความผูกพันวนเวียนอยู่ด้วยกัน ไม่ไปไหน

"ตนเลยปรึกษากับตำรวจในโรงพัก ก่อนไปนิมนต์พระครูวรธรรมนิเทศ หรือพระมหาลาภ เจ้าอาวาสวัดกระทุ่มโพรง เกจิชื่อดังของอำเภอด่านขุนทด และเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ เกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ มาประกอบพิธีสวดส่งวิญญาณและอุทิศส่วนกุศลให้แก่ดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตทั้งหมด เพื่อเป็นการเรียกขวัญกำลังใจให้แก่ชาวบ้านและผู้ที่ต้องสัญจรผ่านไปมา จะได้ไม่เกิดความหวาดกลัวและไปลือกันผิดๆ” พ.ต.อ.ไอยศูรย์กล่าว

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ซักถามหนูน้อยที่เพิ่งผ่านประสบการณ์เหนือธรรมชาติมาสดๆร้อนๆ

โดย ด.ญ.ชนิตาภา เล่าให้ฟังอย่างฉะฉานว่า “เมื่อเย็นวานระหว่างที่หนูเดินผ่านซากรถบัสกับแม่ เห็นผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 1 คน นั่งอยู่ในรถ แต่ละคนเสื้อผ้าเนื้อตัวเปื้อนเลือด ผู้ชายคนแรก สวมเสื้อแขนยาวสีดำ อีกคนสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินขาว ชายคนสุดท้ายรูปร่างอ้วนๆ ไม่สวมเสื้อ ส่วนผู้หญิงรูปร่างผอมๆ ไว้ผมยาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีชมพู ผู้หญิงคนนี้หันมาสบตา โบกไม้โบกมือให้ หนูตกใจกลัวเลยบอกแม่”

หลังได้ยินเรื่องราวเหลือเชื่อจากปากเด็กน้อย ผู้สื่อข่าวและหน่วยกู้ภัยหลายนายที่เข้าไปปฏิบัติงานในช่วงที่รถทัวร์ประสบอุบัติเหตุ ต่างตกตะลึงและฉงนใจไปตามๆกัน

ก่อนลงความเห็นว่าเด็กไม่น่าจะโกหก เพราะสามารถบอกลักษณะรูปร่างหน้าตา และการแต่งกายของผู้เสียชีวิตทุกคนได้อย่างถูกต้อง ทั้งที่เด็กไม่เคยพบเห็นผู้เสียชีวิต หรือรู้เรื่องการเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวแต่ อย่างใด ขณะเดียวกันได้มีบรรดาเซียนหวยจำนวนมากแห่มามุงดูซากรถ เพื่อนำหมายเลขทะเบียนรถและตัวเลขที่เกี่ยวข้องไปแทงหวยทั้งใต้ดินและกว้านซื้อลอตเตอรี่รัฐบาลกันจนเกลี้ยงแผงในพริบตา